SLider section

แกงพริกหอยแครงใบยี่หร่า

ภาค ใต้

  • recipe image cover

แกงพริกหอยแครงใบยี่หร่า

ความเป็นมา

          คำว่า “แครง” หรือ “คราง” มาจากภาษาชวา – มลายู ที่ใช้เรียกหอยประเภทหอยแครงว่า “เคอรัง” หรือ “ครัง” จนในที่สุดเพี้ยนมาเป็น แครง หอยแครงมีมากตามชายฝั่งตื้นๆ ที่เป็นโคลน     หรือโคลนเหลวพบมากที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ปัตตานี ซึ่งชาวบ้านหาได้ไม่ยาก นำมาทำอาหารได้หลายชนิดทั้งลวกและแกง

 

คุณค่าทางโภชนาการ

หอยแครงเป็นหอยที่มีโปรตีน ธาตุเหล็ก และฟอสฟอรัสสูง มีคุณสมบัติช่วยบำรุงเลือด บำรุงไขข้อ นำมาแกงกับน้ำพริกแกงใต้ที่มีรสเผ็ดร้อนช่วยให้ร่างกายสูบฉีดเลือดได้ดี และยังใส่ใบยี่หร่าที่มีรสร้อนแรง ช่วยบำรุงธาตุ ขับลม อีกด้วย

 

ส่วนผสม

เนื้อหอยแครง            150    กรัม

น้ำพริกแกงใต้            ¼       ถ้วย

กะปิ                             2        ช้อนโต๊ะ

น้ำปลา                        2        ช้อนโต๊ะ

ใบยี่หร่า                      50      กรัม

น้ำ                                2        ถ้วย

วิธีทำ

ผสมน้ำพริกแกงกับกะปิให้เข้ากัน ตั้งน้ำพอเดือดใส่พริกแกง พอเดือดใส่หอยแครง ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำต้องขลุกขลิก ก่อนยกขึ้นใส่ใบยี่หร่า

 

 

ภาค อีสาน

ลาบปลาดุก

ความเป็นมา ลาบปลาดุกถูกดัดแปลงเพื่อให้เกิดรสชาติและเพิ่มคุณค่าทางสารอาหารมากยิ่งขึ้น เพราะรสชาติและรสสัมผัสของปลาดุกย่างจะแตกต่างจากเนื้อสัตว์โดยทั่วไป เนื้อปลาจะนุ่มและซึมซับรสของเครื่องปรุงได้ดีกว่า จึงได้รสชาติที่จัดจ้านกว่าเนื้อปลาชนิดอื่น   คุณค่าทางโภชนาการ เนื้อปลาดุกย่างมีสรรพคุณคือ มีโปรตีนสูง และไขมันต่ำ นอกจากนั้น ข่ายังช่วยในระบบย่อยอาหาร ส่วนหอมแดง ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ บำรุงหัวใจผักชีฝรั่งช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง ใบสะระแหน่ช่วยบำรุงสายตา คลายเครียด ต้นหอม ช่วยป้องกันอาการท้องผูกและลดคอเลสเตอรอลในกระแสเลือด   ส่วนผสม ปลาดุกหนัก 300 กรัม                   1        ตัว ใบมะกรูดหั่นฝอย                          2        ช้อนชา ข่าโขลกละเอียด                            1        ช้อนโต๊ะ หอมแดงซอย                                10      กรัม ต้นหอมซอย                                  1        ช้อนโต๊ะ ผักชีฝรั่งหั่นหยาบ                          1        ช้อนโต๊ะ ใบสะระแหน่                                 10      กรัม ข้าวคั่วป่น                                    2        ช้อนโต๊ะ พริกป่น                                       1        ช้อนโต๊ะ น้ำปลา                                       2        ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว                                   2        ช้อนโต๊ะ   วิธีทำ ล้างปลาดุกให้สะอาด ขูดเมือกบนผิวออก นำไปย่างไฟพอสุก แกะเอาแต่เนื้อนำมาสับหยาบๆ จากนั้นเคล้าเนื้อปลาดุกกับข้าวคั่ว พริกป่น ข่าหั่นฝอย หอมแดงซอย และใบมะกรูดหั่นฝอยปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว คลุกเคล้ากันให้ทั่ว โรยใบสะระแหน่ ต้นหอม ผักชีฝรั่ง ตักใส่จาน เสิร์ฟพร้อมผักเคียง    


