SLider section

ต้มโคล้งปลาดุกย่าง

ภาค อีสาน

  • recipe image cover

ต้มโคล้งปลาดุกย่าง

 

 

ความเป็นมา

ต้มโคล้งจะคล้ายกับต้มยำ แตกต่างกันที่ต้มโคล้งเพิ่มการใส่น้ำมะขามเปียก และใส่เนื้อปลาเป็นหลัก รวมถึงใส่ใบกะเพราเพื่อเพิ่มความหอม

 

คุณค่าทางโภชนาการ

ต้มโคล้งเป็นอาหารที่มีสรรพคุณหลากหลายจากสมุนไพร เช่น ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด และใบกะเพรา ที่ช่วยให้เจริญอาหาร ขับลม บำรุงร่างกาย และช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีหอมแดงช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระบำรุงหัวใจผักชีฝรั่งช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง

 

ส่วนผสม

ปลาดุกย่าง หั่นชิ้น                600    กรัม

พริกขี้หนูสับ                        2        ช้อนโต๊ะ

ตะไคร้หั่นท่อน                    30      กรัม

ข่าหั่นแว่น                           10      กรัม

มะเขือเทศสีดา                    40      กรัม

หอมแดง                             20      กรัม

ใบมะกรูดฉีด                       3        กรัม

ผักชีฝรั่งซอย                       1        ช้อนโต๊ะ

ใบกะเพรา                           10      กรัม

น้ำมะขามเปียก

น้ำปลา

 

วิธีทำ

ตั้งหม้อใส่น้ำบนไฟกลาง ใส่หอมแดง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด ต้มจนเดือด ใส่น้ำมะขามเปียกและน้ำปลา คนให้เข้ากัน ใส่ปลาดุกย่าง ต้มต่อให้เดือดใส่ใบมะกรูด ผักชีฝรั่ง และใบกะเพรา ต้มจนเดือดอีกครั้งตักใส่ชามเสิร์ฟ

 

 

ภาค ใต้

ไก่ทอดหาดใหญ่

ความเป็นมา ภาคใต้มีพื้นที่ติดกับประเทศมาเลเซียซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนมุสลิมที่อพยพมาจากอินเดีย อาหารหลายอย่างจึงใช้เครื่องเทศเป็นส่วนผสม อาหารใต้ส่วนใหญ่จึงได้รับอิทธิพลมา ไก่ทอดหาดใหญ่จะต้องหมักด้วยลูกผักชี ยี่หร่า พริกไทย มีกลิ่นหอมแตกต่างจากไก่ทอดภาคอื่น และต้องชุบแป้งทอดเพื่อให้ผิวนอกกรอบเนื้อในนุ่ม ที่สำคัญซึ่งขาดไม่ได้คือต้องโรยหอมเจียวให้มีกลิ่นหอมซึ่งคนมุสลิมนิยมกินกัน   คุณค่าทางโภชนาการ เนื้อไก่เป็นเนื้อสัตว์ที่มีโปรตีนสูง ไขมันต่ำ อุดมไปด้วยวิตามินบีชนิดต่างๆ สำหรับบำรุงระบบประสาทให้แข็งแรง มีธาตุสังกะสีในปริมาณพอสมควร และมีกรดไขมันชนิดอิ่มตัวค่อนข้างต่ำ เนื้อไก่ติดหนังหนัก 100 กรัมให้พลังงาน 247 กิโลแคลอรี โปรตีน 25 กรัม ไขมัน 16 กรัม   ส่วนผสม เนื้อไก่ส่วนน่อง / สะโพก        1     กก. พริกไทยเม็ด                        2     ช้อนโต๊ะ ลูกผักชี                              2     ช้อนโต๊ะ ยี่หร่า                                 1     ช้อนชา กระเทียม                          2     ช้อนโต๊ะ รากผักชี                           15   กรัม ซอสหอยนางรม                2     ช้อนโต๊ะ ซีอิ๊วขาว                            3     ช้อนโต๊ะ เกลือ                                  ½    ช้อนชา น้ำตาล                               1     ช้อนโต๊ะ แป้งข้าวเจ้า                         ½    ถ้วย น้ำปูนใส                              ¼    ถ้วย หอมเจียวสำหรับโรยหน้า    


