SLider section

เจียวไข่มดแดง

ภาค เหนือ

  • recipe image cover

เจียวไข่มดแดง

 

 

ความเป็นมา

ในภาคเหนือและภาคอีสานนิยมนำไข่มดแดงมาทำเป็นอาหาร เจียวไข่มดแดงเป็นอีกหนึ่งเมนูที่ชาวล้านนานำไข่มดแดงมาทำเป็นอาหารได้อร่อย และทำได้ไม่ยาก

 

คุณค่าทางโภชนาการ

ไข่มดแดงมีโปรตีนสูงและไขมันต่ำ เมื่อรวมกับเครื่องปรุงต่างจะยิ่งเพิ่มคุณค่าทางสารอาหารไข่ไก่ยังให้วิตามินและโปรตีนที่มีประโยชน์

 

ส่วนผสม

ไข่มดแดง                 50      กรัม

ไข่ไก่                        2        ฟอง

มะเขือเทศ                80      กรัม

หอมแดง                  15      กรัม

ผักชี ซอย                 1        ช้อนโต๊ะ

ต้นหอม ซอย             1        ช้อนโต๊ะ

ส่วนผสมพริกแกง

พริกแห้ง                  3        เม็ด

กระเทียม                 10      กรัม

หอมแดง                  15      กรัม

กะปิ                          1        ช้อนชา

เกลือ                       ½       ช้อนชา

วิธีทำ

โขลกเครื่องแกงรวมกันให้ละเอียดพักไว้ นำหม้อตั้งไฟ ใส่น้ำสะอาดนำเครื่องแกงลงละลายตั้งไฟจนเดือด จากนั้นใส่ไข่มดแดง หอมแดง และมะเขือเทศ ใส่ไข่ไก่ คนให้เข้ากัน พอสุก ตักใส่ภาชนะ พร้อมเสิร์ฟ

 

 

 

ภาค กลาง

แกงเผ็ดไก่

ความเป็นมา คนไทยเริ่มใช้กะทิในการทำอาหารโดยดัดแปลงมาจากการใช้นมของพวกอาหรับที่เดินทางมาค้าขายในสมัยอยุธยา แต่เดิมคนไทยมีแต่แกงน้ำใส และมีน้ำพริกแกงที่ใช้สมุนไพรสดมาตำรวมกันเพื่อให้แกงมีรสชาติเข้มข้นขึ้น เมื่อนำเอากะทิมาใช้ผสมในน้ำแกง และใส่สมุนไพรอย่างใบโหระพาเพื่อให้มีกลิ่นสดชื่น จึงทำให้กลายเป็นแกงที่มีรสชาติกลมกล่อมน่ากิน คุณค่าทางโภชนาการ แม้แกงไก่จะใช้กะทิที่มีไขมันอิ่มตัวสูงซึ่งอาจจะมีปัญหากับคอเลสเตอรอล แต่ก็มีสมุนไพรจากพริกแกงโดยเฉพาะพริกที่มีรสเผ็ดเพราะมีสารแคปไซซินช่วยขยายช่องจมูกให้ใหญ่ขึ้น จึงช่วยขับเสมหะ และลดการอุดตันของหลอดเลือด มะเขือพวงมีแคลเซียม เหล็ก และฟอสฟอรัสสูง ช่วยลดน้ำตาลในเลือด อีกทั้งยังช่วยในการย่อยอาหาร มะเขือเปราะที่มีกากใยที่ช่วยระบายท้อง ใบโหระพาที่มีเบต้าแคโรทีนสูง โหระพา 100 กรัม มีเบต้าแคโรทีนสูงถึง 452.16 ไมโครกรัม แกงเผ็ดไก่จึงไม่ได้เป็นอาหารที่มีไขมันสูงอย่างที่หลายคนกลัว ถ้าเรากินอย่างพอเหมาะ ส่วนผสม กะทิ                                         4     ถ้วย เนื้อไก่                                      300 กรัม น้ำพริกแกงแดง                          ½    ถ้วย มะเขือเปราะ                              100 กรัม มะเขือพวง                                 20   กรัม ใบโหระพา                                50   กรัม พริกชี้ฟ้าหั่นแฉลบ                      10   กรัม น้ำปลา น้ำตาลเล็กน้อย ส่วนผสมน้ำพริกแกงแดง พริกแห้ง 9 เม็ด กรีดเม็ดออกและแช่น้ำจนนุ่ม ตะไคร้ซอยบาง ¼ ถ้วย หอมแดงซอย  ¼ ถ้วย กระเทียม 2 ช้อนโต๊ะ ผิวมะกรูดหั่นฝอย 1 ช้อนชา รากผักชีหั่นฝอย 1 ช้อนชา พริกไทยเม็ด 1 ช้อนชา กะปิ 1 ช้อนชา ลูกผักชีคั่ว 4 ช้อนชา ยี่หร่าคั่ว 2 ช้อนชา ตำหรือปั่นทุกอย่างรวมกันจนละเอียด วิธีทำ    ผัดเครื่องแกงกับกะทิเล็กน้อยจนหอม ใส่เนื้อไก่ลงไปผัดให้ผิวด้านนอกสุกขาว จากนั้นในกะทิลงไป เติมน้ำสะอาดเล็กน้อยต้มจนเริ่มเดือดและกะทิแตกมัน ใส่มะเขือเปราะ มะเขือพวง และปรุงรสด้วยน้ำปลา และน้ำตาล ชิมรส เมื่อต้องการเสิร์ฟให้ใส่ใบโหระพา พริกชี้ฟ้าแดง ตักขึ้นเสิร์ฟร้อนๆ  


