SLider section

หมูผัดสับปะรด

ภาค ใต้

  • recipe image cover

หมูผัดสับปะรด

 

 

ความเป็นมา

คนโบราณนิยมนำผลไม้มาทำอาหารคาว โดยใช้รสเปรี้ยวหวานตามธรรมชาติมาช่วยชูรสอาหารให้อร่อยโดยไม่ต้องใส่ผงชูรส สับปะรดเป็นผลไม้ที่มีน้ำมากมีทั้งรสเปรี้ยวและหวาน คนใต้นิยมนำมาทำแกงเหลือง หรือนำมาผัดกับหมูเป็นอาหารอร่อยๆ จากผลไม้อีกจาน

 

คุณค่าทางโภชนาการ

สับปะรดเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีและใยอาหารมากพอสมควร ในอดีตสับปะรดใช้เป็นยากลางบ้านที่ช่วยแก้ไขข้ออักเสบ หลอดลมอักเสบ และอาหารไม่ย่อย ในปัจจุบันค้นพบว่ามีเอนไซด์

โบรมีเลนซึ่งจะช่วยละลายลิ่มเลือดเป็นประโยชน์กับโรคหัวใจอุดตัน โรคข้อเสื่อม  และสรรพคุณที่เด่นที่สุดคือช่วยย่อยโปรตีน หมูผัดสับปะรดจานนี้จึงเป็นจานสมดุลที่ทำให้อิ่มสบายท้อง

 

ส่วนผสม

สับปะรดหั่นเป็นชิ้นเล็ก          200    กรัม

หมูสามชั้นหั่นชิ้นเล็ก             80      กรัม

กระเทียมบุบ                            5        กรัม

เกลือ น้ำปลา น้ำตาล อย่างละเล็กน้อย

 

วิธีทำ

ตั้งกระทะใส่น้ำมันพอร้อน ใส่กระเทียมลงเจียวให้หอม ใส่หมูลงไปผัดสักครู่ ตามด้วยสับปะรด ผัดจนสับปะรดสลด ปรุงรสด้วยเกลือ น้ำปลา น้ำตาล ชิมให้ได้รสเปรี้ยวหวาน

 

 

ภาค เหนือ

ลาบคั่ว

ความเป็นมา ลาบ เป็นอาหารที่นิยมทำเลี้ยงแขกในงานบุญ งานมงคล ที่เป็นโอกาสพิเศษของชาวล้านนา เนื่องจากคำว่า “ลาบ” ที่พ้องเสียงกับคำว่า “ลาภ” ซึ่งเป็นคำที่มีความหมายที่ดี เมนูลาบของทางภาคเหนือจะแตกต่างจากลาบของทางภาคอีสานคือใช้การผัดเนื้อสัตว์กับพริกแกง และไม่ใส่ข้าวคั่ว   คุณค่าทางโภชนาการ ลาบคั่วเป็นอาหารที่ให้พลังงานและโปรตีนสูง  นอกจากนั้นเครื่องปรุงต่างๆ เช่น กระเทียม ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด ผักชีฝรั่ง ยังให้วิตามิน เกลือแร่ เช่นธาตุเหล็ก และแคลเซียม ช่วยขับลม และย่อยอาหารได้ดี   ส่วนผสม เนื้อหมูสับ                                   300    กรัม ไส้ตัน                                           100    กรัม ตับหมู                                          100    กรัม หนังหมูต้มสุกหั่นชิ้นเล็ก             100    กรัม ต้นหอมหั่นหยาบ                         3        ช้อนโต๊ะ ผักชีหั่นหยาบ                              3        ช้อนโต๊ะ น้ำปลา                                         3        ช้อนโต๊ะ กระเทียมสับ                                2        ช้อนโต๊ะ น้ำมันพืช                                     4        ช้อนโต๊ะ ผักชีฝรั่งซอย                              2        ช้อนโต๊ะ ผักไผ่หั่นหยาบ                          4        ช้อนโต๊ะ ใบมะกรูดซอย                            2        ช้อนโต๊ะ ส่วนผสมพริกแกง พริกแห้งเผา                       5        เม็ด กระเทียมเผา                      10      กรัม หอมแดงเผา                       30      กรัม ข่าหั่นละเอียดคั่ว                  1        ช้อนชา ตะไคร้หั่นละเอียด                1        ช้อนโต๊ะ เกลือป่น                               1        ช้อนชา ลูกผักชีคั่ว                            1        ช้อนชา วิธีทำ ตำหรือปั่นพริกแกงให้ละเอียดนำไปคลุกเคล้ากับเนื้อหมูสับ ไส้ตันหั่นชิ้น ตับหมูหั่นชิ้น และหนังหมูลวก จากนั้นนำกระเทียมสับลงไปเจียวกับน้ำมันให้มีกลิ่นหอม ใส่เนื้อสัตว์ลงไปผัดให้สุก ปรุงรสด้วยน้ำปลา ใส่ผักชีฝรั่ง ผักไผ่ และใบมะกรูด คลุกเคล้าให้ทั่ว ตักขึ้นโรยหน้าด้วยผักชีต้นหอม


