SLider section

แกงคั่วหอยขมใบชะพลู

ภาค ใต้

  • recipe image cover

แกงคั่วหอยขมใบชะพลู

ความเป็นมา

แกงพื้นบ้านที่นำหอยขมหรือหอยจุ๊บที่อยู่ในแหล่งน้ำตามธรรมชาติมาแกงกับใบชะพลูที่หาได้ง่ายเช่นกัน แกงใส่กะทิที่ได้รสชาติหวานมัน รสเผ็ดร้อนเข้มข้นและกลิ่นหอมจากสมุนไพรสดในเครื่องพริกแกงคั่ว ทำให้เกิดความลงตัวในแกงพื้นบ้านจานนี้อย่างน่าประหลาดใจ

 

คุณค่าทางโภชนาการ

หอยจุ๊บในตำราแพทย์แผนไทยระบุไว้ว่าทั้งเปลือกและเนื้อหอยมีสรรพคุณช่วยแก้กระษัยต่างๆ เช่น แก้ปวดเมื่อย บำรุงกำลัง บำรุงถุงน้ำดี และโรคทางเดินปัสสาวะอย่างโรคนิ่ว และเมื่อนำไปแกงกับใบชะพลูซึ่งมีสารออกซาเลตที่สามารถทำให้เกิดโรคทางเดินปัสสาวะอย่างโรคนิ่วได้ถ้ารับประทานมาก นับเป็นภูมิปัญญาของบรรพบุรุษที่นำส่วนผสมทั้ง 2 อย่างนี้มาปรุงเพื่อแก้กันจึงทำให้จานนี้สมดุลกินได้อย่างไม่มีปัญหา

 

ส่วนผสมพริกแกง พริกขี้หนูสด 15 เม็ด ตะไคร้ซอย 2 ต้น กระเทียม 10 กลีบ หอมแดง 5 หัว

ขมิ้นยาว 2 นิ้ว ข่าหั่นแว่น  5 แว่น  พริกไทยเม็ด 2 ช้อนชา กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ เกลือ 1 ช้อนชา

ตำส่วนผสมทุกอย่างให้ละเอียด

ส่วนผสมแกง

หอยขมสับก้นหอยแล้ว          500 กรัม

ใบชะพลูซอย                         2     ถ้วย

กะทิ                                        4     ถ้วย

เกลือ                                        1     ช้อนโต๊ะ

น้ำตาล                                     1     ช้อนโต๊ะ

 

วิธีทำ นำกะทิขึ้นตั้งไฟ พอเดือดใส่พริกแกง หอยขม คนให้เข้ากัน รอจนหอยสุก ใส่ใบชะพลู ปรุงรสด้วยเกลือ น้ำตาล ยกลง

 

 

ภาค อีสาน

น้ำตกหมู

ความเป็นมา น้ำตก มีลักษณะเหมือนกับลาบทุกประการ ต่างกันเพียงแค่ไม่ใช้เนื้อสับแต่จะใช้เนื้อย่างหั่นเป็นชิ้น ๆ แทน โดยมากนิยมใช้เนื้อหมูย่างหรือเนื้อวัวย่าง   คุณค่าทางโภชนาการ นอกจากโปรตีนจากเนื้อหมู ส่วนผสมของน้ำตกยังมีสรรพคุณที่หลากหลาย เช่น หอมแดง ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ บำรุงหัวใจ ผักชีฝรั่ง ช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง ใบสะระแหน่ช่วยบำรุงสายตา คลายเครียด ต้นหอม ช่วยป้องกันอาการท้องผูกและลดคอเลสเตอรอลในกระแสเลือด   ส่วนผสม เนื้อหมูส่วนสันคอ                 350    กรัม หอมแดงซอย                      20      กรัม ต้นหอมซอย                       1        ช้อนโต๊ะ ผักชีฝรั่งหั่นหยาบ                 1        ช้อนโต๊ะ ใบสะระแหน่                      10      กรัม ข้าวคั่วป่น                          2        ช้อนโต๊ะ พริกป่น                             1        ช้อนโต๊ะ น้ำปลา                             2        ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว                          2        ช้อนโต๊ะ


