SLider section

ซุปมะเขือเปราะ

ภาค อีสาน

  • recipe image cover

ซุปมะเขือเปราะ

ความเป็นมา

คำว่าซุปเป็นภาษาอีสานแปลว่า ยำ ซุปมะเขือเปราะจึงเรียกให้เข้าใจง่ายๆว่า ยำมะเขือเปราะ เป็นอาหารที่นำเอาพื้นผักใกล้ตัวมาปรุงรสชาติให้น่าทานมากยิ่งขึ้น

 

คุณค่าทางโภชนาการ

มะเขือเปราะอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิดช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด และช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้มะเขือเปราะมีประโยชน์ต่อตับอ่อน เพราะทำให้ตับแข็งแรงและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

ส่วนผสม

มะเขือเปราะ                      300    กรัม

หมูสับ                               100    กรัม

น้ำปลาร้า                           1        ช้อนโต๊ะ

พริกชี้ฟ้าคั่ว                        20      กรัม

กระเทียมคั่ว                       40      กรัม

หอมแดงคั่ว                        30      กรัม

กะปิ                                     1        ช้อนชา

ต้นหอมซอย                       5        กรัม

ผักชีซอย                            10      กรัม

ใบสะระแหน่ สำหรับโรยหน้า

วิธีทำ

ต้มมะเขือเปราะจนสุกแล้วตักขึ้นมาพักไว้ให้เย็น จากนั้นนำหมูสับไปรวนจนสุกพักไว้คั่วพริก กระเทียม หอมแดง ให้สุก จากนั้นนำมาโขลกให้ละเอียด ใส่กะปิโขลกให้เข้ากันใส่มะเขือเปราะลงไปโขลกให้พอละเอียดและเข้ากับเครื่องปรุง ใส่หมูสับ คลุกเคล้าให้เข้ากันปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำปลาร้า ใส่ต้นหอม ผักชี จัดลงจานโรยหน้าด้วยใบสะระแหน่

 

 

ภาค อีสาน

หมูแดดเดียว

    ความเป็นมา เนื้อหมูเมื่อหมักแล้วนำไปตากแดดไว้ไม่นาน เนื้อหมูจะแห้งไม่มากและจะมีรสชาติที่อร่อย เมื่อนำมาทอดจะเพิ่มรสชาติให้กับเนื้อหมูและไม่ทำให้เหนียวมากเวลารับประทาน   คุณค่าทางโภชนาการ เนื้อหมูมีโปรตีน ช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโตและช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ มีธาตุเหล็กช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดง   ส่วนผสม เนื้อหมูหั่นชิ้น            1        กิโลกรัม กระเทียม                 20      กรัม รากผักชี                  40      กรัม พริกไทย                  2        ช้อนชา น้ำตาล                     4        ช้อนชา น้ำปลา                     2        ช้อนโต๊ะ ซอสหอยนางรม         4        ช้อนโต๊ะ   วิธีทำ โขลกกระเทียม รากผักชี พริกไทยให้ละเอียด นำไปหมักเนื้อหมูเติมน้ำตาลน้ำปลาซอสหอยนางรม นวดด้วยมือจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี หมักทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นนำเนื้อหมูไปตากแดดประมาณ 3 – 4 ชั่วโมง กลับเนื้อหมูเป็นระยะจนเริ่มแห้ง จากนั้นตั้งน้ำมันลงในกระทะบนไฟกลาง นำหมูลงไปทอดจนสุก จัดหมูทอดใส่จานพร้อมเสิร์ฟ      


เพิ่มเติม

ภาค เหนือ

แอบสมองหมู

    ความเป็นมา แอบสมองหมูหรือแอบอ่องออ นิยมใช้สมองหมูสด คลุกเคล้ากับพริกแกงแล้วห่อด้วยใบตอง ทำให้สุกด้วยการปิ้งหรือย่าง   คุณค่าทางโภชนาการ พริกแกงของแอบสมองหมูมีคุณค่าทางโภชนาการสูง เช่นตะไคร้แก้และบรรเทาอาการหวัด อาการไอ กระเทียมและขมิ้นช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อในร่างกายช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง และช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกาย   ส่วนผสม สมองหมู                   300    กรัม ใบมะกรูด หั่นฝอย      3        ช้อนโต๊ะ ผักชี ซอย                    2        ช้อนโต๊ะ ใบตอง ไม้กลัด ส่วนผสมพริกแกง พริกสด                      7        กรัม กระเทียม ซอย          2        ช้อนโต๊ะ หอมแดง ซอย            3        ช้อนโต๊ะ ตะไคร้หั่นฝอย           4        ช้อนโต๊ะ ขมิ้น ซอย                   1        ช้อนชา เกลือป่น                     1        ช้อนชา   วิธีทำ โขลกพริก เกลือ ตะไคร้ กระเทียม ขมิ้น หอมแดงจนละเอียดเข้ากันดี จากนั้นนำสมองหมูคลุกเคล้ากับน้ำพริกแกงที่โขลกไว้ให้เข้ากัน ใส่ใบมะกรูด ผักชี ตักส่วนผสมใส่ใบตอง ปิดให้สนิท กลัดด้วยไม้กลัดนำไปปิ้งบนตะแกรง ใช้ไฟปานกลางจนสุก      


เพิ่มเติม

ภาค กลาง

น้ำพริกมะขามสด

ความเป็นมา น้ำพริกเนื้อข้นที่ใช้ฝักมะขามอ่อนซึ่งยังไม่มีเม็ดมาตำ รสจะเปรี้ยวจี๊ด แต่เมื่อตำรวมกับกุ้งแห้ง กะปิที่มีรสเค็ม กระเทียม ปรุงให้มีรสเปรี้ยว เค็ม หวานจากพริกและน้ำตาลปึก น้ำพริกถ้วยนี้จึงมีรสกลมกล่อม เปรี้ยวนำ และทำกินกันทั่วไปในแถบที่มีต้นมะขามขึ้น น้ำพริกมะขามจึงจัดเป็นน้ำพริกพื้นบ้านที่หาง่าย ทำไม่ยาก และกินกันเกือบทุกบ้าน   คุณค่าทางโภชนาการ มะขามเป็นพืชที่นำมากินและใช้ประโยชน์ได้เกือบทุกส่วน ฝักมะขามมีวิตามินซีพอสมควร มีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ และลดความร้อนในร่างกาย มีแคลเซียมตามธรรมชาติที่ไปช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง  มะขามสด 100 กรัม มีแคลเซียม 429 มิลลิกรัม และวิตามินซี 44 มิลลิกรัม   ส่วนผสม มะขามอ่อน                        80      กรัม กุ้งแห้งตำละเอียด             20      กรัม กะปิเผาไฟ                         1        ช้อนโต๊ะ กระเทียม                           3        กรัม พริกขี้หนูเขียว แดง           5        กรัม น้ำปลา                               2        ช้อนโต๊ะ น้ำตาลปึก                          2        ช้อนโต๊ะ วิธีทำ ตำกะปิกับกระเทียมให้ละเอียด ใส่มะขามอ่อนตำจนแหลก ใส่พริกขี้หนูตำพอแหลก ใส่กุ้งแห้ง ปรุงรสด้วยน้ำปลา และน้ำตาลปี๊บ คลุกเคล้าให้เข้ากัน เสิร์ฟคู่กับผักสด


เพิ่มเติม

close[x]
Questionnaire