SLider section

กะหรี่ปั๊บไส้ไก่

ภาค อีสาน

  • recipe image cover

กะหรี่ปั๊บไส้ไก่

ความเป็นมา

กะหรี่ปั๊บคือของว่างซึ่งเป็นที่นิยมซื้อฝากและรับประทานกัน และเป็นของดีขึ้นชื่อประจำจังหวัดสระบุรี ไส้กะหรี่ปั๊บรสชาติดั่งเดิมจะเป็นรสจากผงกระหรี่ที่ใส่ลงไป จึงมีชื่อเรียกว่าcurry puff แต่มีการเรียกชื่อผิดเพี้ยนมาเป็นชื่อกะหรี่ปั๊บในปัจจุบัน

 

คุณค่าทางโภชนาการ

ในไส้กะหรี่ปั๊บ ผงกะหรี่ช่วยให้เจริญอาหาร ขับลม และขับปัสสาวะ มีเนื้อไก่ที่ให้โปรตีนที่มีประโยชน์ มีผักที่ให้วิตามินต่าง เช่น หอมใหญ่ มันฝรั่ง

 

ส่วนผสมแป้งชั้นนอก

แป้งสาลีอเนกประสงค์           5        ถ้วยตวง

น้ำปูนใส                            1/2     ถ้วยตวง

เนยขาว                             100    กรัม

น้ำตาลทราย                       3        ช้อนโต๊ะ

เกลือป่น                            3/4     ถ้วยตวง

วิธีทำ

ร่อนแป้งสาลีอเนกประสงค์พักไว้ละลายน้ำตาลทรายและเกลือป่นลงในน้ำเย็นเทลงในแป้งสาลี เติมน้ำปูนใสและเนยขาว นวดให้เนียน พักแป้งไว้ประมาณครึ่งชั่วโมง ตัดแป้งเป็นก้อนก้อนละ 45 กรัม นำไปหุ้มแป้งชั้นใน

 

ส่วนผสมแป้งชั้นใน

แป้งสาลีอเนกประสงค์           2        ถ้วยตวง

เนยขาว                             100    กรัม

วิธีทำ

ร่อนแป้งสาลีแล้วทำเป็นบ่อตรงกลาง ใส่เนยขาวนวดให้เข้ากันเป็นก้อน แบ่งเป็นก้อนก้อนละ 15 กรัม สำหรับทำแป้งชั้นใน

 


 

สวนผสมไส้ไก่

เนื้อไก่สับหยาบ                  300    กรัม

หอมใหญ่หั่น                       200    กรัม

มันฝรั่งสุกหั่น                       500    กรัม

ซอสปรุงรส                          2        ช้อนโต๊ะ

พริกไทยป่น                         1        ช้อนชา

ผงกะหรี่                              1        ช้อนชา

น้ำตาลทราย                       7        ช้อนโต๊ะ

เกลือป่น                               1 1/2 ช้อนชา

เนยสด                                  3        ช้อนโต๊ะ

น้ำสะอาด

วิธีทำ

ตั้งกระทะใส่เนย นำหอมใหญ่ลงผัดพอสุก ใส่เนื้อไก่และมันฝรั่ง ปรุงรสด้วยซอสปรุงรส พริกไทยป่น ผงกระหรี่ น้ำตาลทรายและเกลือป่น ผัดให้เข้ากัน พักให้เย็น

 

ขั้นตอนการทำกะหรี่ปั๊บไส้ไก่

แบ่งแป้งชั้นในและชั้นนอกให้ได้จำนวนก้อนเท่ากัน นำแป้งชั้นนอกหุ้มแป้งชั้นในคลึงแป้งครั้งที่ 1 แล้วม้วนแป้งคลึงแป้งครั้งที่ 2 แล้วม้วนแป้งตัดแป้งเป็น 2 หรือ 3 ท่อนคลึงแป้งให้เป็นแผ่นบางพอประมาณนำไส้ที่ผัดแล้วมาใส่ในแป้งที่คลึงเป็นแผ่นห่อไส้ให้มิด แล้วจับขลิบเป็นแบบวงรี นำลงทอดก่อนรับประทาน

 

 

ภาค เหนือ

แกงฮังเล

ความเป็นมา แกงฮังเล หรือ แกงฮินเล เป็นอาหารไทยที่มีต้นกำเนิดจากประเทศพม่า โดยคำว่า “ฮิน” ในภาษาพม่า หมายถึง แกง และ “เล” ในภาษาพม่า หมายถึง เนื้อสัตว์ แกงฮังเลหาทานได้ง่ายเพราะได้รับความนิยมแพร่หลายไปทั่วภาคเหนือ   คุณค่าทางโภชนาการ ขิงมีสรรพคุณหลากหลาย จัดว่าเป็นยาอายุวัฒนะ มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระอยู่เป็นจำนวนมาก ช่วยชะลอความแก่และชะลอการเกิดริ้วรอย ขิงมีฤทธิ์อุ่น ช่วยให้ร่างกายอบอุ่น และช่วยในการขับเหงื่อ   ส่วนผสม หมูสามชั้นหั่นเป็นชิ้น            1        กิโลกรัม ซีอิ๊วดำ                                  1        ช้อนโต๊ะ กระเทียมปอก                     1/2     ถ้วยตวง ขิงสดหั่นฝอย                      1/2     ถ้วยตวง น้ำมะขามเปียก                   1/2     ถ้วยตวง ผงกะหรี่                                1        ช้อนโต๊ะ น้ำปลา                                1/2     ถ้วยตวง น้ำมัน                                  1/2     ถ้วยตวง น้ำตาลปี๊บ                           1/2     ถ้วยตวง น้ำสะอาด                            3        ถ้วยตวง ส่วนผสมพริกแกง พริกแห้งหั่นแว่น                  6        เม็ด กระเทียมซอย                     2        ช้อนโต๊ะ หอมแดงซอย                      2        ช้อนโต๊ะ ตะไคร้ซอย                          1        ช้อนโต๊ะ ข่าซอย                                1        ช้อนชา เกลือป่น                               1        ช้อนชา กะปิ                                     2        ช้อนชา วิธีทำ ตำหรือปั่นส่วนผสมพริกแกงให้ละเอียด นำลงไปผัดกับน้ำมันให้หอม ใส่หมูสามชั้นหั่นชิ้นลงไปผัดให้เริ่มสุก ใส่กระเทียม เติมน้ำสะอาด ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ น้ำปลา ซีอิ๊วดำ ผงกะหรี่ คนให้เข้ากันตั้งไฟอ่อนจนเดือด ใส่ขิงสดหั่นฝอยคนให้เข้ากัน ตั้งต่อจนเดือดอีกครั้ง ตักเสิร์ฟ    


