SLider section

ตำขนุน

ภาค เหนือ

  • recipe image cover

ตำขนุน

 

 

ความเป็นมา

ตำขนุน หรือ ตำบ่าหนุน คือการนำขนุนอ่อนมาโขลกรวมกับพริกแกงเพื่อเพิ่มรสชาติขนุนอ่อนนิยมรับประทานเป็นผักเคียงอีกทั้งยังสามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลาย

 

คุณค่าทางโภชนาการ

ขนุนอ่อน เป็นผักที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ช่วยให้ร่างกายได้รับประโยชน์จากพลังงาน โปรตีน ไขมัน กากใยอาหาร อย่างครบถ้วน นอกจากนี้ยังให้สารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณที่สูงอีกด้วย

 

ส่วนผสม

ขนุนอ่อน                  400    กรัม

เนื้อหมูสับ                100    กรัม

ใบมะกรูด                  5        ใบ

กระเทียมเจียว           1        ช้อนโต๊ะ

ผักชีซอย                    1        ช้อนโต๊ะ

ต้นหอมซอย               1        ช้อนโต๊ะ

พริกขี้หนูแห้งทอด       5        เม็ด

น้ำมันพืช                      2        ช้อนโต๊ะ

กระเทียมสับ                  1        ช้อนโต๊ะ

ส่วนผสมพริกแกง

พริกขี้หนูแห้ง            15      เม็ด

กระเทียม                   10      กรัม

หอมแดง                     30      กรัม

ข่าหั่น                           1        ช้อนโต๊ะ

ตะไคร้ซอย                  1        ช้อนโต๊ะ

กะปิ                              1        ช้อนชา

ปลาร้าต้มสุก                1        ช้อนโต๊ะ

เกลือ                             ½       ช้อนชา

วิธีทำ

โขลกขนุนอ่อนที่ต้มแล้วให้ละเอียดพักไว้ โขลกเครื่องแกงรวมกันให้ละเอียดพักไว้ จากนั้นตั้งกระทะเจียวกระเทียมพอเหลือง ใส่เครื่องแกงลงผัดให้หอม ใส่หมูสับ ผัดให้หมูสุก ใส่ขนุนลงผัดให้เข้ากัน ใส่ใบมะกรูด ตักใส่ภาชนะโรยหน้าด้วยต้นหอม ผักชีและพริกขี้หนูแห้งทอด

 

 

 

ภาค กลาง

แกงจืดเต้าหู้หมูสับตำลึง

    ความเป็นมา แกงจืดจัดเป็นซุปในสำรับอาหารจีนที่จะต้องมีไว้เพื่อกินอาหารได้คล่องคอ หรือกินกับข้าวอื่นในสำรับได้อร่อยขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้ร่างกายอบอุ่น แกงจืดนี้เป็นแกงจืดง่ายๆ ที่ใช้หมูสับปรุงรสให้น้ำซุปหวาน ใช้เต้าหู้ของจีนและตำลึงผักริมรั้วหาง่ายมาต้มรวมกัน จนเป็นแกงจืดยอดนิยมที่คนมักจะสั่งกันทุกร้าน   คุณค่าทางโภชนาการ แกงจืดตำลึงหมูสับได้โปรตีนจากทั้งเนื้อสัตว์คือเนื้อหมู และโปรตีนจากพืชคือถั่วเหลืองที่ใช้ทำเต้าหู้ จึงได้โปรตีนจากทั้ง 2 แหล่ง และใบตำลึงผักใบเขียวที่มีเบตาแคโรทีนสูง ช่วยบำรุงสายตา และซุปร้อนๆ ช่วยให้ร่างกายอบอุ่น   ส่วนผสม ใบตำลึง                                  50      กรัม เต้าหู้หลอด หั่นเป็นชิ้น           120    กรัม หมูสับ                                      60      กรัม น้ำซุป                                        2        ถ้วย ซีอิ๊ว น้ำปลา สำหรับปรุงรส พริกไทยป่นสำหรับโรยหน้า วิธีทำ ตั้งน้ำซุปพอเดือด ปรุงรสหมูสับด้วยซีอิ๊ว ปั้นเป็นก้อนใส่ลงไปต้มจนสุก รอจนเดือดอีกครั้งใส่เต้าหู้ ใบตำลึง ปรุงรสด้วยน้ำปลาเมื่อเดือดอีกครั้ง ตักใส่ชาม โรยพริกไทย    