เพิ่มเติม

ภาค อีสาน

กะหรี่ปั๊บไส้ไก่

ความเป็นมา กะหรี่ปั๊บคือของว่างซึ่งเป็นที่นิยมซื้อฝากและรับประทานกัน และเป็นของดีขึ้นชื่อประจำจังหวัดสระบุรี ไส้กะหรี่ปั๊บรสชาติดั่งเดิมจะเป็นรสจากผงกระหรี่ที่ใส่ลงไป จึงมีชื่อเรียกว่าcurry puff แต่มีการเรียกชื่อผิดเพี้ยนมาเป็นชื่อกะหรี่ปั๊บในปัจจุบัน   คุณค่าทางโภชนาการ ในไส้กะหรี่ปั๊บ ผงกะหรี่ช่วยให้เจริญอาหาร ขับลม และขับปัสสาวะ มีเนื้อไก่ที่ให้โปรตีนที่มีประโยชน์ มีผักที่ให้วิตามินต่าง เช่น หอมใหญ่ มันฝรั่ง   ส่วนผสมแป้งชั้นนอก แป้งสาลีอเนกประสงค์           5        ถ้วยตวง น้ำปูนใส                            1/2     ถ้วยตวง เนยขาว                             100    กรัม น้ำตาลทราย                       3        ช้อนโต๊ะ เกลือป่น                            3/4     ถ้วยตวง วิธีทำ ร่อนแป้งสาลีอเนกประสงค์พักไว้ละลายน้ำตาลทรายและเกลือป่นลงในน้ำเย็นเทลงในแป้งสาลี เติมน้ำปูนใสและเนยขาว นวดให้เนียน พักแป้งไว้ประมาณครึ่งชั่วโมง ตัดแป้งเป็นก้อนก้อนละ 45 กรัม นำไปหุ้มแป้งชั้นใน   ส่วนผสมแป้งชั้นใน แป้งสาลีอเนกประสงค์           2        ถ้วยตวง เนยขาว                             100    กรัม วิธีทำ ร่อนแป้งสาลีแล้วทำเป็นบ่อตรงกลาง ใส่เนยขาวนวดให้เข้ากันเป็นก้อน แบ่งเป็นก้อนก้อนละ 15 กรัม สำหรับทำแป้งชั้นใน     สวนผสมไส้ไก่ เนื้อไก่สับหยาบ                  300    กรัม หอมใหญ่หั่น                       200    กรัม มันฝรั่งสุกหั่น                       500    กรัม ซอสปรุงรส                          2        ช้อนโต๊ะ พริกไทยป่น                         1        ช้อนชา ผงกะหรี่                              1        ช้อนชา น้ำตาลทราย                       7        ช้อนโต๊ะ เกลือป่น                               1 1/2 ช้อนชา เนยสด                                  3        ช้อนโต๊ะ น้ำสะอาด วิธีทำ ตั้งกระทะใส่เนย นำหอมใหญ่ลงผัดพอสุก ใส่เนื้อไก่และมันฝรั่ง ปรุงรสด้วยซอสปรุงรส พริกไทยป่น ผงกระหรี่ น้ำตาลทรายและเกลือป่น ผัดให้เข้ากัน พักให้เย็น   ขั้นตอนการทำกะหรี่ปั๊บไส้ไก่ แบ่งแป้งชั้นในและชั้นนอกให้ได้จำนวนก้อนเท่ากัน นำแป้งชั้นนอกหุ้มแป้งชั้นในคลึงแป้งครั้งที่ 1 แล้วม้วนแป้งคลึงแป้งครั้งที่ 2 แล้วม้วนแป้งตัดแป้งเป็น 2 หรือ 3 ท่อนคลึงแป้งให้เป็นแผ่นบางพอประมาณนำไส้ที่ผัดแล้วมาใส่ในแป้งที่คลึงเป็นแผ่นห่อไส้ให้มิด แล้วจับขลิบเป็นแบบวงรี นำลงทอดก่อนรับประทาน    


