SLider section

แกงเลียง

ภาค กลาง

  • recipe image cover

แกงเลียง

ความเป็นมา

แกงเลียงเป็นแกงน้ำใสที่มีรสเผ็ดร้อนจากพริกไทย จึงน่าจะเป็นแกงโบราณของไทยก่อนที่ไทยจะได้รับอิทธิพลของพริกมาจากชาวโปรตุเกสที่เข้าในสมัยอยุธยา ผักที่ใช้เป็นผักพื้นบ้านที่ปลูกริมรั้วทั้งหมด เช่น ฟักทอง บวบ ตำลึง ใบแมงลัก และใส่กุ้งแห้งเพื่อให้มีรสหวานอร่อย

คุณค่าทางโภชนาการ

แกงเลียงจัดเป็นอาหารสุขภาพที่มีรสเผ็ดร้อนจากพริกไทย ที่ช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหาร และช่วยให้ระบบไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ฟักทองมีวิตามินเอช่วยบำรุงสายตา ตำลึงมีเบต้าแคโรทีนสูงช่วยกำจัดอนุมูลอิสระ บวบมีใยอาหารสูงและช่วยบำรุงน้ำนม ใบแมงลักมีธาตุเหล็กสูง ช่วยบรรเทาอาการหวัด และแก้วิงเวียนศีรษะ โปรตีนได้จากกุ้งแห้งและเนื้อกุ้งสด

ส่วนผสมน้ำพริกแกงเลียง

กุ้งแห้งตำละเอียด                       ½    ถ้วย

หอมแดงซอย                             ¼    ถ้วย

พริกไทยเม็ด                              1     ช้อนโต๊ะ

กะปิ                                          1     ช้อนชา

ส่วนผสม

กุ้งสดแกะเปลือก                         200 กรัม

ฟักทองหั่นชิ้นใหญ่                     300 กรัม

บวบหั่นชิ้นใหญ่                         300 กรัม

ใบตำลึง                                    1     ถ้วย

ข้าวโพดอ่อนหั่น                         100 กรัม

ใบแมงลัก                                  1     ถ้วย

น้ำปลา

วิธีทำ

ปั่นหรือตำส่วนผสมน้ำพริกแกงเลียงให้เข้ากัน นำไปละลายในน้ำทีละน้อยให้เป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นเติมน้ำซุป หรือน้ำสะอาด ขึ้นตั้งไฟจนเดือด ใส่ฟักทอง ข้าวโพดอ่อน และบวบต้มให้สุกนุ่ม ใส่กุ้งสด

ภาค ใต้

ปลาทูสอดไส้

    ความเป็นมา   ปลาทูเป็นปลาที่มีมากทั้งในอ่าวไทยและทะเลอันดามัน คนใต้แทนที่จะนำมาทอดทั้งตัว แต่นำมาสร้างสรรค์โดยผสมมะพร้าวขูดกับเนื้อหมูและสมุนไพร ใส่ไส้แล้วนำไปทอด ทำให้กิน อร่อยได้อย่างไม่เบื่อ   คุณค่าทางโภชนาการ เมนูนี้ได้โปรตีนจากทั้งเนื้อปลาและเนื้อหมูที่ผสมรวมกับมะพร้าวขูดและสมุนไพร มะพร้าวแม้จะมีไขมันอิ่มตัวสูงแต่ก็ย่อยง่าย และยังมีสมุนไพรต่างๆ มาช่วยย่อยอีก จึงทำให้กินอิ่มได้อย่างสบายใจไม่ต้องกลัวแน่นท้อง   ส่วนผสม ปลาทู                               6        ตัว มะพร้าวขูดขาว                300    กรัม หมูบด                               200    กรัม กระเทียมหั่น                      ½       ถ้วย ขมิ้นหั่น                              3        ช้อนโต๊ะ พริกไทยเม็ด                       1        ช้อนโต๊ะ ใบมะกรูดซอย                     4        ใบ น้ำปลา                                2        ช้อนโต๊ะ วิธีทำ กรีดข้างลำตัวปลา แล่ก้างปลาออก  โขลกพริกไทย เกลือ กระเทียม ขมิ้น รวมกันให้ละเอียด แบ่งมาครึ่งหนึ่งผสมกับมะพร้าวและหมูบด ใส่น้ำปลา ใบมะกรูด คลุกให้เข้ากัน นำไปใส่ตัวปลาจนเต็ม เครื่องส่วนที่เหลือนำไปเคล้ากับตัวปลาให้ทั่ว และทอดในน้ำมันร้อนจนสุก    


