SLider section

ไส้อ่อนย่าง

ภาค อีสาน

  • recipe image cover

ไส้อ่อนย่าง

 

 

ความเป็นมา

ไส้อ่อนหมู เป็นเครื่องในที่นิยมนำมาประกอบอาหาร เพราะรสสัมผัสที่เหนียวนุ่ม ยิ่งเคี้ยวยิ่งมีรสชาติ จึงเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก การนำไส้อ่อนมาย่างยิ่งเพิ่มรสชาติให้ไส้อ่อนอร่อยมากยิ่งขึ้น

 

คุณค่าทางโภชนาการ

ไส้อ่อนมีโปรตีน ช่วยซ่อมแซมร่างกายในส่วนที่สึกหรอกระเทียมช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อในร่างกายส่วนผสม

 

ส่วนผสม

ไส้อ่อน                    350    กรัม

รากผักชี                   20      กรัม

กระเทียม                   5        กรัม

พริกไทยป่น              ½       ช้อนชา

ซอสหอยนางรม         2 ½    ช้อนชา

ซอสปรุงรส               2 ½    ช้อนชา

ซีอิ้วขาว                   2 ½    ช้อนชา

น้ำตาลทราย             ½       ช้อนชา

เกลือป่น                    1        ช้อนชา

ตะไคร้หั่น                   10      กรัม

ใบมะกรูด                     3        ใบ

 

วิธีทำ

โขลกรากผักชี กระเทียม พริกไทยป่น ให้ละเอียด พักไว้ ต้มน้ำสะอาดใส่ตะไคร้ ใบมะกรูดและเกลือจนเดือดนำไส้อ่อนลงไปต้มประมาณ 45 นาทีเมื่อไส้อ่อนนิ่ม ตักขึ้นมาหั่นใส่ชามผสมไว้ ใส่รากผักชีกระเทียมพริกไทยที่โขลกไว้ และเครื่องปรุงทั้งหมดคลุกเคล้าให้เข้ากันหมักทิ้งไว้ 10-15 นาทีนำมาย่างด้วยไฟอ่อนๆ จนด้านนอกเปลี่ยนสี หั่นใส่จานทานกับน้ำจิ้มแจ่ว

 

 

 

ภาค ใต้

แกงเผ็ดหมูต้นข่าอ่อน

ความเป็นมา คนท้องถิ่นมักจะปลูกพืชผักสวนครัวไว้หลังบ้านเพื่อนำมาทำอาหารได้ง่าย พืชที่ปลูกมักจะกินบ่อยๆ เช่น พริก ข่า ตะไคร้ และใบมะกรูด ข่ามักจะใช้เหง้าแก่มาดับกลิ่นคาวโดยเฉพาะปลา ต้นข่าอ่อนจะมีลำต้นยาวและเหง้าอ่อน ที่นิยมนำมาทำอาหารทั้งแกงส้มและแกงเผ็ด   คุณค่าทางโภชนาการ ข่าอ่อนมีรสเผ็ดไม่มาก และมีสรรพคุณเป็นยาที่ใช้ขับลมในลำไส้ แก้ท้องอืด ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเส้นเลือดได้ และยังมีกากใยที่ช่วยขับถ่ายได้ดี เหง้าอ่อน 100 กรัมให้พลังงาน 20 กิโลแคลอรี มีฟอสฟอรัส 27 มิลลิกรัม วิตามินซี 23 มิลลิกรัม เมื่อนำมาแกงกะทิกับหมูและใส่น้ำพริกแกงจึงให้ทั้งโปรตีนและไขมัน   ส่วนผสม เนื้อหมูหั่น                             300    กรัม ต้นข่าอ่อนหั่นเป็นชิ้น             100    กรัม น้ำพริกแกง                             ¼       ถ้วย หัวกะทิ                                    1        ถ้วย หางกะทิ                                   2        ถ้วย น้ำปลา                                      2        ช้อนโต๊ะ น้ำตาลมะพร้าว                         2        ช้อนชา   ส่วนผสมน้ำพริกแกง พริกขี้หนู 20-30 เม็ด พริกไทยเม็ด 1 ช้อนชา กระเทียมหั่น 2 ช้อนโต๊ะ หอมแดงหั่น 2 ช้อนโต๊ะ ตะไคร้ซอย  3 ช้อนโต๊ะ ข่าหั่น 2 ช้อนชา ขมิ้นหั่น 1 ช้อนโต๊ะ กะปิ  2 ช้อนโต๊ะเกลือ 1 ช้อนชา ตำส่วนผสมพริกแกงรวมกันจนละเอียด   วิธีทำ ผัดพริกแกงกับหัวกะทิจนแตกมัน ใส่เนื้อหมูลงผัดพอสุก ใส่ต้นข่าอ่อน หางกะทิ ต้มไฟอ่อนจนเนื้อข่าอ่อนสุก ปรุงรส ยกลง กินกับผักสดต่างๆ


