SLider section

แอบสมองหมู

ภาค เหนือ

  • recipe image cover

แอบสมองหมู

 

 

ความเป็นมา

แอบสมองหมูหรือแอบอ่องออ นิยมใช้สมองหมูสด คลุกเคล้ากับพริกแกงแล้วห่อด้วยใบตอง ทำให้สุกด้วยการปิ้งหรือย่าง

 

คุณค่าทางโภชนาการ

พริกแกงของแอบสมองหมูมีคุณค่าทางโภชนาการสูง เช่นตะไคร้แก้และบรรเทาอาการหวัด อาการไอ กระเทียมและขมิ้นช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อในร่างกายช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง และช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกาย

 

ส่วนผสม

สมองหมู                   300    กรัม

ใบมะกรูด หั่นฝอย      3        ช้อนโต๊ะ

ผักชี ซอย                    2        ช้อนโต๊ะ

ใบตอง

ไม้กลัด

ส่วนผสมพริกแกง

พริกสด                      7        กรัม

กระเทียม ซอย          2        ช้อนโต๊ะ

หอมแดง ซอย            3        ช้อนโต๊ะ

ตะไคร้หั่นฝอย           4        ช้อนโต๊ะ

ขมิ้น ซอย                   1        ช้อนชา

เกลือป่น                     1        ช้อนชา

 

วิธีทำ

โขลกพริก เกลือ ตะไคร้ กระเทียม ขมิ้น หอมแดงจนละเอียดเข้ากันดี จากนั้นนำสมองหมูคลุกเคล้ากับน้ำพริกแกงที่โขลกไว้ให้เข้ากัน ใส่ใบมะกรูด ผักชี ตักส่วนผสมใส่ใบตอง ปิดให้สนิท กลัดด้วยไม้กลัดนำไปปิ้งบนตะแกรง ใช้ไฟปานกลางจนสุก

 

 

 

ภาค กลาง

กระเพาะปลา

    ความเป็นมา กระเพาะปลาเป็นอาหารจีนอีกชนิดที่มาพร้อมกับคนจีนที่มีฐานะ จัดเป็นอาหารชั้นสูงราคาแพง แต่เดิมมีขายเฉพาะในภัตตาคารก่อนที่จะแพร่หลายและมีขายทั่วไป กระเพาะปลาทำจากกระเพาะปลาตากแห้งและนำไปทอด ก่อนที่จะนำไปตุ๋นให้นุ่มในน้ำซุปจากหมูและไก่ ซึ่งต้องเคี่ยวและใช้เวลานานกว่าจะนุ่ม ในปัจจุบันมีการใส่หน่อไม้ และเลือดไก่ เป็นส่วนผสมที่คนไทยใส่เพิ่มไปซึ่งแตกต่างจากของจีน   คุณค่าอาหาร กระเพาะปลาเป็นอาหารสุขภาพของจีนจัดอยู่ในประเภท “อาหารโป๊ว”  ที่บำรุงร่างกายให้แข็งแรง โดยเฉพาะเมือกที่หุ้มกระเพาะปลาอยู่เวลาต้มแล้วจะทำให้น้ำซุปหนืดๆ ถือว่าช่วยรักษาความเป็นหนุ่มเป็นสาวได้อย่างดี กระเพาะปลา 1 ชามให้พลังงาน 150 กิโลแคลอรี   ส่วนผสม กระเพาะปลาแห้ง                200    กรัม เลือดไก่                               100    กรัม เนื้อไก่หั่นชิ้นเล็ก                  250    กรัม ไข่นกกระทาต้มสุก               10      ฟอง หน่อไม้หั่น                             100    กรัม ซอสปรุงรส ซีอิ๊ว น้ำมันหอย แป้งมันผสมน้ำเล็กน้อย โครงไก่ กระดูกไขสันหลังหมู รากผักชี สำหรับทำน้ำซุป เครื่องปรุงรส พริกน้ำส้ม ซอสเปรี้ยวของจีน (จิ๊กโฉ่ว ) พริกไทย   วิธีทำ ล้างกระเพาะปลาโดยแช่น้ำให้นุ่ม บีบให้แห้ง นำไปผัดกับขิงและเหล้าจีนให้พอหอมและหมดกลิ่นหืน นำไปต้มอีกครั้งบีบให้แห้ง จากนั้นทำน้ำซุปโดยต้มโครงกระดูกไก่ กระดูกหมู ด้วยไฟอ่อน จนน้ำซุปใสได้ที่ กรองน้ำซุป นำไปต้มกระเพาะปลา เนื้อไก่ หน่อไม้ เลือดไก่ ต้มจนทุกอย่างสุกนุ่ม ปรุงรสด้วยซอสปรุงรส ซีอิ๊ว น้ำมันหอย ใส่แป้งมันละลายน้ำพอให้ข้นเหนียว ตักใส่ชามโรยผักชี พริกไทยป่น เติมพริกน้ำส้ม ซอสเปรี้ยวตามชอบ    


