SLider section

ตำซั่ว

ภาค อีสาน

  • recipe image cover
  • recipe image cover

ตำซั่ว

 

ความเป็นมา

ตำซั่ว คือส้มตำที่ใส่ทั้งเส้นขนมจีนและเส้นมะละกอ ในบางสูตรจะใส่ผักดอง ข้าวคั่ว หอยดอง ถั่วงอก นิยมรับประทานกันมากในภาคอีสาน

 

คุณค่าทางโภชนาการ

ตำซั่ว มีคุณค่าทางอาหารทั้งจาก มะละกอช่วยย่อยโปรตีน ทำให้ร่างกายย่อยอาหารได้ดี น้ำมะนาว มะเขือเทศ พริกขี้หนูมีวิตามินซีสูง ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ กระเทียมไทย ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อในร่างกาย และได้โปรตีนจากปลาร้า ช่วยป้องกันการสะสมตัวของไขมันอิ่มตัวหรือคอเลสเตอรอล

 

ส่วนผสม

มะละกอสับเป็นเส้น              50      กรัม

เส้นขนมจีน                          80      กรัม

มะเขือเทศสีดา                    30      กรัม

มะเขือเปราะ                         10      กรัม

พริกขี้หนูสด                           6        เม็ด

กระเทียม                                5        กรัม

ถั่วฝักยาวหั่นเป็นท่อน             25      กรัม

น้ำมะนาว                                  1        ช้อนโต๊ะ

น้ำปลา                                      ½       ช้อนโต๊ะ

น้ำปลาร้าต้มสุก                           2        ช้อนโต๊ะ

      

วิธีทำ

ใส่กระเทียมและพริกขี้หนู ลงในครก โขลกให้พอแหลก ตามด้วยถั่วฝักยาวโขลกพอแหลกปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำปลาร้า น้ำมะนาว โขลกเบา ๆ พอเข้ากัน ใส่มะละกอ เส้นขนมจีน มะเขือเทศผ่าซีก ฝานมะเขือเปราะเป็นชิ้นบางใส่ลงโขลกเข้าด้วยกันชิมรสตามชอบ ตักใส่จานเสิร์ฟพร้อมผักสด

 

 

ภาค กลาง

น้ำพริกกะปิ

ความเป็นมา น้ำพริกคู่ครัวไทยที่มีมาตั้งแต่อดีตและกินกันทุกครัวเรือน กะปิเรียกได้ว่าเป็นอาหารร่วมของประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่กินกันทุกประเทศในรูปแบบต่างๆ กัน คำว่า”กะปิ” นี้ว่ากันว่าเพี้ยนมาจากคำว่า “งาปิ” ซึ่งเป็นภาษามอญ น้ำพริกกะปิของไทยต้องมีรสเผ็ด เปรี้ยว เค็ม หวาน และไม่ควรข้นเกินไปเพราะต้องกินกับข้าวและเครื่องเคียงอย่าง ปลาทู ผักสด และผักทอดต่างๆ   คุณค่าทางโภชนาการ กะปิทำจากเคยหมักจึงให้แคลเซียมสูงมาก กะปิ 100 กรัม ให้แคลเซียมสูงถึง 1,554 มิลลิกรัม ซึ่งเพียงพอต่อความต้องการแคลเซียมในแต่ละวัน ซึ่งจะช่วยทำให้กระดูกและฟันแข็งแรง ช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน ในน้ำพริกยังมีกระเทียมที่ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด พริกกระตุ้นความอยากอาหาร และมะอึกที่มีรสเปรี้ยวทำให้น้ำพริกมีรสกลมกล่อม อร่อย ทำให้กินผักเครื่องเคียงต่างๆ ที่มีวิตามิน และกากใยได้อีกมากมาย   ส่วนผสม กะปิอย่างดี เผาไฟ                      2     ช้อนโต๊ะ กระเทียม                                   10   กรัม กุ้งแห้งตำละเอียด                       2     ช้อนโต๊ะ พริกขี้หนูเขียว แดง รวมกัน          10   กรัม มะอึก ขูดขนออกหั่นบาง              60   กรัม น้ำตาลปี๊บ                                 1     ช้อนโต๊ะ น้ำปลา                                     2     ช้อนชา น้ำมะนาว                                  2     ช้อนโต๊ะ มะเขือพวงบุบ                            10   กรัม เครื่องเคียง ปลาทูทอด ผักลวก เช่น หน่อไม้ ผักบุ้ง ผักทอด เช่น มะเขือยาวชุบไข่ทอด ไข่ชะอมทอด วิธีทำ ตำกระเทียม และกะปิให้เข้ากันดี ทำให้กลิ่นของกะปิและกระเทียมไม่แรงจนเกินไป จากนั้นใส่กุ้งแห้ง พริกขี้หนู ตำให้พริกพอแหลก ใส่มะอึก ตำเล็กน้อย ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ น้ำปลา คนให้เข้ากัน จากนั้นตักออกจากครกจึงใส่น้ำมะนาว ชิมรสอีกครั้ง จึงใส่มะเขือพวงบุบ


