SLider section

อ่อมปลาดุก

ภาค อีสาน

  • recipe image cover

อ่อมปลาดุก

 

 

ความเป็นมา

อ่อมในภาคอีสานคือแกงที่โดดเด่นในเรื่องของกลิ่นและรสชาติ มีเอกลักษณ์จากผักชีลาวชาวอีสานนิยมรับประทานกันอย่างแพร่หลาย อีกทั้งยังสามารถใส่เนื้อสัตว์ต่างๆได้หลากหลายตามชอบ

 

คุณค่าทางโภชนาการ

เนื้อปลาดุกย่างมีสรรพคุณคือ มีโปรตีนสูง และไขมันต่ำ ผักชีลาวช่วยหยุดการเจริญเติบโตของเชื้อโรคต่างๆในร่างกาย ช่วยลดคอเลสเตอรอล  ลดกรดไหลย้อน ลดอาการนอนไม่หลับ แถมมีแคลเซียมช่วยบำรุงกระดูกและฟัน

 

ส่วนผสม

ปลาดุก หั่นชิ้น                     300    กรัม

ผักชีลาวหั่น                         50      กรัม

ต้นหอมหั่น                          20      กรัม

มะเขือเปราะหั่นเป็นซีก         40      กรัม

มะเขือพวง                          2        ช้อนโต๊ะ

ใบแมงลัก                          15      กรัม

พริกขี้หนูสด                       10      กรัม

ตะไคร้หั่น                          10      กรัม

หอมแดง                            20      กรัม

ข้าวเบือ                             2        ช้อนโต๊ะ

น้ำปลา                               2        ช้อนโต๊ะ

น้ำปลาร้า                            1/2     ถ้วย

น้ำสะอาด                            2        ถ้วย

วิธีทำ

โขลกหอมแดง และพริกขี้หนูสดให้ละเอียด      ใส่ลงในหม้อเติมน้ำสะอาดนำขึ้นตั้งไฟจนเดือด จากนั้นใส่มะเขือพวง มะเขือเปราะผ่าซีก และข้าวเบือ ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำปลาร้า เมื่อน้ำเดือดอีกครั้งใส่ปลาดุกต้มจนสุก สุดท้ายใส่ผักชีลาว ต้นหอม ตะไคร้ และใบแมงลัก ตักเสิร์ฟ

 

 

 

 

ภาค เหนือ

แอบปลากุ้ง

    ความเป็นมา แอบปลากุ้งนิยมใช้ปลาตัวเล็กกับกุ้งฝอยเป็นส่วนผสมร่วมกัน เนื่องจากหาได้ง่าย สามารถรับประทานได้ทั้งตัว   คุณค่าทางโภชนาการ ปลาและกุ้งตัวเล็กเป็นแหล่งแคลเซียม ช่วยในการเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง ตะไคร้แก้และบรรเทาอาการหวัด อาการไอ ข่าช่วยบำรุงร่างกาย กระเทียมช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อในร่างกายช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง และช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกาย   ส่วนผสม ปลาตัวเล็ก               200    กรัม กุ้งฝอย                      200    กรัม ต้นหอมหั่นฝอย          2        ช้อนโต๊ะ ผักชีหั่นฝอย                2        ช้อนโต๊ะ ใบมะกรูดหั่นฝอย         2        ช้อนโต๊ะ ใบตอง ไม้กลัด ส่วนผสมน้ำพริกแกง พริกสด                    7        กรัม ตะไคร้ซอย               3        ช้อนโต๊ะ ขมิ้นซอย                  1        ช้อนชา ข่าซอย                      1        ช้อนชา กระเทียมซอย            2        ช้อนโต๊ะ หอมแดงซอย             3        ช้อนโต๊ะ กะปิ                        1        ช้อนชา เกลือป่น                  1        ช้อนชา วิธีทำ โขลกพริก เกลือ ข่า ตะไคร้ ขมิ้น กระเทียม หอมแดง จนละเอียด ใส่กะปิ โขลกให้เข้ากันอีกครั้งใส่ปลาและกุ้งลงในเครื่องพริกแกงที่โขลกไว้ คลุกเคล้าให้เข้ากันใส่ผักชี ต้นหอม ใบมะกรูด เคล้าให้เข้ากัน ตักใส่ใบตอง กลัดด้วยไม้กลัด แล้วนำไปย่างจนสุก  


