ความเป็นมา
วุ้นเป็นขนมหวานของไทยที่หากินได้ทั่วไป เนื้อวุ้นจะคล้ายกับเยลลี่ของฝรั่ง แตกต่างกันที่เนื้อสัมผัสของวุ้นจะแข็งและกรอบกว่า คนไทยนำกะทิมาผสมกับผงวุ้นเติมเกลือเล็กน้อยเพื่อให้มีรสเค็มมัน ทำเป็นหน้าของวุ้นตัดกับรสหวานของเนื้อวุ้นที่ใส่เฉพาะน้ำตาล ทำให้กินได้อร่อยไม่เลี่ยน และใส่สลับชั้นให้ดูสวยงาม
คุณค่าทางโภชนาการ
วุ้นเป็นสารสกัดมาจากสาหร่ายที่เรียกว่า “อาการ์” มีคุณสมบัติทำให้เนื้อขนมแข็ง สาหร่ายมีธาตุไอโอดีน แต่เมื่อเทียบกับน้ำตาลและกะทิที่เป็นส่วนผสมของวุ้นกะทิซึ่งมีมากกว่าวุ้น จึงควรบริโภคแต่พอเหมาะ แม้ว่าวุ้นกะทิปริมาณ 100 กรัมจะให้พลังงาน 133 กิโลแคลอรี แต่ก็ไม่ควรกินมากเกินไป
ส่วนผสมตัววุ้น
วุ้นผง 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำลอยดอกมะลิ 2 1/4 ถ้วย
น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
น้ำใบเตย (ตำและคั้นน้ำ )หรือสีผสมอาหารสีตามชอบ
ส่วนผสมหน้ากะทิ
ผงวุ้น 1 ช้อนโต๊ะ
หัวกะทิ 2 ¼ ถ้วย
น้ำตาลทราย ¼ ถ้วย
เกลือป่น 2 ช้อนชา
วิธีทำ
ผสมผงวุ้น น้ำลอยดอกมะลิ เกลือ ตั้งไฟ คอยคนจนวุ้นละลายหมด ก่อนยกขึ้นใส่น้ำใบเตยให้มีสีสวยตามชอบ ตักใส่พิมพ์ นำส่วนผสมหัวกะทิตั้งไฟ คอยคนจนวุ้นละลาย ตักหยอดหน้าตัววุ้น
ภาค อีสาน
ความเป็นมา แกงเปรอะ หรือแกงลาว เป็นแกงยอดนิยมทางภาคอีสาน มีรสชาติอร่อยสไตล์อีสาน เป็นเมนูรวมวัตถุดิบที่ให้คุณค่าทางสารอาหารมากมาย เช่น ใบย่านาง หน่อไม้และผักต่างๆ คุณค่าทางโภชนาการ แกงเปรอะมีสรรพคุณหลากหลาย เช่น น้ำใบย่านางช่วยเสริมสร้างภูมิต้านโรคในร่างกายให้แข็งแรงหน่อไม้มีเส้นใยอาหารจำนวนมากจึงทำให้ช่วยระบบขับถ่ายได้เป็นอย่างดีนอกจากนั้นเห็ดฟางและพริกขี้หนูมีวิตามินซีสูง ใบแมงลักมีฤทธิ์ช่วยขับลมในลำไส้ได้อย่างดี ส่วนผสม หน่อไม้ต้ม 500 กรัม น้ำใบย่านาง 4 ถ้วย พริกขี้หนูแดง 10 กรัม ใบแมงลักเด็ด 1/2 ถ้วย ต้นหอมหั่น 1/2 ถ้วย ชะอมเด็ด 1/2 ถ้วย ข้าวเบือ 3 ช้อนโต๊ะ เห็ดฟางหั่น 1/2 ถ้วย ยอดฟักทองเด็ด 1/2 ถ้วย น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ น้ำปลาร้า 3 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ โขลกพริกขี้หนูสดหยาบๆ พักไว้ต้มน้ำใบย่านางให้เดือด ใส่พริกโขลก หน่อไม้ ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำปลาร้า ใส่ใบแมงลัก ชะอม เห็ดฟาง ยอดฟักทอง ต้นหอม ข้าวเบือ ต้มพอเดือดยกลงตักใส่ภาชนะ พร้อมเสิร์ฟ
ภาค เหนือ
ความเป็นมา ในอดีตชาวล้านนานิยมทานเนื้อสัตว์เฉพาะในงานบุญงานเทศกาลเท่านั้น อาหารที่ทำจากเนื้อสัตว์จึงถูกยกให้เป็นเมนูที่หาทานได้ยาก แต่ปัจจุบัน ไม่ต้องรองานบุญงานเทศกาลก็สามารถหาทานได้อย่างแพร่หลาย คุณค่าทางโภชนาการ ตับหมูเป็นแหล่งของโปรตีนและธาตุเหล็ก ช่วยในการสร้างการเจริญเติบโตของร่างกายและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ อีกทั้งยังได้วิตามินและเกลือแร่จากส่วนผสมต่างๆ ส่วนผสม หมูสามชั้นหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ 200 กรัม ตับหมู เครื่องในหมู หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ 200 กรัม น้ำมันพืช ใบมะกรูด 5 กรัม ต้นหอมซอย 1 ช้อนโต๊ะ ผักชีซอย 1 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 1 ช้อนชา ส่วนผสมพริกแกง พริกแห้ง 7 เม็ด หอมแดง 20 กรัม กระเทียม 15 กรัม ข่าซอย 1 ช้อนโต๊ะ ตะไคร้ซอย 1 ช้อนโต๊ะ รากผักชีซอย 1 ช้อนชา กะปิ 1 ช้อนชา วิธีทำ ตำหรือปั่นส่วนผสมพริกแกงให้ละเอียดพักไว้ ตั้งกระทะบนไฟอ่อน นำพริกแกงลงไปผัดให้หอม ใส่หมูสามชั้นและเครื่องในลงไปผัดให้พอสุก ปรุงรส ผัดให้เข้ากันจนสุกทั่ว ใส่ใบมะกรูด ผัดให้เข้ากัน ตักขึ้น โรยต้นหอม และผักชี