SLider section

ปลาดุกย่าง

ภาค อีสาน

  • recipe image cover

ปลาดุกย่าง

 

 

ความเป็นมา

ปลาดุกเป็นปลาที่นิยมรับประทานกันมาก เนื่องจากราคาถูกและรสชาติอร่อย ปลาดุกย่างชาวอีสานนิยมรับประทานคู่กับข้าวเหนียวส้มตำเพราะเข้ากันดี และนอกจากนั้นยังถูกนำไปดัดแปลงเป็นเมนูอื่นๆอีกมากมาย

 

คุณค่าทางโภชนาการ

ปลาดุกมีโปรตีนที่ย่อยได้ง่าย  สรรพคุณช่วยเสริมสร้างเนื้อเยื่อและซ่อมแซมร่างกายส่วนที่สึกหรอไขมันที่มีอยู่ในเนื้อปลาเป็นส่วนประกอบของเซลล์ต่างๆ โดยเฉพาะสมอง มีวิตามิน และแร่ธาตุที่ช่วยควบคุมการทำงานของร่างกายให้ทำหน้าที่ได้ตามปกติ

 

ส่วนผสม

ปลาดุก ผ่าท้อง ควักไส้ออก               2        ตัว

ตะไคร้ซอย                                  1/2     ถ้วยตวง

ขมิ้น                                          5        กรัม

กระเทียม                                    10      กรัม

ซีอิ้วขาว                                      2        ช้อนโต๊ะ

พริกไทยดำ                                  1/2     ช้อนชา

 

วิธีทำ

นำตะไคร้ ขมิ้น กระเทียม และพริกไทยมาโขลกรวมกันให้พอแหลก ใส่ซีอิ้วขาว นำปลาดุกที่เตรียมไว้ลงไปคลุกเคล้าให้ทั่ว หมักทิ้งไว้ 1 ชั่วโมง นำไม้มาเสียบปลาดุกตั้งแต่ปากถึงหาง นำขึ้นย่างบนเตาไฟจนสุกดีทั้ง 2 ด้าน ยกลงจากเตา เสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้มแจ่ว

 

 

 

ภาค กลาง

แกงเผ็ดไก่

ความเป็นมา คนไทยเริ่มใช้กะทิในการทำอาหารโดยดัดแปลงมาจากการใช้นมของพวกอาหรับที่เดินทางมาค้าขายในสมัยอยุธยา แต่เดิมคนไทยมีแต่แกงน้ำใส และมีน้ำพริกแกงที่ใช้สมุนไพรสดมาตำรวมกันเพื่อให้แกงมีรสชาติเข้มข้นขึ้น เมื่อนำเอากะทิมาใช้ผสมในน้ำแกง และใส่สมุนไพรอย่างใบโหระพาเพื่อให้มีกลิ่นสดชื่น จึงทำให้กลายเป็นแกงที่มีรสชาติกลมกล่อมน่ากิน คุณค่าทางโภชนาการ แม้แกงไก่จะใช้กะทิที่มีไขมันอิ่มตัวสูงซึ่งอาจจะมีปัญหากับคอเลสเตอรอล แต่ก็มีสมุนไพรจากพริกแกงโดยเฉพาะพริกที่มีรสเผ็ดเพราะมีสารแคปไซซินช่วยขยายช่องจมูกให้ใหญ่ขึ้น จึงช่วยขับเสมหะ และลดการอุดตันของหลอดเลือด มะเขือพวงมีแคลเซียม เหล็ก และฟอสฟอรัสสูง ช่วยลดน้ำตาลในเลือด อีกทั้งยังช่วยในการย่อยอาหาร มะเขือเปราะที่มีกากใยที่ช่วยระบายท้อง ใบโหระพาที่มีเบต้าแคโรทีนสูง โหระพา 100 กรัม มีเบต้าแคโรทีนสูงถึง 452.16 ไมโครกรัม แกงเผ็ดไก่จึงไม่ได้เป็นอาหารที่มีไขมันสูงอย่างที่หลายคนกลัว ถ้าเรากินอย่างพอเหมาะ ส่วนผสม กะทิ                                         4     ถ้วย เนื้อไก่                                      300 กรัม น้ำพริกแกงแดง                          ½    ถ้วย มะเขือเปราะ                              100 กรัม มะเขือพวง                                 20   กรัม ใบโหระพา                                50   กรัม พริกชี้ฟ้าหั่นแฉลบ                      10   กรัม น้ำปลา น้ำตาลเล็กน้อย ส่วนผสมน้ำพริกแกงแดง พริกแห้ง 9 เม็ด กรีดเม็ดออกและแช่น้ำจนนุ่ม ตะไคร้ซอยบาง ¼ ถ้วย หอมแดงซอย  ¼ ถ้วย กระเทียม 2 ช้อนโต๊ะ ผิวมะกรูดหั่นฝอย 1 ช้อนชา รากผักชีหั่นฝอย 1 ช้อนชา พริกไทยเม็ด 1 ช้อนชา กะปิ 1 ช้อนชา ลูกผักชีคั่ว 4 ช้อนชา ยี่หร่าคั่ว 2 ช้อนชา ตำหรือปั่นทุกอย่างรวมกันจนละเอียด วิธีทำ    ผัดเครื่องแกงกับกะทิเล็กน้อยจนหอม ใส่เนื้อไก่ลงไปผัดให้ผิวด้านนอกสุกขาว จากนั้นในกะทิลงไป เติมน้ำสะอาดเล็กน้อยต้มจนเริ่มเดือดและกะทิแตกมัน ใส่มะเขือเปราะ มะเขือพวง และปรุงรสด้วยน้ำปลา และน้ำตาล ชิมรส เมื่อต้องการเสิร์ฟให้ใส่ใบโหระพา พริกชี้ฟ้าแดง ตักขึ้นเสิร์ฟร้อนๆ  


