SLider section

หมี่ผัดปู

ภาค ใต้

  • recipe image cover

หมี่ผัดปู

 

 

ความเป็นมา

ผัดหมี่จานนี้น่าจะเป็นอาหารของคนจีนที่อพยพมาอยู่ในทางใต้เพราะเส้นหมี่เป็นเส้นก๋วยเตี๋ยวของจีน และยังใส่ซีอิ๊ว ผสมผสานกับส่วนผสมและรสชาติท้องถิ่น เช่น พริก หอมแดง กะทิ ใส่เนื้อปูซึ่งเป็นซีฟู้ดที่มีอยู่มาก กลายเป็นอาหารอร่อยอีกจานของคนใต้เชื้อสายจีน

 

คุณค่าทางโภชนาการ

เส้นหมี่ทำมาจากแป้งข้าวเจ้าซึ่งให้คาร์โบไฮเดรท เส้นหมี่ 100 กรัมให้พลังงาน 150 กิโลแคลอรี เนื้อปู 100 กรัมมีโปรตีน 19.5 กรัม กะทิ 100 กรัมให้พลังงาน 110 กิโลแคลอรี และไขมัน 24 กรัม จานนี้จึงให้พลังงานพอสมควร

 

ส่วนผสม      

          เส้นหมี่แช่น้ำจนนุ่ม                     300    กรัม

เนื้อปู                                           300    กรัม

กะทิ                                              2        ถ้วย

พริกชี้ฟ้าแห้ง                                15      เม็ด (กรีดเม็ดออก แช่น้ำจนนุ่ม)

หอมแดงหั่น                                 ¼       ถ้วย

พริกไทยเม็ด                                 ½       ช้อนชา

น้ำตาลปี๊บ                                     3        ช้อนโต๊ะ

เกลือ                                             ½       ช้อนชา

ซีอิ๊วขาว                                        1        ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

ตำพริก หอมแดง พริกไทย เกลือ รวมกันจนละเอียด นำไปผัดกับกะทิให้หอม ใส่น้ำตาล ซีอิ๊ว เคี่ยวไฟอ่อนสักครู่ ใส่เนื้อปู และเส้นหมี่ลงไป ปิดกระทะ รอจนน้ำงวดจึงกลับเส้น และผัดให้ส่วนผสมเข้ากันดี ตักใส่จานเสิร์ฟพร้อมถั่วงอก มะนาว พริกป่น พริกขี้หนูซอย

ภาค กลาง

ก๋วยเตี๋ยวผัดซีอิ๊ว

 ความเป็นมา ก๋วยเตี๋ยวผัดซีอิ๊วเป็นอาหารจีนประเภทเดียวกับก๋วยเตี๋ยวราดหน้าที่มักจะขายคู่กัน แต่ก๋วยเตี๋ยวผัดซีอิ๊วจะต้องผัดให้เส้นหอมซีอิ๊วที่ใส่ลงไป และสีดำของซีอิ๊วเคลือบเส้นให้ทั่ว เส้นต้องไม่ติดกันมีน้ำมันเคลือบบางๆ บนเส้นที่ผัดจนหอม ใส่ไข่ลงไปขณะผัด และใส่ผักคะน้าที่ต้องผัดจนนุ่มแต่ผักยังต้องเขียวอยู่   คุณค่าทางโภชนาการ ก๋วยเตี๋ยวผัดซีอิ๊วให้พลังงานค่อนข้างสูง ผัดซีอิ๊วใส่ไข่ 1 จาน ให้พลังงาน 520 กิโลแคลอรี เพราะการผัดเส้นให้มันเงาและมีกลิ่นหอมกระทะต้องใส่น้ำมันมาก จึงทำให้ได้ไขมันมากไปด้วย ในขณะเดียวกันก็ได้โปรตีนวิตามินจากไข่ เนื้อหมู และได้วิตามินเกลือแร่จากผักคะน้า   ส่วนผสม เส้นใหญ่                  120    กรัม เนื้อหมู                     50      กรัม ผักคะน้าหั่น              50      กรัม ซีอิ๊วดำ                      1        ช้อนโต๊ะ ซีอิ๊วขาว                    2        ช้อนชา ไข่ไก่                          1        ฟอง น้ำมันสำหรับผัด   วิธีทำ ใส่น้ำมันในกระทะ ใส่หมูลงรวนพอสุก ใส่ผักคะน้า ใส่เส้นผัดให้เส้นกระจายอย่าติดกัน ใส่ซีอิ๊วดำผัดให้เคลือบเส้น ตอกไข่ใส่ ใส่ซีอิ๊ว ผัดจนทุกอย่างเข้ากัน ตักใส่จาน    