เพิ่มเติม

ภาค ใต้

ฟักทองผัดไข่พริกไทยดำ

    ความเป็นมา คนใต้เรียกฟักทองว่า “น้ำเต้า” เป็นผักพันธุ์ไม้เลื้อยที่ขึ้นง่าย ชาวบ้านมักจะปลูกไว้หลังบ้าน ทำอาหารกินได้ทั้งคาวและหวาน หรือผัดกับน้ำมันง่ายๆ ให้ได้รสหวานตามธรรมชาติโดยไม่ต้องปรุงแต่งมาก แต่คนใต้ชอบรสเผ็ดร้อน จึงใส่พริกไทยดำมากกว่าทางภาคกลาง   คุณค่าทางอาหาร สีเหลืองของฟักทองมีเบต้าแคโรทีนอยู่เต็มเปี่ยมซึ่งสามารถช่วยป้องกันมะเร็งได้  และยังอุดมไปด้วยวิตามินเอที่ช่วยให้ดวงตาแข็งแรง ในตำราโบราณบอกไว้ว่าถ้ากินพร้อมเปลือกจะมีฤทธิ์ทางยา สามารถกระตุ้นการหลั่งของอินซูลินที่ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ป้องกันเบาหวาน และโรคความดันโลหิตได้   ส่วนผสม ฟักทองหั่นชิ้นเล็ก                 300    กรัม หอมแดงซอย                         10      กรัม กระเทียม                                  5        กรัม พริกไทยดำ                              1        ช้อนชา ไข่                                            1        ฟอง น้ำปลา                                      2        ช้อนโต๊ะ น้ำตาล                                        2        ช้อนโต๊ะ น้ำสะอาด   วิธีทำ โขลกหอม กระเทียม พริกไทย รวมกัน ตั้งกระทะใส่น้ำมันพอร้อนใส่ส่วนผสมที่ตำไว้ลงผัดพอหอม ใส่ฟักทอง ผัดสักครู่ ค่อยๆ เติมน้ำทีละน้อยจนฟักทองสุก ใส่ไข่ ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล ผัดให้เข้ากันตักเสิร์ฟ    


เพิ่มเติม

ภาค เหนือ

แกงโฮ๊ะ

ความเป็นมา คำว่า “โฮ๊ะ” แปลว่า รวม คือการนำเอาอาหารหลายๆ อย่างมารวมกัน แต่ก่อนแกงโฮะมักจะทำจากอาหารที่เหลือหลายๆ อย่าง โดยจะมีความแตกต่างกันไปตามท้องถิ่น แต่สมัยนี้ใช้วัตถุดิบที่สดใหม่ในการปรุงเพื่อให้มีคุณค่าทางโภชนาการมากยิ่งขึ้น                               คุณค่าทางโภชนาการ แกงโฮ๊ะ มีคุณค่าทางโภชนาการมากมายจากวัตถุดิบหลากหลายที่ผสมรวมกันเช่น ขมิ้นสดช่วยในการขับลม มะเขือพวงมีสารเพกติน ที่ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในผู้ป่วยโรคเบาหวาน โดยสารนี้จะมีหน้าที่ช่วยเคลือบผิวในลำไส้ ทำให้อาหารเคลื่อนตัวผ่านลำไส้ได้ช้า จึงช่วยดูดซึมแป้งและน้ำตาลที่ย่อยแล้วได้ช้าลง ทำให้ระดับของน้ำตาลในเลือดคงที่   ส่วนผสม เนื้ออกไก่หั่นชิ้นบาง                        150    กรัม หมูสามชั้นหั่นชิ้นบาง                      200    กรัม มะเขือเปราะผ่าสี่                          100    กรัม หน่อไม้ดอง                                  200    กรัม มะเขือพวง                                  50      กรัม วุ้นเส้นแช่น้ำจนนิ่มหั่นท่อน               150    กรัม ถั่วฝักยาวหั่นท่อน                          100    กรัม ยอดใบตำลึงเด็ด                            100    กรัม ผักชีหั่นท่อน                                  3        ช้อนโต๊ะ ต้นหอมหั่นท่อน                             3        ช้อนโต๊ะ ผักชีฝรั่งหั่นท่อน                            3        ช้อนโต๊ะ พริกขี้หนูแดงบุบ                            5        กรัม น้ำปลา                                           3        ช้อนโต๊ะ น้ำมันสำหรับผัด ส่วนผสมพริกแกง พริกชี้ฟ้าแห้ง                                8        เม็ด เกลือป่น                                       1        ช้อนชา ตะไคร้ซอย                                   2        ช้อนโต๊ะ กระเทียมซอย                               2        ช้อนโต๊ะ หอมแดงซอย                                3        ช้อนโต๊ะ ขมิ้นสดซอย                                  1        ช้อนชา กะปิ                                               1        ช้อนชา


เพิ่มเติม

close[x]
Questionnaire