เพิ่มเติม

ภาค เหนือ

ตำมะเขือยาว

    ความเป็นมา มะเขือยาวเป็นผักพื้นบ้านที่หาทานได้ทั่วไป มีประโยชน์และคุณค่าทางโภชนาการมากมาย สามารถนำมาประกอบอาหารได้ปลายประเภท ชาวล้านนานิยมนำมาตำเป็นน้ำพริกเพื่อเพิ่มรสชาติให้อร่อยมากยิ่งขึ้น   คุณค่าทางโภชนาการ มะเขือยาวมีสารช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระช่วยยับยั้งการดูดซึมของคอเลสเตอรอล มีส่วนช่วยรักษาหลอดเลือดโลหิตและหัวใจให้เป็นปกติช่วยป้องกันการเกิดโรคความดันโลหิตสูง และแคลเซียมจากมะเขือยาวยังช่วยบำรุงกระดูกและฟัน   ส่วนผสม มะเขือยาว               300    กรัม พริกหนุ่ม                 60      กรัม กระเทียม                 30      กรัม หอมแดง                  30      กรัม กะปิเผา                   1        ช้อนชา เกลือ                       1        ช้อนชา ผักชี หั่น                  2        ช้อนโต๊ะ ต้นหอม หั่น              2        ช้อนโต๊ะ กระเทียม สับ            1        ช้อนโต๊ะ น้ำปลา                     2        ช้อนโต๊ะ น้ำมันพืช   วิธีทำ นำมะเขือยาว หอมแดง กระเทียม พริกหนุ่ม เผาไฟ แล้วปอกเปลือกออกให้หมด นำพริกหนุ่มโขลกกับเกลือให้ละเอียด ใส่กระเทียม หอมแดง กะปิ โขลกให้เข้ากัน ใส่มะเขือยาว โขลกให้เข้ากัน พักไว้ ตั้งกระทะใส่น้ำมัน เจียวกระเทียมสับจนหอม ใส่ส่วนผสมที่โขลกไว้ลงผัด ปรุงรสด้วยน้ำปลา ใส่ต้นหอม ผักชี ตักขึ้น        


เพิ่มเติม

ภาค อีสาน

หม่ำ

  ความเป็นมา หม่ำ คือการถนอมอาหาร เหมือนกับไส้กรอกอีสานแต่หม่ำจะใส่เครื่องในสัตว์ เช่นตับและม้าม ทำให้มีสีเข้มกว่า หม่ำอร่อยๆหารับประทานได้ทั่วไปแต่ที่นิยมกันมากอยู่ที่จังหวัดขอนแก่น เพราะมีวางขายให้เลือกมากมาย   คุณค่าทางโภชนาการ ในหม่ำมีกระเทียมช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อในร่างกายมีเนื้อสัตว์ช่วยให้ซ่อมแซมร่างกายส่วนที่สึกหรอ มีธาตุเหล็กช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดง   ส่วนผสม เนื้อหมู                                    2        กิโลกรัม เครื่องในหมู (ตับและม้าม)      2        กิโลกรัม ไส้หมูสด                                   1        กิโลกรัม เกลือป่น                                    200    กรัม กระเทียม                                   300    กรัม ข้าวคั่ว                                         300    กรัม   วิธีทำ นำเนื้อหมูและเครื่องในที่เตรียมไว้มาบดให้ละเอียดผสมด้วยข้าวคั่ว เกลือ กระเทียม จากนั้นนำไปใส่ในไส้หมู นำเชือกมามัดให้เป็นข้อๆผึ่งลงไว้ 4-5 วันปรุงให้สุกก่อนรับประทาน      


เพิ่มเติม

close[x]
Questionnaire