เพิ่มเติม

ภาค อีสาน

ลาบเป็ด

ความเป็นมา ลาบเป็ด เป็นอีกเมนูหนึ่งในการนำเอาเนื้อเป็ดมาประยุกต์ทำเป็นลาบ แทนการใช้เนื้อหมู ซึ่งมีกลิ่น รส เนื้อสัมผัสที่แตกต่างออกไปจากเนื้อหมู และได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในร้านอาหารอีสาน   คุณค่าทางสารอาหาร เนื้อเป็ดมีโปรตีน และช่วยบำรุงร่างกายนอกจากนั้นข่ายังช่วยในระบบย่อยอาหาร ส่วนหอมแดง ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ บำรุงหัวใจผักชีฝรั่งช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง ใบสะระแหน่ช่วยบำรุงสายตา คลายเครียด ต้นหอมช่วยป้องกันอาการท้องผูกและลดคอเลสเตอรอลในกระแสเลือด   ส่วนผสม เนื้อเป็ดสับละเอียด                         300    กรัม ข่าโขลกละเอียด                            1        ช้อนโต๊ะ หอมแดงซอย                                10      กรัม ต้นหอมซอย                                 1        ช้อนโต๊ะ ผักชีฝรั่งหั่นหยาบ                          1        ช้อนโต๊ะ ใบสะระแหน่                                10      กรัม ข้าวคั่วป่น                                     2        ช้อนโต๊ะ พริกป่น                                        1        ช้อนโต๊ะ น้ำปลา                                         2        ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว                                     2        ช้อนโต๊ะ หอมแดงทอด ใบมะกรูดทอดกรอบสำหรับโรยหน้า พริกแห้งทอดกรอบ   วิธีทำ คลุกเคล้าเนื้อเป็ดสับละเอียดกับข่าเข้าด้วยกันจากนั้นตั้งกระทะรวนเนื้อเป็ดจนสุก ตักใส่อ่างผสม ปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำมะนาว ข้าวคั่ว พริกป่น ใส่หอมแดง ต้นหอมผักชีฝรั่ง จัดใส่จานโรยหน้าด้วยใบสะระแหน่ ทานคู่กับ หอมแดงทอด ใบมะกรูดทอด พริกแห้งทอด    


เพิ่มเติม

ภาค ใต้

แกงเหลืองหน่อไม้ดองกับปลาอินทรี

ความเป็นมา แกงเหลืองก็คือแกงส้มของภาคกลาง แต่ใส่ขมิ้นจึงมีสีเหลืองและเรียกว่าแกงเหลือง เป็นแกงพื้นบ้านที่ทำง่ายๆ กินกันทั่วไป รสเปรี้ยว เผ็ด เค็ม หวาน แกงเหลืองไม่นิยมรสหวาน และมีรสเผ็ดร้อนเข้มข้นกว่าแกงส้ม แกงนี้สามารถเปลี่ยนส่วนผสมไปตามพืชพรรณของแต่ละท้องที่และเรียกชื่อไปตามพืชผักและเนื้อสัตว์ที่นำมาปรุง เมนูนี้ใช้หน่อไม้ดองที่มีรสเปรี้ยวตามธรรมชาติ รสหวานจากสับปะรด และไม่ทำให้เผ็ดเกินไป ใส่ปลาอินทรีที่ทางใต้มีอย่างอุดมสมบูรณ์   คุณค่าทางโภชนาการ แกงน้ำใสรสสุขภาพที่มีรสหวาน เปรี้ยว จากพืชผักธรรมชาติโดยแท้จริง รสชาติจึงสดชื่นทั้งส้มมะขามและสับปะรดล้วนมีวิตาซีที่ช้วยป้องกันหวัดมีกากใยที่ช่วยป้องกันท้องผูก จานนี้ยังรสเผ็ดของพริกที่ช่วยแก้หวัดคัดจมูกได้อย่างดี และพริกยังมีสารไบโอเฟลโวนอยด์ที่มีคุณสมบัติเป็นสารต้านออกซิเดชั่น ซึ่งอาจจะช่วยป้องกันโรคมะเร็งได้   ส่วนผสม พริกแกง                               ½    ถ้วย หน่อไม้ดอง                           1     ถ้วย ปลาอินทรีหั่นชิ้นใหญ่           300 กรัม สับปะรดหั่นชิ้นบาง                100 กรัม น้ำปลา                                   2     ช้อนโต๊ะ น้ำมะขามเปียก                       2     ช้อนโต๊ะ   ส่วนผสมพริกแกง พริกสด 20 เม็ด ขมิ้นยาว  1 นิ้ว กระเทียม 7 กลีบ  กะปิ  1 ช้อนโต๊ะ เกลือ 1 ช้อนชา ตำทุกอย่างรวมกันให้ละเอียด    


เพิ่มเติม

close[x]
Questionnaire