เพิ่มเติม

ภาค กลาง

หมี่กรอบ

ความเป็นมา หมี่กรอบเป็นอาหารที่มีความเป็นจีนและไทยผสมผสานกัน เพราะเส้นหมี่หรือก๋วยเตี๋ยว และเทคนิควิธีการทอดโดยใช้น้ำมันร้อนท่วมมีต้นกำเนิดมาจากจีน แต่เมื่อทอดแล้วนำมาปรุงรสอย่างไทยให้มีรสเปรี้ยวหวานจากน้ำส้มมะขาม น้ำตาลปี๊บ ทั้งส่วนผสม เช่น เต้าหู้ เต้าเจี้ยว รวมทั้งถั่วงอกและใบกุยช่ายก็เป็นผักของจีน แต่ต้องมีรสซ่าหอมจากผิวส้มซ่าซึ่งใช้โรยหน้าหมี่กรอบ และเป็นส่วนผสมหรือเอกลักษณ์สำคัญที่จะขาดไม่ได้   คุณค่าทางโภชนาการ เส้นหมี่ทำจากแป้งข้าวเจ้าที่ให้คาร์โบไฮเดรตพอสมควร มีโปรตีนที่ได้จากหมูและกุ้ง และโปรตีนจากถั่ว เช่น เต้าหู้ ไขมันจากน้ำมันที่ใช้ทอดหมี่และผัด และได้กากใยอาหาร วิตามินซี จากผักสดที่มากินคู่กันอย่าง หัวปลีสด ใบบัวบก และธาตุเหล็กจากใบกุยช่ายสด   ส่วนผสม เส้นหมี่อบแห้ง                            100 กรัม หมู กุ้ง หั่นชิ้นเล็กรวมกัน              80   กรัม หอมแดงสับ                               2     ช้อนโต๊ะ กระทียมสับ                                1     ช้อนโต๊ะ เต้าหู้แข็งหั่นฝอย                        50   กรัม ไข่ไก่                                        2     ฟอง น้ำส้มสายชู                               1     ช้อนโต๊ะ น้ำปลา                                     1     ช้อนโต๊ะ น้ำตาลปี๊บ                                 1     ช้อนโต๊ะ เต้าเจี้ยวดำบด                            1     ช้อนโต๊ะ น้ำมันสำหรับผัดเครื่องและทอดหมี่ กระเทียมดองซอยบาง ผิวส้มซ่าหั่นฝอย พริกชี้ฟ้าแดงหั่นฝอย ผักชี สำหรับโรยหน้า ผักแนม ถั่วงอก ใบกุยช่าย วิธีทำ นำเส้นหมี่อบแห้งลงทอดในน้ำมันร้อนจัดให้ฟูตักขึ้นพักไว้ ทอดเต้าหู้ และทำไข่ฝอยพักไว้ จากนั้นจึงทำน้ำปรุงรส โดยผัดหอมแดง และกระเทียมสับให้หอม ใส่หมูและกุ้ง ผัดให้สุก ปรุงรสและเคี่ยวจนเริ่มงวดเล็กน้อย จากนั้นนำเต้าหู้ทอดลงไปผัดรวมกัน ใส่หมี่ทอดกรอบคลุกให้เข้ากันจนทั่ว ตักขึ้นพักให้เย็น โรยหน้าด้วยเครื่องแต่งหน้า ผัก และไข่หั่นฝอย


