SLider section

ข้าวผัดน้ำพริกปลาทู

ภาค กลาง

  • recipe image cover
  • recipe image cover

ข้าวผัดน้ำพริกปลาทู

 

ความเป็นมา

น้ำพริกกะปิเป็นน้ำพริกคู่ครัวไทยที่เรียกได้ว่ากินกันทุกบ้านเพราะทำง่ายและเก็บได้นานปลาที่กินคู่กันได้อร่อยที่สุดก็คือปลาทู จนมีสำนวนติดปากว่า “น้ำพริกปลาทู” และการกินน้ำพริกให้อร่อยคือต้องนำไปคลุกกับข้าวและปลารวมกัน  ข้าวผัดจานนี้จึงเหมือนนำของเหลือติดครัวมาปรุงเป็นจานใหม่ได้อร่อยอย่างไม่น่าเบื่อ

 

คุณค่าทางโภชนาการ

ข้าวผัดจานนี้เป็นอาหารครบ 5 หมู่ ถ้ากินกับผักสด ได้คาร์โบไฮเดรทจากข้าว โปรตีนจากกะปิและปลาทูซึ่งมีไขมันโอเมก้า 3 สูงระดับแนวหน้าของปลาทะเล ไขมันจากน้ำมันที่  ผัด และผักสดที่กินแนมไปด้วยกันมีวิตามิน เกลือแร่ และกากใยสูง

 

ส่วนผสม

ข้าวหุงสุก                 2        ถ้วย

เนื้อปลาทู                 80      กรัม

น้ำพริกกะปิ               3        ช้อนโต๊ะ

น้ำมันสำหรับผัด         1        ช้อนโต๊ะ

 

วิธีทำ

ตั้งกระทะใส่น้ำมัน พอร้อนใส่ข้าวพร้อมน้ำพริกกะปิ ปลาทู ผัดจนเข้ากัน ตักขึ้น

กินกับผักสดต่างๆ เช่น ถั่วฝักยาว มะเขือเปราะ ขมิ้นขาว เป็นต้น

 

 

ภาค เหนือ

แกงอ่อมหมู

ความเป็นมา แกงอ่อมหมูของทางภาคเหนือ จะแตกต่างจากแกงอ่อมในภาคอีสาน เพราะมีพริกแกงที่รสชาติจัดจ้านกว่า สมัยก่อนแกงอ่อมของชาวล้านนาจะเป็นอาหารที่นิยมทานกันในช่วงเวลาที่สำคัญๆท่านั้น   คุณค่าทางโภชนาการ เครื่องแกงของแกงอ่อมมีคุณค่าทางโภชนาการสูง เช่นตะไคร้แก้และบรรเทาอาการหวัด อาการไอ ข่าช่วยบำรุงร่างกาย กระเทียมช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อในร่างกายป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง และช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกาย   ส่วนผสม หมูสามชั้นหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ            200    กรัม ข่าอ่อนซอย                                   10      กรัม ตะไคร้ซอย                                    15      กรัม ใบมะกรูด                                        4        ใบ รากผักชี                                         10      กรัม ผักชีฝรั่งหั่นหยาบ                          1        ช้อนโต๊ะ ผักชีซอย                                        1        ช้อนโต๊ะ ต้นหอมซอย                                  1        ช้อนโต๊ะ น้ำมันพืชสำหรับผัด ส่วนผสมพริกแกง พริกแห้ง                                     7        เม็ด หอมแดง                                     30      กรัม กระเทียม                                    15      กรัม ข่าซอย                                       1        ช้อนโต๊ะ ตะไคร้ซอย                                  1        ช้อนโต๊ะ รากผักชีซอย                                1        ช้อนชา กะปิ                                             1        ช้อนชา วิธีทำ ตำหรือปั่นส่วนผสมพริกแกงให้ละเอียด นำลงไปผัดกับน้ำมันจนมีกลิ่นหอม ใส่เนื้อหมูลงไปผัดจนหมูเริ่มสุก ใส่ข่า ตะไคร้ รากผักชี ผัดให้เข้ากัน เติมน้ำลงให้พอท่วมเนื้อหมู เคี่ยวต่อจนเนื้อนุ่ม ใส่ใบมะกรูด และผักชีฝรั่ง ตั้งไฟจนเดือด ยกลง ตักเสิร์ฟพร้อมโรยด้วยต้นหอม ผักชี    