เพิ่มเติม

ภาค กลาง

น้ำพริกมะขามสด

ความเป็นมา น้ำพริกเนื้อข้นที่ใช้ฝักมะขามอ่อนซึ่งยังไม่มีเม็ดมาตำ รสจะเปรี้ยวจี๊ด แต่เมื่อตำรวมกับกุ้งแห้ง กะปิที่มีรสเค็ม กระเทียม ปรุงให้มีรสเปรี้ยว เค็ม หวานจากพริกและน้ำตาลปึก น้ำพริกถ้วยนี้จึงมีรสกลมกล่อม เปรี้ยวนำ และทำกินกันทั่วไปในแถบที่มีต้นมะขามขึ้น น้ำพริกมะขามจึงจัดเป็นน้ำพริกพื้นบ้านที่หาง่าย ทำไม่ยาก และกินกันเกือบทุกบ้าน   คุณค่าทางโภชนาการ มะขามเป็นพืชที่นำมากินและใช้ประโยชน์ได้เกือบทุกส่วน ฝักมะขามมีวิตามินซีพอสมควร มีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ และลดความร้อนในร่างกาย มีแคลเซียมตามธรรมชาติที่ไปช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง  มะขามสด 100 กรัม มีแคลเซียม 429 มิลลิกรัม และวิตามินซี 44 มิลลิกรัม   ส่วนผสม มะขามอ่อน                        80      กรัม กุ้งแห้งตำละเอียด             20      กรัม กะปิเผาไฟ                         1        ช้อนโต๊ะ กระเทียม                           3        กรัม พริกขี้หนูเขียว แดง           5        กรัม น้ำปลา                               2        ช้อนโต๊ะ น้ำตาลปึก                          2        ช้อนโต๊ะ วิธีทำ ตำกะปิกับกระเทียมให้ละเอียด ใส่มะขามอ่อนตำจนแหลก ใส่พริกขี้หนูตำพอแหลก ใส่กุ้งแห้ง ปรุงรสด้วยน้ำปลา และน้ำตาลปี๊บ คลุกเคล้าให้เข้ากัน เสิร์ฟคู่กับผักสด


เพิ่มเติม

ภาค อีสาน

ตำโคราช

  ความเป็นมา ตำโคราช คือส้มตำที่ใส่เครื่องปรุงระหว่างส้มตำไทยและส้มตำลาว คือใส่ทั้งกุ้งแห้งและปลาร้า อาจใส่เส้นขนมจีน ปรุงรสให้หวานขึ้น เนื่องจากโคราชหรือนครราชสีมาเป็นเมืองที่อยู่กั้นกลางระหว่างลาวและสยามจึงเกิดการผสมผสานทางวัฒนธรรมสองชาติเข้าด้วยกัน อย่างไรก็ตาม ตำโคราชไม่ได้ถือกำเนิดมาจากจังหวัดนครราชสีมาแต่ประการใด แม้กระทั่งชาวโคราชเองก็ไม่นิยมรับประทานกัน   คุณค่าทางโภชนาการ ตำโคราช มีวิตามินเกลือแร่จากผัก และเครื่องปรุงต่างๆ  มะละกอช่วยย่อยโปรตีน ทำให้ร่างกายย่อยอาหารได้ดี น้ำมะนาว มะเขือเทศ พริกขี้หนูมีวิตามินซีสูง กระเทียมไทย ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อในร่างกาย และได้โปรตีนจากปลาร้าและกุ้งแห้ง   ส่วนผสม มะละกอสับเป็นเส้น               120    กรัม มะเขือเทศสีดา                      30      กรัม พริกขี้หนูสด                            8        เม็ด กระเทียม                                 5        กรัม ถั่วฝักยาวหั่นเป็นท่อน            25      กรัม กุ้งแห้ง                                     1        ช้อนโต๊ะ ถั่วลิสงคั่ว                                2        ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว                                1        ช้อนโต๊ะ น้ำปลา                                   ½       ช้อนโต๊ะ น้ำปลาร้าต้มสุก                     1        ช้อนโต๊ะ   วิธีทำ ใส่กระเทียมและพริกขี้หนู ลงในครก โขลกให้พอแหลก ตามด้วยถั่วฝักยาวโขลกพอแหลกใส่มะเขือเทศ น้ำมะนาว น้ำตาลปี๊บ น้ำปลา  น้ำปลาร้าแล้วคลุกให้เข้ากันใส่มะละกอ ตามด้วยถั่วลิสงคั่ว กุ้งแห้งแล้วโขลกเบาๆ คลุกเคล้าให้เข้ากันชิมแล้วปรุงตามชอบ ตักใส่จาน รับประทานพร้อมผักสด    


เพิ่มเติม

close[x]
Questionnaire