เพิ่มเติม

ภาค เหนือ

จิ้นฮุ่ม

    ความเป็นมา จิ๊นฮุ่ม คืออาหารที่ใช้เนื้อสัตว์ในส่วนที่ค่อนข้างเหนียวมาปรุงอาหาร สมัยก่อนนิยมใช้เนื้อวัวตากแห้ง แต่ปัจจุบันนิยมใช้เนื้อหมูแทน   คุณค่าทางโภชนาการ เครื่องแกงจิ๊นฮุ่ม มีคุณค่าทางโภชนาการ เช่นตะไคร้แก้และบรรเทาอาการหวัด อาการไอ ข่าช่วยบำรุงร่างกาย กระเทียมช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อในร่างกายช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง และช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกาย   ส่วนผสม ขาหมู            400    กรัม ตะไคร้           40      กรัม ผักชีลาว         ½       ถ้วย รากผักชี         20      กรัม ผักชีซอย        1        ช้อนโต๊ะ ต้นหอมซอย    1        ช้อนโต๊ะ ส่วนผสมพริกแกง พริกแห้ง        5        เม็ด กระเทียม       5        กรัม หอมแดง        30      กรัม ข่าหั่น             ½       ช้อนโต๊ะ ตะไคร้ซอย      1        ช้อนโต๊ะ ขมิ้นหั่น          5        กรัม กะปิ                1        ช้อนชา เกลือ             ½       ช้อนชา วิธีทำ โขลกส่วนผสมพริกแกงรวมกันให้ละเอียด ตั้งน้ำสะอาดจนเดือด ละลายเครื่องแกงในน้ำ ใส่ขาหมูสับลงในหม้อ ต้มจนเปื่อยใส่ผักชีลาว ตะไคร้หั่นเป็นท่อน รากผักชี ก่อนตักขึ้น โรยผักชีซอย และต้นหอมซอย จัดเสิร์ฟ      


เพิ่มเติม

ภาค กลาง

แกงส้มแตงโมอ่อนกับดอกแค

ความเป็นมา คำว่า “ส้ม” ในพจนานุกรมไทยหมายถึง ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว แกงส้มจึงเป็นแกงที่มีรสเปรี้ยวนำ เป็นแกงพื้นฐานที่กินกันทั่วไปประเทศ และเปลี่ยนชื่อไปตามพืชผักพื้นบ้านของแต่ละภูมิภาคที่หาได้ ผักที่ทำแกงส้มจึงมีมากมายหลากหลาย  ส่วนรสชาติก็ปรับไปตามความชอบแต่ควรมีรสเปรี้ยวนำ เช่น ภาคใต้มักจะเผ็ดมาก ภาคเหนือรสไม่ออกหวาน เป็นต้น แกงส้มแตงโมอ่อนกับดอกแคเป็นแกงส้มภาคกลาง ที่มีรสเปรี้ยวนำ หวานตาม คุณค่าทางโภชนาการ แกงส้มจัดได้ว่าเป็นอาหารสุขภาพชั้นเลิศของไทย เพราะส่วนผสมพริกแกงมีพริกนำ พริกมีรสเผ็ดร้อนที่ช่วยกระตุ้นสมองหลั่งสารเอ็นโดฟินทำให้มีความสุข และเลือดไหลหมุนเวียนดี โปรตีนได้จากเนื้อปลาหรือกุ้ง ไม่มีไขมัน มีน้ำมะขามเปียกและผักที่ให้กากใยที่ช่วยระบายท้อง แตงโมอ่อนเป็นผลไม้ที่มีน้ำมากมีฤทธิ์เย็นทำให้ร่างกายคลายความร้อน ดอกแคเป็นผักที่ช่วยแก้ไข้หัวลมซึ่งเป็นไข้ที่มักเป็นกันในช่วงฤดูฝนต่อฤดูหนาว ส่วนผสม น้ำพริกแกงส้ม                            ½    ถ้วย เนื้อกุ้งต้มสุก                              ½    ถ้วย กุ้งสด                                        100 กรัม แตงโมอ่อน หั่นเป็นชิ้นใหญ่         400 กรัม ดอกแค                                     1     ถ้วย น้ำมะขามเปียก                           ½    ถ้วย น้ำปลา                                     2     ช้อนโต๊ะ น้ำตาลปี๊บ                                 1     ช้อนโต๊ะ ส่วนผสมน้ำพริกแกงส้ม  พริกแห้ง 5 เม็ด เอาเมล็ดออกแช่น้ำจนนุ่ม กระเทียม 2 ช้อนโต๊ะ หอมแดง 2 ช้อนโต๊ะ กะปิ 1 ช้อนชา  ตำทุกอย่างรวมกันจนละเอียด วิธีทำ นำน้ำพริกแกงส้มปั่นหรือตำรวมกับเนื้อกุ้งต้มสุก แล้วนำไปละลายกับน้ำเล็กน้อย เพื่อให้พริกแกงไม่จับเป็นก้อน ผัดจนได้กลิ่นหอม จากนั้นใส่น้ำสะอาดหรือน้ำสต๊อกลงไปคนให้น้ำพริกละลายตั้งไฟจนเดือด ใส่แตงโมอ่อน และกุ้งสด ปรุงรส เมื่อต้องการเสิร์ฟให้ตั้งไฟใส่ดอกแค เมื่อดอกแค่สลดและน้ำแกงเดือดให้ตักขึ้นเสิร์ฟร้อนๆ


เพิ่มเติม

close[x]
Questionnaire