เพิ่มเติม

ภาค เหนือ

แอบสมองหมู

    ความเป็นมา แอบสมองหมูหรือแอบอ่องออ นิยมใช้สมองหมูสด คลุกเคล้ากับพริกแกงแล้วห่อด้วยใบตอง ทำให้สุกด้วยการปิ้งหรือย่าง   คุณค่าทางโภชนาการ พริกแกงของแอบสมองหมูมีคุณค่าทางโภชนาการสูง เช่นตะไคร้แก้และบรรเทาอาการหวัด อาการไอ กระเทียมและขมิ้นช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อในร่างกายช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง และช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกาย   ส่วนผสม สมองหมู                   300    กรัม ใบมะกรูด หั่นฝอย      3        ช้อนโต๊ะ ผักชี ซอย                    2        ช้อนโต๊ะ ใบตอง ไม้กลัด ส่วนผสมพริกแกง พริกสด                      7        กรัม กระเทียม ซอย          2        ช้อนโต๊ะ หอมแดง ซอย            3        ช้อนโต๊ะ ตะไคร้หั่นฝอย           4        ช้อนโต๊ะ ขมิ้น ซอย                   1        ช้อนชา เกลือป่น                     1        ช้อนชา   วิธีทำ โขลกพริก เกลือ ตะไคร้ กระเทียม ขมิ้น หอมแดงจนละเอียดเข้ากันดี จากนั้นนำสมองหมูคลุกเคล้ากับน้ำพริกแกงที่โขลกไว้ให้เข้ากัน ใส่ใบมะกรูด ผักชี ตักส่วนผสมใส่ใบตอง ปิดให้สนิท กลัดด้วยไม้กลัดนำไปปิ้งบนตะแกรง ใช้ไฟปานกลางจนสุก      


เพิ่มเติม

ภาค ใต้

หลนปูเค็ม

    ความเป็นมา หลน จัดเป็นเครื่องจิ้มอย่างหนึ่งของไทย น้ำขลุกขลิกใส่กะทิ มีรสหวานจากกะทิและน้ำตาลมะพร้าว กินกับผักสดต่างๆ ทางใต้มีพื้นที่ติดทะเลจึงมีปูมากและนำมาทำปูเค็มซึ่งจัดเป็นการถนอมอาหารอย่างหนึ่งให้เก็บไว้กินได้นาน ใช้เพื่อปรุงรสเค็มในการทำหลนนี้ด้วย   คุณค่าทางโภชนาการ ปูเป็นซีฟู้ดที่มีโพแทสเซียมและสังกะสีสูง ส่วนผสมสมุนไพร เช่น หอม ตะไคร้ พริกขี้หนู ทำให้มีกลิ่นหอมชวนกินแล้ว ยังให้ความรู้สึกสดชื่น และหลนเป็นเครื่องจิ้มที่มีรสจัดจึงทำให้กินผักสดต่างๆ ได้มาก วิตามินและเกลือแร่จึงได้มากจากผักสด เช่น ขมิ้นขาว สายบัว มะเขือเปราะ ที่กินเป็นเครื่องเคียงนี้เอง   ส่วนผสม ปูเค็ม หั่นครึ่ง            5        ตัว หัวกะทิ                       1        ถ้วย หอมแดงซอย             30      กรัม ตะไคร้ซอย                 50      กรัม พริกขี้หนูซอย             5        กรัม น้ำตาลมะพร้าว          3        ช้อนโต๊ะ   วิธีทำ ตั้งกะทิพอเดือดใส่หอม ตะไคร้ คนให้เข้ากัน เมื่อเดือดอีกครั้งใส่ปู ปรุงรสด้วยน้ำตาลมะพร้าว พอเดือด ชิมรส กินกับผักสดต่างๆ เช่น ใบบัวบก แตงกวา มะเขือเปราะ เป็นต้น    


เพิ่มเติม

close[x]
Questionnaire