SLider section

มะม่วงเบาแช่อิ่ม

ภาค ใต้

  • recipe image cover

มะม่วงเบาแช่อิ่ม

 

ความเป็นมา

มะม่วงเบาเป็นมะม่วงพันธุ์พื้นเมืองของทางใต้ ผลมีขนาดเล็กเท่ากับไข่ไก่ใบเล็ก เมื่อดิบรสจะเปรี้ยวจี๊ด เนื้อกรอบ ไม่มีกลิ่นฉุน คนใต้นิยมนำไปทำอาหารให้รสเปรี้ยวหลากหลาย เช่น นำไปตำน้ำพริกเป็นน้ำพริกมะม่วงเบา แต่ที่นิยมมากที่สุดคือนำไปแช่อิ่ม

 

คุณค่าทางโภชนาการ

มะม่วงเบามีรสเปรี้ยวเป็นแหล่งของวิตามินซีที่ช่วยป้องกันโรคหวัดได้อย่างดี ช่วยสร้างสารคอลลาเจนซึ่งเป็นโปรตีนที่ทำให้เส้นผม ฟัน เหงือก และกระดูกสมบูรณ์แข็งแรง เมนูนี้นำมาแช่อิ่ม

โดยใส่ในน้ำเชื่อมเพื่อให้ซึมเข้าเนื้อ มะม่วงจึงมีรสเปรี้ยวๆ หวานๆ กินแล้วช่วยให้สดชื่นมาก

แต่ถ้ากินมากไปจะได้รับน้ำตาลเกินความจำเป็นที่จะทำให้ให้อ้วนได้

 

ส่วนผสม

มะม่วงเบา                         50      ผล

น้ำปูนใส                            1        ถ้วย

เกลือ                                ½       ถ้วย

น้ำตาลทราย                       1        กก.

น้ำสะอาด                          3        ถ้วย

วิธีทำ

ปอกเปลือกมะม่วง ผ่าลูกละ 2-4 ชิ้น แช่ในน้ำสะอาดให้มะม่วงจม ใส่น้ำปูนใส ใส่เกลือ แช่ทิ้งไว้ 2 คืน คนให้ทั่ววันละ 2-3 ครั้งตักมะม่วงขึ้นพักไว้ ใส่ภาชนะที่มีฝาปิดทำน้ำเชื่อมโดยผสมน้ำตาลกับน้ำใส่เกลือ ตั้งไฟจนข้น พักไว้ให้เย็น เทใส่ในมะม่วงปิดฝาพักไว้ 2 คืน นำมาคนวันละ 2 ครั้ง ชิมดูจะมีรสเปรี้ยว เค็ม หวาน นำเข้าตู้เย็น มะม่วงจะ กรอบอร่อยขึ้น

 

 

ภาค กลาง

ข้าวผัดน้ำพริกลงเรือ

ความเป็นมา น้ำพริกลงเรือเป็นน้ำพริกที่เจ้าจอมหม่อมราชวงศ์สดับ ลดาวัลย์เป็นผู้คิดค้นขึ้นเมื่อครั้งอยู่วังสวนสุนันทา ซึ่งท่านต้องจัดเตรียมสำรับให้เจ้านายผู้ใหญ่เมื่อยังไม่ถึงเวลาเสวย จึงเข้าไปในห้องเครื่องของเรือเห็นมีน้ำพริกกะปิและเครื่องเคียงเหลืออยู่อย่างละนิดละหน่อย เช่น หมูหวาน ปลาดุกทอดฟู ไข่เค็มแดง จึงนำมารวมกันและนำไปถวายกลายเป็นอาหารจานโปรดและตั้งชื่อว่า น้ำพริกลงเรือ เมื่อเวลาผ่านไปน้ำพริกนี้ก็แพร่หลายในคนทั่วไป พอถึงยุคที่คนไม่มีเวลาจึงนำน้ำพริกมาผัดข้าวกลายเป็นอาหารจานเดียวที่กินได้ง่ายและเร็ว   คุณค่าทางโภชนาการ น้ำพริกลงเรือเป็นทั้งอาหารครบหมู่และครบรสเพราะน้ำพริกกะปิมีรสเค็ม เผ็ด เปรี้ยว หมูหวานมีรสหวาน และปลาดุกฟูมีเนื้อสัมผัสกรุบกรอบและมีโปรตีน เช่นเดียวกับกะปิและหมู เมื่อกินกับผักสดจะเสริมวิตามินต่างๆ ได้   ส่วนผสม ข้าวสวย                            2        ถ้วย น้ำพริกกะปิ                        3        ช้อนโต๊ะ หมูหวาน                             3        ช้อนโต๊ะ ไข่เค็มแดง                           1        ฟอง ปลาดุกฟูขยี้แหลก                 2        ช้อนโต๊ะ กระเทียมดองซอยบาง           1        ช้อนโต๊ะ ผักดิบต่างๆ เช่น ขมิ้นขาว ถั่วพู แตงกวา   วิธีทำ ตั้งกระทะใส่น้ำมันพอร้อน ใส่ข้าวลงไปผัดพร้อมน้ำพริกกะปิ ใส่หมูหวาน ผัดให้เข้ากัน ตักใส่จาน วางไข่แดงหั่นเป็นชิ้นเล็กบนหน้าข้าว โรยปลาดุกฟู และกระเทียมดองซอยบาง


