SLider section

ปลาร้าสับทรงเครื่อง

ภาค อีสาน

  • recipe image cover

ปลาร้าสับทรงเครื่อง

ความเป็นมา

ปลาร้าเป็นการถนอมอาหารที่นิยมของทางภาคเหนือและภาคอีสาน ชาวอีสานใช้ปลาร้าเป็นเครื่องปรุงหลักในส่วนผสมของอาหารเกือบทุกชนิด ปลาร้าสับทรงเครื่องเป็นอีกเมนูหนึ่งซึ่งเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายซึ่งเป็นเมนูที่มีวิธีการทำง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก

 

คุณค่าทางโภชนาการ

โปรตีนจากปลาร้า ช่วยป้องกันการสะสมตัวของไขมันอิ่มตัวหรือคลอเลสเตอรอล น้ำมะนาวมีวิตามินซีสูงข่า ตะไคร้ ใบมะกรูดช่วยให้เจริญอาหาร ขับลม บำรุงร่างกาย และช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดี

 

ส่วนผสม

ปลาร้า(ใช้เฉพาะเนื้อ)                1        ถ้วย

พริกขี้หนู                                  8        กรัม

ตะไคร้หั่นฝอย                          6        ช้อนโต๊ะ

ข่าอ่อนสับ                                2        ช้อนโต๊ะ

ใบมะกรูดหั่นฝอย                      2        ช้อนโต๊ะ

กระชายสับ                               2        ช้อนโต๊ะ

หอมแดงสับ                              7        ช้อนโต๊ะ

กระเทียมสับ                             7        ช้อนโต๊ะ

น้ำมะขาม

น้ำตาล

 

วิธีทำ

ตำพริก ตะไคร้ ข่า ใบมะกรูด กระชาย หอมแดง กระเทียม ให้ละเอียด จากนั้นใส่เนื้อปลาร้าสับแล้ว ปรุงรสด้วยน้ำตาล และน้ำมะขามเปียก คลุกให้เข้ากัน เสิร์ฟคู่ผักสด

 

 

ภาค ใต้

แกงคั่วหอยขมใบชะพลู

ความเป็นมา แกงพื้นบ้านที่นำหอยขมหรือหอยจุ๊บที่อยู่ในแหล่งน้ำตามธรรมชาติมาแกงกับใบชะพลูที่หาได้ง่ายเช่นกัน แกงใส่กะทิที่ได้รสชาติหวานมัน รสเผ็ดร้อนเข้มข้นและกลิ่นหอมจากสมุนไพรสดในเครื่องพริกแกงคั่ว ทำให้เกิดความลงตัวในแกงพื้นบ้านจานนี้อย่างน่าประหลาดใจ   คุณค่าทางโภชนาการ หอยจุ๊บในตำราแพทย์แผนไทยระบุไว้ว่าทั้งเปลือกและเนื้อหอยมีสรรพคุณช่วยแก้กระษัยต่างๆ เช่น แก้ปวดเมื่อย บำรุงกำลัง บำรุงถุงน้ำดี และโรคทางเดินปัสสาวะอย่างโรคนิ่ว และเมื่อนำไปแกงกับใบชะพลูซึ่งมีสารออกซาเลตที่สามารถทำให้เกิดโรคทางเดินปัสสาวะอย่างโรคนิ่วได้ถ้ารับประทานมาก นับเป็นภูมิปัญญาของบรรพบุรุษที่นำส่วนผสมทั้ง 2 อย่างนี้มาปรุงเพื่อแก้กันจึงทำให้จานนี้สมดุลกินได้อย่างไม่มีปัญหา   ส่วนผสมพริกแกง พริกขี้หนูสด 15 เม็ด ตะไคร้ซอย 2 ต้น กระเทียม 10 กลีบ หอมแดง 5 หัว ขมิ้นยาว 2 นิ้ว ข่าหั่นแว่น  5 แว่น  พริกไทยเม็ด 2 ช้อนชา กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ เกลือ 1 ช้อนชา ตำส่วนผสมทุกอย่างให้ละเอียด ส่วนผสมแกง หอยขมสับก้นหอยแล้ว          500 กรัม ใบชะพลูซอย                         2     ถ้วย กะทิ                                        4     ถ้วย เกลือ                                        1     ช้อนโต๊ะ น้ำตาล                                     1     ช้อนโต๊ะ   วิธีทำ นำกะทิขึ้นตั้งไฟ พอเดือดใส่พริกแกง หอยขม คนให้เข้ากัน รอจนหอยสุก ใส่ใบชะพลู ปรุงรสด้วยเกลือ น้ำตาล ยกลง    