เพิ่มเติม

ภาค เหนือ

แหนมหมก

    ความเป็นมา แหนม ทำมาจากเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อหมู เนื้อวัว แต่ในปัจจุบันนิยมใช้เนื้อหมู บางท้องถิ่นในภาคเหนือเรียก หมูส้ม และจิ๊นส้มหมก เมื่อจะรับประทานหากนำมาย่างไปจะยิ่งเพิ่มรสชาติให้อร่อยมากยิ่งขึ้น   คุณค่าทางโภชนาการ เนื้อหมูมีโปรตีน ช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโตและช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ มีธาตุเหล็กช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดง   ส่วนผสม เนื้อหมูบด                1        กิโลกรัม หนังหมู                    100    กรัม กระเทียม                  20      กรัม เกลือ                          1        ช้อนโต๊ะ ข้าวนึ่ง                        1        ถ้วย วิธีทำ โขลกกระเทียมและเกลือให้พอละเอียด นำมาคลุกเคล้ากับหมูบดใส่ข้าวนึ่ง หนังหมูลงคลุกเคล้าให้เข้ากันเตรียมใบตองซ้อนกัน 4 แผ่น นำส่วนผสมที่ได้ใส่ใบตอง ห่อให้แน่น ใช้ไม้กลัดกลัดให้สนิท พักทิ้งไว้ 2-3 วัน นำห่อแหนมย่างไฟอ่อนๆ ให้สุกทั่วก่อนรับประทาน      


เพิ่มเติม

ภาค อีสาน

ลาบปลาดุก

ความเป็นมา ลาบปลาดุกถูกดัดแปลงเพื่อให้เกิดรสชาติและเพิ่มคุณค่าทางสารอาหารมากยิ่งขึ้น เพราะรสชาติและรสสัมผัสของปลาดุกย่างจะแตกต่างจากเนื้อสัตว์โดยทั่วไป เนื้อปลาจะนุ่มและซึมซับรสของเครื่องปรุงได้ดีกว่า จึงได้รสชาติที่จัดจ้านกว่าเนื้อปลาชนิดอื่น   คุณค่าทางโภชนาการ เนื้อปลาดุกย่างมีสรรพคุณคือ มีโปรตีนสูง และไขมันต่ำ นอกจากนั้น ข่ายังช่วยในระบบย่อยอาหาร ส่วนหอมแดง ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ บำรุงหัวใจผักชีฝรั่งช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง ใบสะระแหน่ช่วยบำรุงสายตา คลายเครียด ต้นหอม ช่วยป้องกันอาการท้องผูกและลดคอเลสเตอรอลในกระแสเลือด   ส่วนผสม ปลาดุกหนัก 300 กรัม                   1        ตัว ใบมะกรูดหั่นฝอย                          2        ช้อนชา ข่าโขลกละเอียด                            1        ช้อนโต๊ะ หอมแดงซอย                                10      กรัม ต้นหอมซอย                                  1        ช้อนโต๊ะ ผักชีฝรั่งหั่นหยาบ                          1        ช้อนโต๊ะ ใบสะระแหน่                                 10      กรัม ข้าวคั่วป่น                                    2        ช้อนโต๊ะ พริกป่น                                       1        ช้อนโต๊ะ น้ำปลา                                       2        ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว                                   2        ช้อนโต๊ะ   วิธีทำ ล้างปลาดุกให้สะอาด ขูดเมือกบนผิวออก นำไปย่างไฟพอสุก แกะเอาแต่เนื้อนำมาสับหยาบๆ จากนั้นเคล้าเนื้อปลาดุกกับข้าวคั่ว พริกป่น ข่าหั่นฝอย หอมแดงซอย และใบมะกรูดหั่นฝอยปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว คลุกเคล้ากันให้ทั่ว โรยใบสะระแหน่ ต้นหอม ผักชีฝรั่ง ตักใส่จาน เสิร์ฟพร้อมผักเคียง    


เพิ่มเติม

close[x]
Questionnaire