SLider section

ตำจิ้นแห้ง

ภาค เหนือ

  • recipe image cover

ตำจิ้นแห้ง

 

 

ความเป็นมา

จิ๊นแห้ง คือเนื้อวัวแห้งหรือเนื้อวัวย่าง เป็นการถนอมอาหารประเภทเนื้อวัวให้สามารถเก็บไว้ได้นานๆ ตำจิ๊นแห้งก็คือการโขลกพริกแกงกับเนื้อแห้งเพื่อให้มีรสชาติมากยิ่งขึ้น

 

คุณค่าทางโภชนาการ

ในส่วนผสมของตำจิ๊นแห้งมีสรรพคุณต่างๆ เช่น  กระเทียมช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อในร่างกายช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง และช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกาย หอมแดง ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ บำรุงหัวใจ

 

ส่วนผสม

เนื้อวัวแห้ง                100    กรัม

ผักชีซอย                  1        ช้อนโต๊ะ

ต้นหอมซอย              1        ช้อนโต๊ะ

กระเทียมสับ              1        ช้อนโต๊ะ

น้ำมันพืช                   2        ช้อนโต๊ะ

ส่วนผสมพริกแกง

พริกขี้หนูแห้ง            15      เม็ด

กระเทียม                  15      กรัม

หอมแดง                  40      กรัม

ข่าหั่น                       1        ช้อนโต๊ะ

เกลือ                         1        ช้อนชา

 

วิธีทำ

โขลกพริก หอมแดง กระเทียม ข่า และเกลือให้ละเอียด ใส่เนื้อวัวแห้งลงโขลกรวมกับเครื่องพริกแกงที่โขลกไว้ให้เข้ากัน พักไว้ เจียวกระเทียมกับน้ำมันพืช ใส่ส่วนผสมที่โขลกไว้ผัดให้เข้ากัน ตักใส่ชาม โรยด้วยผักชีต้นหอม

 

 

 

ภาค อีสาน

แจ่วฮ้อน

  ความเป็นมา แจ่วฮ้อน หรือสุกี้อีสาน มีวิธีทำเหมือนกับสุกี้ของภาคกลาง แต่จะใช้วัตถุดิบที่หาได้ง่ายในท้องถิ่นเพื่อรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวกินคู่กับน้ำจิ้มแจ่วรสแซ่บตามสไตล์ของคนอีสาน   คุณค่าทางโภชนาการ แจ่วฮ้อนมีส่วนผสมที่มีประโยชน์ เช่น ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด ที่ช่วยให้เจริญอาหาร ขับลม บำรุงร่างกาย และช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดี   ส่วนผสม เนื้อสัตว์ตามชอบ เช่น เนื้อหมู เนื้อไก่ กุ้ง ปลาหมึก น้ำซุปกระดูกหมู              1        ถ้วยตวง ข่าซอยละเอียด               15      กรัม ตะไคร้หั่นท่อน                30      กรัม รากผักชีทุบ                     10      กรัม ใบมะกรูด                          3        ใบ เกลือป่น                             1        ช้อนชา ใบผักชีฝรั่งซอย                15      กรัม ต้นหอมหั่น                       20      กรัม ใบโหระพา น้ำปลา น้ำตาลทราย ส่วนผสมน้ำจิ้มแจ่ว พริกป่น                        1        ช้อนโต๊ะ น้ำปลา                         2        ช้อนโต๊ะ ข้าวคั่ว                           2        ช้อนโต๊ะ น้ำมะขามเปียก              2        ช้อนโต๊ะ น้ำตาล                           1        ช้อนชา วิธีทำ ทำน้ำจิ้มแจ่วโดยผสมส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน คนให้น้ำตาลละลายพักไว้ จากนั้นตั้งน้ำซุปกระดูกหมูบนไฟกลาง ใส่ข่า ตะไคร้ รากผักชี ใบมะกรูด ปรุงรสด้วยเกลือ น้ำปลา น้ำตาลทราย จนน้ำซุปเดือด ใส่เนื้อสัตว์ ต้มจนเนื้อสัตว์สุกดี ใส่ผักชีฝรั่ง และต้นหอม ยกเสิร์ฟร้อนๆ