เพิ่มเติม

ภาค กลาง

ก๋วยเตี๋ยวราดหน้า

    ความเป็นมา ก๋วยเตี๋ยวราดหน้าเป็นอาหารจานเดียวประเภทเส้นของคนจีนกวางตุ้ง ได้ข้ามาเป็นที่รู้จักในประเทศไทยในสมัยที่มีการอพยพเข้ามาของชาวจีนและคนจีนที่มีฝีมือทางด้านทำอาหารได้เปิดร้านเพื่อขายก๋วยเตี๋ยวราดหน้า เนื่องจากเป็นอาหารจานเดียวที่ทำได้ง่ายและเป็นที่นิยม จึงกลายเป็นที่แพร่หลายมาจนปัจจุบัน   คุณค่าทางโภชนาการ ก๋วยเตี๋ยวราดหน้าจัดเป็นอาหารเส้นที่มีคุณค่าอาหารครบ 5 หมู่ เส้นก๋วยเตี๋ยวทำจากแป้งข้าวเจ้า ในปริมาณ 100 กรัมจะให้พลังงาน 220 กิโลแคลอรีเพราะเส้นจะมีน้ำมันเคลือบ ในขณะที่ข้าวหุงสุก 100 กรัมให้พลังงาน 110 กิโลแคลอรี ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ราดหน้าหมู 1 จานให้พลังงาน  397 กิโลแคลอรี   ส่วนผสม ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่            120    กรัม เนื้อหมู                              50      กรัม ผักคะน้าหั่น                        50      กรัม เต้าเจี้ยว                              2        ช้อนโต๊ะ ซีอิ๊ว                                    1        ช้อนชา น้ำซุป                                   1        ถ้วย แป้งมันสำปะหลัง                 2        ช้อนโต๊ะ (ผสมน้ำเล็กน้อย) น้ำมันสำหรับผัด                  2        ช้อนโต๊ะ   วิธีทำ ตั้งกระทะใส่น้ำมันเล็กน้อยพอเคลือบกระทะ พอร้อนใส่เส้นลงไปผัดให้เส้นกระจายและไม่ให้ติดกัน ใส่ซีอิ๊วเล็กน้อย ผัดจนหอม ตักขึ้นใส่จานผัดหมูกับน้ำมัน พอสุกใส่ผักคะน้า เติมน้ำซุปเล็กน้อย ใส่เต้าเจี้ยว รอจนเดือด เติมแป้งมันสำปะหลังให้พอเหนียว ตักราดเส้นที่ผัดไว้ เสิร์ฟ    


เพิ่มเติม

ภาค กลาง

ต้มข่าไก่

ความเป็นมา ไก่ต้มข่าหรือต้มข่าไก่นั้นคล้ายกับต้มยำแต่มีกะทิเป็นส่วนผสม น้ำแกงจึงมีสีขาวนวล ได้ความหอม หวาน มัน จากกะทิ และกลิ่นของสมุนไพรต่างๆ รวมทั้งรสเผ็ดจากพริกขี้หนู ปรุงให้ได้รสเผ็ด เปรี้ยว เค็ม และต้องมีกลิ่นหอมเด่นของข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด และน้ำมะนาวสด คุณค่าทางโภชนาการ แม้ไก่ต้มข่าจะใช้กะทิซึ่งมีไขมันอิ่มตัว แต่สมุนไพรที่ใส่ล้วนมีสรรพคุณที่มีประโยชน์ทั้งสิ้น เช่น ข่า มีวิตามินซีสูง ช่วยขับลมในกระเพาะอาหารและลำไส้ แก้ปวดมวนท้อง ตะไคร้ มีแคลเซียม ฟอสฟอรัส และเหล็ก ช่วยขับลม ใบมะกรูดให้กลิ่นสดชื่น บรรเทาอาการวิงเวียน หน้ามืดเป็นลม และยังมีรสเปรี้ยวจากน้ำมะนาวซึ่งให้วิตามินซีเป็นอย่างดี ส่วนผสม กะทิสด               2 ถ้วย เนื้อไก่หั่นชิ้น      150 กรัม เห็ดฟาง              ½ ถ้วย ข่าหั่นบาง            ¼ ถ้วย ตะไคร้บุบ             50 กรัม ใบมะกรูด              5 กรัม พริกขี้หนูบุบ ตามชอบ น้ำปลา น้ำมะนาว ผักชีสำหรับโรยหน้า วิธีทำ ตั้งน้ำกะทิ 1 ถ้วย ผสมน้ำสะอาดจะได้เป็นหางกะทิ นำขึ้นตั้งไฟ ใส่ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูดลงไปจนเดือดและมีกลิ่นหอม ใส่เนื้อไก่ ตามด้วยเห็ดฟาง ต้มจนไก่สุกดี ใส่น้ำกะทิที่เหลือ ปรุงรสด้วยน้ำปลา ใส่พริกขี้หนู จากนั้นดับไฟและใส่น้ำมะนาว คนให้เข้ากัน ชิมรสให้ได้เปรี้ยว เค็ม เผ็ด หวานตาม ตักเสิร์ฟ


เพิ่มเติม

close[x]
Questionnaire