เพิ่มเติม

ภาค อีสาน

ลาบหมู

ความเป็นมา ลาบ เป็นอาหารท้องถิ่นของทางภาคอีสานและภาคเหนือ โดยนำเนื้อสัตว์มาสับให้ละเอียดแล้วคลุกกับเครื่องปรุง ลาบจะเป็นเมนูที่ทำให้สุกก่อนรับประทาน   คุณค่าทางโภชนาการ นอกจากโปรตีนจากเนื้อหมู ส่วนผสมของลาบมีสรรพคุณที่หลากหลาย เช่นหอมแดง ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ บำรุงหัวใจผักชีฝรั่ง ช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง ใบสะระแหน่ช่วยบำรุงสายตา คลายเครียด ต้นหอม ช่วยป้องกันอาการท้องผูกและลดคอเลสเตอรอลในกระแสเลือด   ส่วนผสม เนื้อหมูสับ                  150    กรัม หอมแดงซอย             10      กรัม ต้นหอมซอย                1        ช้อนโต๊ะ ผักชีฝรั่งหั่นหยาบ        1        ช้อนโต๊ะ ใบสะระแหน่                 10      กรัม ข้าวคั่วป่น                     2        ช้อนโต๊ะ พริกป่น                         1        ช้อนโต๊ะ น้ำปลา                         2        ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว                     2        ช้อนโต๊ะ   วิธีทำ นำหมูสับไปรวนในกระทะด้วยไฟอ่อนให้พอสุก ปิดไฟตักใส่ถ้วยผสมใส่หอมแดง ลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากันปรุงรสด้วย ข้าวคั่ว พริกป่นน้ำปลา และน้ำมะนาวใส่ต้นหอม ผักชีฝรั่ง และใบสะระแหน่ลงไป คลุกเคล้าพอเข้ากันตักใส่จาน เสิร์ฟพร้อมผักเคียงเช่น แตงกวา ถั่วฝักยาว กะหล่ำปลี


เพิ่มเติม

ภาค ใต้

แกงเผ็ดเห็ดแครง

ความเป็นมา แกงเผ็ดเป็นแกงที่ชาวบ้านทำกินกันทั่วไป และส่วนผสมก็มีได้หลากหลาย ส่วนใหญ่จะมีทั้งผักใบและผักหัวกับเนื้อสัตว์ เช่นไก่ กุ้ง แกงเผ็ดเห็ดแครงก็เป็นอีกเมนูที่นำเห็ดท้องถิ่นอย่างเห็ดแครงที่จะมีมากในฤดูฝน และขึ้นตามขอนต้นยางพาราที่ตัดทิ้งไว้มาแกงกับกะทิและใส่กุ้ง   คุณค่าทางโภชนาการ เห็ดแครงเป็นเห็ดพื้นบ้านที่หาได้เฉพาะทางใต้เท่านั้น ดอกเล็กรูปร่างคล้ายพัด ไม่มีก้านดอก คล้ายเปลือกหอยแครง สามารถเก็บไว้ได้หลายวัน ก่อนนำมาทำอาหารต้องแช่น้ำให้นิ่มและบานก่อน เนื้อจะกรอบอร่อย นิยมนำมาแกงใส่กะทิ เห็ดแครงมีคาร์โบไฮเดรทและโปรตีนสูง ยังมีคุณสมบัติเป็นยาที่ช่วยต่อต้านเชื้อไวรัสได้   ส่วนผสม เห็ดแครง                           150    กรัม กุ้ง                                      150    กรัม หัวกะทิ                               1        ถ้วย น้ำพริกแกงเผ็ด                  2        ช้อนโต๊ะ กะปิ                                     1        ช้อนโต๊ะ เกลือเล็กน้อย วิธีทำ ผัดพริกแกงกับกะทิพอหอม ใส่กะปิ กุ้ง พอเดือดใส่เห็ดแครง ผัดประมาณ 10 นาที จนเห็ดแครงสุก    


เพิ่มเติม

close[x]
Questionnaire