เพิ่มเติม

ภาค อีสาน

ตำถาด

    ความเป็นมา ตำถาด คือส้มตำที่มีเครื่องเคียงต่างๆวางไว้ด้วยกัน โดยจัดไว้อยู่ในถาด หรือในภาชนะเดียวกัน เพื่อสะดวกในการรับประทานและเพิ่มรสชาติ เป็นส้มตำที่ดัดแปลงมาเพื่อให้ถูกใจคนที่ชื่นชอบการทานส้มตำ   คุณค่าทางโภชนาการ ส้มตำไทย เป็นอาหารสุขภาพ ที่เปี่ยมไปด้วยวิตามินเกลือแร่จากผัก และเครื่องปรุงต่างๆ เช่น มะละกอมีเอนไซน์ปาปีน ที่ช่วยย่อยโปรตีน ทำให้ร่างกายย่อยอาหารได้ดี น้ำมะนาว มะเขือเทศ พริกขี้หนูมีวิตามินซีสูง ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความแก่และลดการเกิดริ้วรอยแห่งวัย นอกจากนี้ยังได้รับประโยชน์ต่างๆจากเครื่องเคียงที่ใส่ลงไป   ส่วนผสม มะละกอดิบสับเป็นเส้น      100    กรัม มะเขือเทศ                         20      กรัม มะกอก                                10      กรัม ปูดอง                                   1        ตัว น้ำปลา                                  1        ช้อนโต๊ะ น้ำปลาร้า                               2        ช้อนโต๊ะ มะนาว                                      1        ลูก กระเทียม                                  5        กรัม พริกขี้หนู                                   5        กรัม มะเขือเปราะ                             10      กรัม เครื่องเคียงตำถาด กุ้งต้มสุก                               100    กรัม ไข่ต้ม                                     1        ฟอง ไส้กรอกอีสานทอด                120    กรัม หมูยอ                                      1/2     ถ้วย แคบหมู                                    1/2     ถ้วย มะเขือเปราะ                             40      กรัม ผักสลัด ขนมจีน วิธีทำ โขลกกระเทียม พริกขี้หนูในครกให้พอแหลก ใส่ถั่วฝักยาวโขลกพอแหลกปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำปลาร้า น้ำมะนาว โขลกเบาๆ ใส่มะละกอ มะเขือเทศหั่นเป็นชิ้น ฝานมะกอกเป็นชิ้นบางใส่ลงโขลกเข้าด้วยกันจัดใส่ถาดไว้ตรงกลางแล้วนำเครื่องเคียงวางโดยรอบ    


เพิ่มเติม

ภาค ใต้

คั่วกลิ้งหมู

ความเป็นมา คั่วกลิ้งเป็นอาหารใต้อีกจานที่แสดงถึงเอกลักษณ์ของท้องถิ่นได้อย่างชัดเจน เพราะมีรสเผ็ดร้อนของพริกแกงที่มีทั้งพริกสด พริกแห้ง และสมุนไพรเด่นชัด เมื่อนำไปผัดยังต้องใส่สมุนไพรซอย เช่น ตะไคร้ ข่า ใบมะกรูด เพิ่มลงไป สีเหลืองจัดเพราะใส่ขมิ้น รสชาติทั้งเผ็ดทั้งร้อน จัดจ้าน และเมื่อเห็นร้านอาหารไหนขายคั่วกลิ้งจะรู้ทันทีว่าเป็นอาหารภาคใดไม่ได้นอกจากอาหารใต้เท่านั้น   คุณค่าทางโภชนาการ สีเหลืองเด่นของคั่วกลิ้งที่เคลือบหมูสับหรือไก่สับและสมุนไพรต่างๆ เป็นสีของขมิ้น สารสีเหลืองในขมิ้นนี้คือ “เคอร์คูมิน” ที่มีฤทธิ์เป็นกรดซึ่งมีสรรพคุณเป็นยา ช่วยรักษาแก้ท้องอืดท้องเสีย ปัจจุบันยังค้นพบว่าช่วยป้องกันไม่ให้ตับถูกทำลายจากสารพิษ มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เมื่อกินขมิ้นพร้อมกับอาหารจะช่วยป้องกันมะเร็งในลำไส้ และยังช่วยทำลายไวรัสที่ปนเปื้อนมากับอาหารได้  คั่วกลิ้งจึงจัดเป็น “อาหารเป็นยา” อย่างแท้จริง   ส่วนผสมพริกแกง พริกขี้หนูแห้ง 20 เม็ด ข่าหั่นแว่น 20 กรัม พริกไทยดำเม็ด 1 ช้อนโต๊ะ ขมิ้นยาว 2 นิ้ว  ตะไคร้ซอย  50 กรัม หอมแดง 40 กรัม กระเทียม 10 กรัม ผิวมะกรูด ½ ลูก กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ เกลือ 1 ช้อนชา  ตำส่วนผสมพริกแกงทุกกอย่างรวมกันจนละเอียด   ส่วนผสม เนื้อหมูสับหยาบ            500 กรัม พริกแกง                      1/2  ถ้วย ตะไคร้ซอย                   30   กรัม ข่าสับหยาบ                  3     ช้อนโต๊ะ ใบมะกรูดซอย               ¼    ถ้วย น้ำมัน                           2     ช้อนโต๊ะ น้ำสะอาด                     1     ถ้วย น้ำตาลทราย                 1     ช้อนโต๊ะ   วิธีทำ ผัดเครื่องแกงกับน้ำมันจนหอม ใส่หมูลงผัดให้เข้ากัน ค่อยๆ เติมน้ำเปล่าทีละน้อย ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล ใส่ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด ใช้ไฟอ่อนคั่วไปเรื่อยๆ จนเนื้อหมูสุกแห้ง    


เพิ่มเติม

close[x]
Questionnaire