เพิ่มเติม

ภาค ใต้

ไก่ย่างฆอและ

  ความเป็นมา ไก่ย่างฆอและเป็นอาหารที่คนมุสลิมทางใต้นิยมกินกันโดยเฉพาะที่ปัตตานีจะมีชื่อเสียงมาก และยังกินกันทั่วไปที่ประเทศมาเลเซีย ภาษามลายูจะเรียกว่า “อาแยฆอและ” แปลว่าไก่กลิ้ง ซึ่งน่าจะหมายถึงการย่างที่ต้องพลิกไปพลิกมา บางร้านจะขายคู่กับข้าวหลาม   คุณค่าทางโภชนาการ ไก่เป็นเนื้อสัตว์ที่ให้โปรตีนสูงแต่มีไขมันต่ำ แม้ว่าเมนูนี้จะมีไขมันจากกะทิที่หมักและราดขณะย่างเพื่อให้เนื้อนุ่มแต่ก็ไม่มากเกินไป การหมักไก่ด้วยสมุนไพรต่างๆ ที่ช่วยดับกลิ่นคาว ทำให้มีกลิ่นหอมน่ากินแล้ว สมุนไพรและเครื่องเทศเหล่านี้ยังมีคุณสมบัติที่ช่วยขับลม แก้ท้องอืดด้วย   ส่วนผสม เนื้อสะโพกไก่                      1        กิโลกรัม กะทิ                                     1        ถ้วย พริกชี้ฟ้าแห้ง                      5        เม็ด (กรีดเม็ดออกแช่น้ำไว้สักครู่) หอมแดง                             30      กรัม กระเทียม                            20      กรัม ขมิ้นหั่น                                2        ช้อนชา ลูกผักชีป่น                           1        ช้อนชา ยี่หร่าป่น                              ½       ช้อนชา กะปิ                                       1        ช้อนชา ขิงหั่นแว่น                             10      กรัม น้ำมะขามเปียก                      2        ช้อนโต๊ะ วิธีทำ โขลกส่วนผสมทั้งหมดให้ละเอียด นำไปผสมกับกะทิ น้ำมะขาม แล้วหมักไก่ไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง นำไปย่างจนสุก ขณะย่างทาน้ำหมักไปด้วยเพื่อไม่ให้เนื้อไก่แห้ง    


เพิ่มเติม

ภาค กลาง

ข้าวผัดน้ำพริกปลาทู

  ความเป็นมา น้ำพริกกะปิเป็นน้ำพริกคู่ครัวไทยที่เรียกได้ว่ากินกันทุกบ้านเพราะทำง่ายและเก็บได้นานปลาที่กินคู่กันได้อร่อยที่สุดก็คือปลาทู จนมีสำนวนติดปากว่า “น้ำพริกปลาทู” และการกินน้ำพริกให้อร่อยคือต้องนำไปคลุกกับข้าวและปลารวมกัน  ข้าวผัดจานนี้จึงเหมือนนำของเหลือติดครัวมาปรุงเป็นจานใหม่ได้อร่อยอย่างไม่น่าเบื่อ   คุณค่าทางโภชนาการ ข้าวผัดจานนี้เป็นอาหารครบ 5 หมู่ ถ้ากินกับผักสด ได้คาร์โบไฮเดรทจากข้าว โปรตีนจากกะปิและปลาทูซึ่งมีไขมันโอเมก้า 3 สูงระดับแนวหน้าของปลาทะเล ไขมันจากน้ำมันที่  ผัด และผักสดที่กินแนมไปด้วยกันมีวิตามิน เกลือแร่ และกากใยสูง   ส่วนผสม ข้าวหุงสุก                 2        ถ้วย เนื้อปลาทู                 80      กรัม น้ำพริกกะปิ               3        ช้อนโต๊ะ น้ำมันสำหรับผัด         1        ช้อนโต๊ะ   วิธีทำ ตั้งกระทะใส่น้ำมัน พอร้อนใส่ข้าวพร้อมน้ำพริกกะปิ ปลาทู ผัดจนเข้ากัน ตักขึ้น กินกับผักสดต่างๆ เช่น ถั่วฝักยาว มะเขือเปราะ ขมิ้นขาว เป็นต้น    


เพิ่มเติม

close[x]
Questionnaire