เพิ่มเติม

ภาค กลาง

ต้มยำกุ้ง

ความเป็นมา แกงน้ำใสที่ได้กลิ่นหอมจากน้ำมันหอมระเหยของสมุนไพรไทย เป็นเมนูง่ายๆ ที่สะท้อนความเป็นไทยได้อย่างเด่นชัด ส่วนผสมมีเพียงกุ้ง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด พริก และน้ำมะนาว ก็สามารถปรุงได้รสเปรี้ยว เค็ม เผ็ด ได้อย่างกลมกล่อม ผู้ใหญ่บางท่านบอกว่าในอดีต สีแดงในต้มยำกุ้งเป็นมันกุ้งของกุ้งแม่น้ำที่ใช้มาทำต้มยำ ต่อมาเมื่อกุ้งหายาก พ่อครัวคนจีนจึงใส่น้ำพริกเผาให้มีมันลอยหน้าคล้ายมันกุ้ง อย่างไรก็ตามต้มยำกุ้งได้กลายเป็นอาหารไทยที่รู้จักกันไปทั่วโลก   คุณค่าทางโภชนาการ ต้มยำกุ้งเป็นอาหารจานชุมนุมสมุนไพรที่ทำให้รู้สึกสดชื่น กระชุ่มกระชวย  สมองปลอดโปร่ง เพราะข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด ล้วนมีน้ำมันหอมระเหยที่อบอวลอยู่ในจานอาหาร และมีสรรพคุณช่วยขับลม ให้ความสดชื่น  ผสานไปกับรสหวานของเนื้อกุ้งและเห็ด  กุ้งเป็นอาหารทะเลที่มีโปรตีนสูงแต่ไขมันต่ำ มีวิตามินบี 12 ที่ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง และป้องกันโรคโลหิตจาง   ส่วนผสม กุ้งแม่น้ำหรือกุ้งสดแกะเปลือก ผ่าหลัง   200  กรัม เห็ดฟาง                                    1     ถ้วย ข่าบุบหรือหั่นแว่น                      20   กรัม ตะไคร้บุบ                                  80   กรัม ใบมะกรูด                                  5     กรัม พริกขี้หนู                                  5     กรัม น้ำปลา น้ำมะนาว ผักชีสำหรับโรยหน้า วิธีทำ ตั้งน้ำสะอาด หรือน้ำซุป ใส่ข่า ตะไคร้ ลงไปต้มให้เดือด และมีกลิ่นหอม จากนั้นใส่เห็ดฟาง และกุ้ง ปรุงรสด้วยน้ำปลา ใส่พริกขี้หนู จากนั้นยกลงจากเตาเติมน้ำมะนาว ชิมรสตักเสิร์ฟ


เพิ่มเติม

ภาค เหนือ

แกงอ่อมหมู

ความเป็นมา แกงอ่อมหมูของทางภาคเหนือ จะแตกต่างจากแกงอ่อมในภาคอีสาน เพราะมีพริกแกงที่รสชาติจัดจ้านกว่า สมัยก่อนแกงอ่อมของชาวล้านนาจะเป็นอาหารที่นิยมทานกันในช่วงเวลาที่สำคัญๆท่านั้น   คุณค่าทางโภชนาการ เครื่องแกงของแกงอ่อมมีคุณค่าทางโภชนาการสูง เช่นตะไคร้แก้และบรรเทาอาการหวัด อาการไอ ข่าช่วยบำรุงร่างกาย กระเทียมช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อในร่างกายป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง และช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกาย   ส่วนผสม หมูสามชั้นหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ            200    กรัม ข่าอ่อนซอย                                   10      กรัม ตะไคร้ซอย                                    15      กรัม ใบมะกรูด                                        4        ใบ รากผักชี                                         10      กรัม ผักชีฝรั่งหั่นหยาบ                          1        ช้อนโต๊ะ ผักชีซอย                                        1        ช้อนโต๊ะ ต้นหอมซอย                                  1        ช้อนโต๊ะ น้ำมันพืชสำหรับผัด ส่วนผสมพริกแกง พริกแห้ง                                     7        เม็ด หอมแดง                                     30      กรัม กระเทียม                                    15      กรัม ข่าซอย                                       1        ช้อนโต๊ะ ตะไคร้ซอย                                  1        ช้อนโต๊ะ รากผักชีซอย                                1        ช้อนชา กะปิ                                             1        ช้อนชา วิธีทำ ตำหรือปั่นส่วนผสมพริกแกงให้ละเอียด นำลงไปผัดกับน้ำมันจนมีกลิ่นหอม ใส่เนื้อหมูลงไปผัดจนหมูเริ่มสุก ใส่ข่า ตะไคร้ รากผักชี ผัดให้เข้ากัน เติมน้ำลงให้พอท่วมเนื้อหมู เคี่ยวต่อจนเนื้อนุ่ม ใส่ใบมะกรูด และผักชีฝรั่ง ตั้งไฟจนเดือด ยกลง ตักเสิร์ฟพร้อมโรยด้วยต้นหอม ผักชี    


เพิ่มเติม

close[x]
Questionnaire