เพิ่มเติม

ภาค ใต้

ปลากระบอกต้มส้มโหนด

ความเป็นมา ต้มโนด หรือ น้ำส้มโหนด เป็นน้ำส้มสายชูหมักจากน้ำตาลโตนด ซึ่งเป็นการทำน้ำตาลหวานที่ได้จากต้นตาลมาทำเป็นน้ำตาลเปรี้ยว หรือน้ำสายชูเปรี้ยว นับเป็นภูมิปัญญาของคนใต้ที่นำพืชท้องถิ่นมาแปรรูปได้อย่างสร้างสรรค์ นำมาต้มปลากระบอกที่หาได้ในท้องถิ่น เป็นรสชาติธรรมชาติจากท้องถิ่นโดยแท้จริง   คุณค่าทางโภชนาการ น้ำส้มสายชูหมักเป็นการหมักตามกรรมวิธีธรรมชาติ รสจะไม่เปรี้ยวจัด เมื่อหมักจากน้ำตาลโตนด ทำให้มีกลิ่นเปรี้ยวหอมที่นำไปทำอาหารได้กลิ่นเป็นเอกลักษณ์ชวนกิน น้ำส้มสายชูให้รสเปรี้ยวมีวิตามินซีที่ช่วยป้องกันโรคหวัดคัดจมูกได้อย่างดี จานนี้มีรสเปรี้ยวหวาน คล้ายต้มส้มของภาคกลาง จึงทำให้กินปลาที่มีโปรตีนได้อร่อย และไม่มีไขมันให้กังวลใจ  ส่วนผสม ปลากระบอกตัวขนาดกลาง           500 กรัม น้ำส้มสายชูตาลโตนด หรือน้ำส้มโหนด  ½    ถ้วย ขมิ้นยาว 2 นิ้วบุบ                 1     ชิ้น ตะไคร้บุบ                            30   กรัม หอมแดงบุบ                         40   กรัม พริกขี้หนูบุบ                         5     กรัม น้ำตาลแว่น                           20   กรัม เกลือ                                     1     ช้อนโต๊ะ วิธีทำ ตั้งน้ำสะอาด 5 ถ้วย ใส่ตะไคร้ ขมิ้น และหอมแดง บนไฟแรงจนเดือด ใส่ปลากระบอกลงไปต้มจนสุก ปรุงรสด้วยน้ำส้มสายชู น้ำตาล และเกลือ ใส่พริกขี้หนู รอให้เดือดอีกครั้ง ตักเสิร์ฟร้อนๆ


เพิ่มเติม

close[x]
Questionnaire