เพิ่มเติม

ภาค ใต้

ปลาหมึกย่างขมิ้น

    ความเป็นมา ปลาหมึกและขมิ้นเป็นของที่มีมากทางใต้และนิยมนำมาทำอาหารในรูปแบบต่างๆ ปลาหมึกย่างเป็นของปิ้งย่างที่กินกันทั่วไปรสชาติตามความชอบของแต่ละภาค ทางใต้นำมาหมักขมิ้นให้มีสีเหลืองสวยและหอมกลิ่นกระเทียม   คุณค่าทางโภชนาการ ปลาหมึกเป็นซีฟู้ดที่มีคอเลสเตอรอลสูง แต่ก็มีกรดไขมันโอเมก้า 3 สูงเช่นกัน ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้ร่างกายมีคอเลสเตอรอลสูงมากเกินไป และยังมีวิตามินบี 12 ซึ่งจำเป็นและช่วยบำรุงรักษาระบบประสาทให้แข็งแรงและช่วยการสร้างเม็ดเลือดแดง ส่วนขมิ้นแก้ท้องอืดท้องเฟ้อ และช่วยฆ่าเชื้อไวรัสในระบบทางเดินอาหารได้   ส่วนผสม ปลาหมึกไข่             500    กรัม ขมิ้นหั่น                    4        ช้อนโต๊ะ กระเทียมหั่น             4        ช้อนโต๊ะ พริกไทยเม็ด             1        ช้อนโต๊ะ เกลือ                        2        ช้อนชา วิธีทำ ล้างปลาหมึกให้สะอาด ซับน้ำให้แห้ง ตำขมิ้น กระเทียม พริกไทยเม็ด เกลือ รวมกัน นำไป หมักปลาหมึกไว้ประมาณ 3 ชั่วโมง ย่างจนสุก กินกับน้ำจิ้มตามชอบ    


เพิ่มเติม

ภาค กลาง

ปอเปี๊ยะทอด

    ความเป็นมา ปอเปี๊ยะทอดเป็นอาหารเวียดนามที่คนไทยนิยมกินกัน แผ่นแป้งปอเปี๊ยะทำจากแป้งข้าวเจ้าซึ่งเป็นแผ่นแป้งที่มีชื่อเสียงของเวียดนาม ปอเปี๊ยะมีทั้งชนิดสดและทอด จัดเป็นของกินเล่นหรือของว่างที่กินได้เกือบตลอดวัน   คุณค่าทางโภชนาการ ปอเปี๊ยะทอดจัดเป็นอาหารสุขภาพ ปอเปี๊ยะ 1 ชิ้น โดยทั่วไปให้พลังงาน 39 กิโลแคลอรี แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับส่วนผสมของไส้ซึ่งจะนิยมใส่วุ้นเส้น กะหล่ำปลี หมูสับ เห็ดหูหนู ซึ่งให้พลังงานไม่มาก อีกทั้งยังมีผักสดต่างๆ ที่เป็นผักเคียง เช่น ใบโหระพา กะหล่ำปลี ที่ให้วิตามินและกากใยแต่เมื่อทอดปอเปี๊ยะในน้ำมันไม่ร้อนพอจะทำให้อมน้ำมัน เป็นการเพิ่มปริมาณของไขมันที่ร่างกายได้รับจนมากเกินไป   ส่วนผสม วุ้นเส้นแช่น้ำให้นุ่ม                         150    กรัม หมูสับ                                             80      กรัม เห็ดหูหนูหั่นชิ้นเล็ก                         50      กรัม กะหล่ำปลีซอย                                80      กรัม แครอทซอย                                      30      กรัม ซีอิ๊ว น้ำปลา สำหรับปรุงรส น้ำมันสำหรับผัดและทอด แผ่นปอเปี๊ยะสำหรับห่อ ผักเครื่องเคียง เช่น ใบโหระพา กะหล่ำปลี   ส่วนผสมและวิธีทำน้ำจิ้ม พริกชี้แดงกรีดเม็ดออก 3 เม็ด กระเทียม 4-5 กลีบ ตำรวมกันให้ละเอียด น้ำส้มสายชู ¾ ถ้วย น้ำตาลทราย ¼ ถ้วย เกลือป่น 2 ช้อนชา ผสมกับพริกที่ตำไว้ นำไปตั้งไฟให้งวด   วิธีทำเปาะเปี๊ยะ ผัดส่วนผสมวุ้นเส้นทั้งหมดให้เข้ากัน จนสุกนุ่ม ปรุงรส นำแผ่นปอเปี๊ยะมาห่อไส้เป็นชิ้นสี่เหลี่ยมยาว ทอดในน้ำมันร้อนท่วมจนสุก กินกับน้ำจิ้ม และผักสด    


เพิ่มเติม

close[x]
Questionnaire