เพิ่มเติม

ภาค อีสาน

ส้มตำลาว

ความเป็นมา ส้มตำลาว คือส้มตำสูตรดัดแปลงของชาวลาว ซึ่งแตกต่างออกไปในแต่ละท้องถิ่น นิยมใส่ปลาร้าและมะละกอดิบเป็นหลัก ที่เรียกว่าตำลาวนั้นเพื่อให้เกิดความชัดเจนและแยกกันระหว่างตำลาวกับตำไทย เพราะแต่เดิมเรียกตำลาวว่า “ตำหมากหุ่ง”   คุณค่าทางโภชนาการ ส้มตำลาว มีวิตามินเกลือแร่จากผัก และเครื่องปรุงต่างๆ มะละกอช่วยย่อยโปรตีน ทำให้ร่างกายย่อยอาหารได้ดี น้ำมะนาว มะเขือเทศ พริกขี้หนูมีวิตามินซีสูง กระเทียมไทย ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อในร่างกาย และได้โปรตีนจากปลาร้า ช่วยป้องกันการสะสมตัวของไขมันอิ่มตัวหรือคอเลสเตอรอล   ส่วนผสม มะละกอสับเป็นเส้น              120    กรัม มะเขือเทศสีดา                    30      กรัม มะกอกสุก                             10      กรัม ถั่วฝักยาวหั่นเป็นท่อน          25      กรัม พริกขี้หนูสด                         8        เม็ด กระเทียม                              5        กรัม น้ำมะนาว                              1        ช้อนโต๊ะ น้ำปลา                                  1/2     ช้อนโต๊ะ น้ำปลาร้าต้มสุก                   1        ช้อนโต๊ะ   วิธีทำ โขลกกระเทียม พริกขี้หนูในครกให้พอแหลก ตามด้วยถั่วฝักยาวโขลกพอแหลกปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำปลาร้า น้ำมะนาว โขลกเบา ๆ ใส่มะละกอ มะเขือเทศหั่นเป็นชิ้น ฝานมะกอกเป็นชิ้นบางใส่ลงโขลกเข้าด้วยกันชิมรสตามชอบ ตักใส่จานเสิร์ฟพร้อมผักสด


เพิ่มเติม

ภาค กลาง

ต้มข่าไก่

ความเป็นมา ไก่ต้มข่าหรือต้มข่าไก่นั้นคล้ายกับต้มยำแต่มีกะทิเป็นส่วนผสม น้ำแกงจึงมีสีขาวนวล ได้ความหอม หวาน มัน จากกะทิ และกลิ่นของสมุนไพรต่างๆ รวมทั้งรสเผ็ดจากพริกขี้หนู ปรุงให้ได้รสเผ็ด เปรี้ยว เค็ม และต้องมีกลิ่นหอมเด่นของข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด และน้ำมะนาวสด คุณค่าทางโภชนาการ แม้ไก่ต้มข่าจะใช้กะทิซึ่งมีไขมันอิ่มตัว แต่สมุนไพรที่ใส่ล้วนมีสรรพคุณที่มีประโยชน์ทั้งสิ้น เช่น ข่า มีวิตามินซีสูง ช่วยขับลมในกระเพาะอาหารและลำไส้ แก้ปวดมวนท้อง ตะไคร้ มีแคลเซียม ฟอสฟอรัส และเหล็ก ช่วยขับลม ใบมะกรูดให้กลิ่นสดชื่น บรรเทาอาการวิงเวียน หน้ามืดเป็นลม และยังมีรสเปรี้ยวจากน้ำมะนาวซึ่งให้วิตามินซีเป็นอย่างดี ส่วนผสม กะทิสด               2 ถ้วย เนื้อไก่หั่นชิ้น      150 กรัม เห็ดฟาง              ½ ถ้วย ข่าหั่นบาง            ¼ ถ้วย ตะไคร้บุบ             50 กรัม ใบมะกรูด              5 กรัม พริกขี้หนูบุบ ตามชอบ น้ำปลา น้ำมะนาว ผักชีสำหรับโรยหน้า วิธีทำ ตั้งน้ำกะทิ 1 ถ้วย ผสมน้ำสะอาดจะได้เป็นหางกะทิ นำขึ้นตั้งไฟ ใส่ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูดลงไปจนเดือดและมีกลิ่นหอม ใส่เนื้อไก่ ตามด้วยเห็ดฟาง ต้มจนไก่สุกดี ใส่น้ำกะทิที่เหลือ ปรุงรสด้วยน้ำปลา ใส่พริกขี้หนู จากนั้นดับไฟและใส่น้ำมะนาว คนให้เข้ากัน ชิมรสให้ได้เปรี้ยว เค็ม เผ็ด หวานตาม ตักเสิร์ฟ


เพิ่มเติม

close[x]
Questionnaire