เพิ่มเติม

ภาค ใต้

แกงไตปลา

ความเป็นมา แกงไตปลาอาหารจานเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ของอาหารใต้ ไตปลาทำมาจากการนำพุงปลา และกระเพาะปลาที่มีอยู่มาก เช่น พุงปลาทู พุงปลาลัง มาใส่เกลือหมักดองไว้ ซึ่งถือเป็นการถนอมอาหารอย่างหนึ่ง เมื่อหมักจนได้ที่ประมาณ 1 เดือน ก็นำมาทำแกง ใส่เนื้อปลา ผัก ที่มีรสชาติเผ็ด เค็ม ร้อนแรง   คุณค่าทางโภชนาการ ไตปลาเป็นของหมักดองที่มีโปรตีนสูง นำมาทำแกงโดยใส่พริกแกงที่มีส่วนผสมของสมุนไพรต่างๆ ซึ่งล้วนมีสรรพคุณช่วยแก้ท้องอืด รสเผ็ดร้อนของพริกช่วยให้การไหลเวียนโลหิตดีขึ้น มีไขมันจากปลาซึ่งเป็นไขมันดี และมีวิตามินต่างๆ จากผัก เช่น ฟักทองที่มีวิตามินเอ มะเขือพวงช่วยย่อยอาหาร และข้อเด่นของผักทั้งหมดที่ใส่นี้มีกากใยที่ช่วยระบายท้องได้อย่างดี   ส่วนผสมไตปลาปรุงรส ไตปลา(พุงปลาที่หมักได้ที่แล้ว)             1     ถ้วย ตะไคร้บุบ                            3     ต้น ใบมะกรูดฉีก                        5     ใบ ข่าหั่นแว่น                           60   กรัม พริกไทยเม็ดบุบ                    2     ช้อนโต๊ะ วิธีทำ ต้มไตปลาผสมน้ำแล้วใส่สมุนไพรที่เตรียมไว้ทั้งหมด พอเดือด กรองน้ำไว้ พักไว้ ส่วนผสมพริกแกง กระเทียม 15 กรัม หอมแดง 50 กรัม พริกไทยเม็ด 1 ช้อนโต๊ะ พริกขี้หนูแห้ง 15 เม็ด พริกชี้หนูสด 15 กรัม ขมิ้นยาว 2 นิ้วบุบ  ตำหรือปั่นทุกอย่างรวมกันจนละเอียด พักไว้ ส่วนผสมแกงไตปลา ไตปลาปรุงรส                       1     ถ้วย ปลาย่างแกะเนื้อ                   1     ถ้วย หน่อไม้หั่น                          1     ถ้วย มะเขือเปราะ                        80   กรัม มะเขือพวง                           ½    ถ้วย ถั่วฝักยาวหั่นสั้น                   ½    ถ้วย ฟักทองหั่น                          80   กรัม น้ำสะอาด                            3     ถ้วย ใบมะกรูดฉีก                        5     ใบ วิธีทำ นำไตปลาปรุงรสละลายกับน้ำตั้งไฟจนเดือด ใส่ปลาย่างแกะเนื้อ หน่อไม้ และฟักทอง เมื่อเดือดอีกครั้งใส่มะเขือเปราะ มะเขือพวง และใบมะกรูดฉีก ตักขึ้นเสิร์ฟร้อนๆ


เพิ่มเติม

close[x]
Questionnaire