เพิ่มเติม

ภาค กลาง

ทอดมันกุ้ง

    ความเป็นมา ทอดมันกุ้งเป็นอาหารจีนที่ทั้งคนจีนและคนไทยนิยม เนื้อกุ้งหรือซีฟู้ดเป็นอาหารที่มีรสหวานอร่อยและให้โปรตีนสูง การนำกุ้งมาสับและทำให้เหนียวโดยใส่มันหมูเพื่อไม่ให้เนื้อกุ้งแข็งเกินไปเป็นเคล็ดลับการทำอาหารของจีน เช่นเดียวกับการชุบเกล็ดขนมปังก่อนทอดจะทำให้ผิวนอกกรอบและเนื้อในนุ่ม   คุณค่าทางโภชนาการ กุ้งเป็นอาหารทะเลที่มีวิตามินบี 12 สูงมาก ซึ่งเป็นวิตามินที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของเซลล์ทุกเซลล์ ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดงและเยื่อหุ้มใยประสาทด้วย และมีไอโอดีนที่ช่วยป้องกันโรคคอพอก   ส่วนผสม กุ้งชีแฮ้แกะเปลือก                      ½       กก. มันหมูสับ                                     50      กรัม ไข่ขาว                                         1        ฟอง แป้งข้าวโพด                                 1        ช้อนโต๊ะ น้ำมันงา                                       ½       ช้อนชา เหล้าเฉาชิง                                  1        ช้อนชา พริกไทยป่น เล็กน้อย เกล็ดขนมปังป่นสำหรับชุบทอด 1        ถ้วย น้ำมันสำหรับทอด วิธีทำ สับเนื้อกุ้งผสมกับมันหมูและส่วนผสมอื่น (ยกเว้นเกล็ดขนมปัง) นวดให้เข้ากัน แช่ตู้เย็นไว้ประมาณ 1 ชม. นำมานวดอีกครั้ง ปั้นเป็นชิ้นกลม คลุกเกล็ดขนมปัง ทอดในน้ำมันร้อนท่วม กินกับน้ำจิ้มบ๊วยรสเปรี้ยวหวาน    


เพิ่มเติม

ภาค อีสาน

ไส้กรอกอีสาน

ความเป็นมา ไส้กรอกอีสาน เป็นอาหารพื้นบ้านของชาวอีสาน มีรสชาติที่กลมกล่อมจากส่วนผสมที่มีเอกลักษณ์ลงตัว เป็นภูมิปัญญาโบราณ ที่ใช้ในการถนอมอาหารจากเนื้อสัตว์ที่มีมานานและเป็นวิธีการหมักบ่มให้มีรสเปรี้ยวด้วยข้าวสุกที่เหลือจากการรับประทานในแต่ละวันอีกด้วย   คุณค่าทางโภชนาการ ไส้กรอกมีเนื้อสัตว์ที่ให้โปรตีน นอกจากนั้นยังมี ตะไคร้ ช่วยแก้และบรรเทาอาการหวัด อาการไอกระเทียมไทยช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อในร่างกาย   ส่วนผสม ไส้หมู                                 1        กิโลกรัม หมูสับเนื้อส่วนสะโพก       1        กิโลกรัม มันหมูสับ                          ½       กิโลกรัม ตะไคร้บด                         2        ช้อนโต๊ะ เกลือ                               2        ช้อนโต๊ะ น้ำตาล                            1        ช้อนโต๊ะ พริกไทยขาวบด              2        ช้อนโต๊ะ พริกไทยดำบด                2        ช้อนโต๊ะ ข้าวสวยสุก                      1        ถ้วย   วิธีทำ ล้างไส้หมูให้สะอาด พักไว้ให้สะเด็ดน้ำ จากนั้นผสมเนื้อหมู มันหมู ข้าวสวยสุก ตะไคร้เข้าด้วยกัน ปรุงรสด้วยเกลือ น้ำตาลพริกไทยขาว พริกไทยดำ นำไปใส่ลงในไส้หมูที่เตรียมไว้ ใช้ด้าน หรือเชือกมัดให้เป็นข้อๆ หมักทิ้งไว้ในตู้เย็น 1 คืน จากนั้นนำมาผึ่งลมไว้อีก 2 – 3 วัน ก่อนจะนำมาปิ้งหรือทอดจนสุก กินคู่กับขิงดองและกะหล่ำปลีสด


เพิ่มเติม

close[x]
Questionnaire