เพิ่มเติม

ภาค กลาง

หมี่กรอบ

ความเป็นมา หมี่กรอบเป็นอาหารที่มีความเป็นจีนและไทยผสมผสานกัน เพราะเส้นหมี่หรือก๋วยเตี๋ยว และเทคนิควิธีการทอดโดยใช้น้ำมันร้อนท่วมมีต้นกำเนิดมาจากจีน แต่เมื่อทอดแล้วนำมาปรุงรสอย่างไทยให้มีรสเปรี้ยวหวานจากน้ำส้มมะขาม น้ำตาลปี๊บ ทั้งส่วนผสม เช่น เต้าหู้ เต้าเจี้ยว รวมทั้งถั่วงอกและใบกุยช่ายก็เป็นผักของจีน แต่ต้องมีรสซ่าหอมจากผิวส้มซ่าซึ่งใช้โรยหน้าหมี่กรอบ และเป็นส่วนผสมหรือเอกลักษณ์สำคัญที่จะขาดไม่ได้   คุณค่าทางโภชนาการ เส้นหมี่ทำจากแป้งข้าวเจ้าที่ให้คาร์โบไฮเดรตพอสมควร มีโปรตีนที่ได้จากหมูและกุ้ง และโปรตีนจากถั่ว เช่น เต้าหู้ ไขมันจากน้ำมันที่ใช้ทอดหมี่และผัด และได้กากใยอาหาร วิตามินซี จากผักสดที่มากินคู่กันอย่าง หัวปลีสด ใบบัวบก และธาตุเหล็กจากใบกุยช่ายสด   ส่วนผสม เส้นหมี่อบแห้ง                            100 กรัม หมู กุ้ง หั่นชิ้นเล็กรวมกัน              80   กรัม หอมแดงสับ                               2     ช้อนโต๊ะ กระทียมสับ                                1     ช้อนโต๊ะ เต้าหู้แข็งหั่นฝอย                        50   กรัม ไข่ไก่                                        2     ฟอง น้ำส้มสายชู                               1     ช้อนโต๊ะ น้ำปลา                                     1     ช้อนโต๊ะ น้ำตาลปี๊บ                                 1     ช้อนโต๊ะ เต้าเจี้ยวดำบด                            1     ช้อนโต๊ะ น้ำมันสำหรับผัดเครื่องและทอดหมี่ กระเทียมดองซอยบาง ผิวส้มซ่าหั่นฝอย พริกชี้ฟ้าแดงหั่นฝอย ผักชี สำหรับโรยหน้า ผักแนม ถั่วงอก ใบกุยช่าย วิธีทำ นำเส้นหมี่อบแห้งลงทอดในน้ำมันร้อนจัดให้ฟูตักขึ้นพักไว้ ทอดเต้าหู้ และทำไข่ฝอยพักไว้ จากนั้นจึงทำน้ำปรุงรส โดยผัดหอมแดง และกระเทียมสับให้หอม ใส่หมูและกุ้ง ผัดให้สุก ปรุงรสและเคี่ยวจนเริ่มงวดเล็กน้อย จากนั้นนำเต้าหู้ทอดลงไปผัดรวมกัน ใส่หมี่ทอดกรอบคลุกให้เข้ากันจนทั่ว ตักขึ้นพักให้เย็น โรยหน้าด้วยเครื่องแต่งหน้า ผัก และไข่หั่นฝอย


เพิ่มเติม

ภาค กลาง

ข้าวเหนียวน้ำกะทิทุเรียน

    ความเป็นมา ขนมน้ำกะทิเป็นของหวานพื้นบ้านของไทยที่นำกะทิมาผสมน้ำตาลมะพร้าวหรือน้ำตาลโตนดซึ่งมีกลิ่นหอม และรสไม่หวานแหลม น้ำกะทิกินกับลอดช่อง ข้าวเหนียวดำ ใส่น้ำแข็ง และใส่ผลไม้รสหวานหอมอย่างทุเรียนกินกับข้าวเหนียวมูนที่ให้รสหวานมันอร่อย   คุณค่าทางโภชนาการ ทุเรียนเป็นผลไม้ที่ให้วิตามินซีสูงพอสมควร เนื้อทุเรียน 200 กรัมให้วิตามินซีเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายใน 1 วัน มีสารซัลเฟอร์หรือกำมะถันตามธรรมชาติ ทุเรียน 100 กรัมให้พลังงานมากกว่าผลไม้ทั่วไปถึง 3 เท่า เมื่อกินกับข้าวเหนียวมูนที่มีกะทิเป็นส่วนผสมยิ่งให้พลังงานเพิ่มขึ้น จึงไม่ควรรับประทานมากเกินไป   ส่วนผสม ข้าวเหนียวมูน                               200    กรัม เนื้อทุเรียนสุก                                150    กรัม กะทิ                                                 3        ถ้วย น้ำตาลโตนดหรือน้ำตาลมะพร้าว       1 ½    ถ้วย เกลือเล็กน้อย   วิธีทำ ละลายน้ำตาลในน้ำกะทิจนหมด นำไปตั้งไฟให้ร้อนจัดแต่ไม่ให้เดือด กรองด้วยผ้าขาวบาง พักไว้ให้เย็น ใส่เนื้อทุเรียนลงไป พักไว้ประมาณ 3 ชั่วโมง นำมาตักราดหน้าข้าวเหนียวมูน    


เพิ่มเติม

close[x]
Questionnaire