SLider section

ส้มตำปูม้าดอง

ภาค อีสาน

  • recipe image cover

ส้มตำปูม้าดอง

ความเป็นมา

ส้มตำปูม้าดอง คือส้มตำที่นิยมกันอย่างมากตามร้านอาหารซีฟู้ด เพราะรสชาติปูม้าดอง จะยิ่งเพิ่มให้ส้มตำให้ดูน่าทานมากยิ่งขึ้น

 

คุณค่าทางโภชนาการ

ส้มตำปูม้าดองมีสรรพคุณเหมือนๆกับส้มตำไทยคือมีเอนไซน์ปาปีน ที่ช่วยย่อยโปรตีน ทำให้ร่างกายย่อยอาหารได้ดี น้ำมะนาว มะเขือเทศ พริกขี้หนูมีวิตามินซีสูง ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความแก่และลดการเกิดริ้วรอยแห่งวัย

 

ส่วนผสม

มะละกอดิบสับเป็นเส้น                    100    กรัม

แครอทขูดเส้น                                20      กรัม

ปูม้าดอง                                          1        ตัว

กระเทียม                                        5        กรัม

พริกขี้หนู                                         4        เม็ด

มะเขือเทศสีดาหั่นเสี้ยว                   30      กรัม

ถั่วฝักยาวหั่นเป็นท่อน                     25      กรัม

น้ำปลา                                        1        ช้อนโต๊ะ

น้ำมะนาว                                   ¼       ถ้วย

น้ำตาลปี๊บ                                   1        ช้อนโต๊ะ

 

วิธีทำ

ใส่กระเทียมและพริกขี้หนู ลงในครก โขลกให้พอแหลก ตามด้วยถั่วฝักยาวโขลกพอแหลกใส่มะเขือเทศ น้ำมะนาว น้ำตาลปี๊บ น้ำปลา  แล้วคลุกให้เข้ากันใส่มะละกอ แครอทตามด้วยปูม้าดอง แล้วโขลกเบาๆ คลุกเคล้าให้เข้ากันตักใส่จาน รับประทานพร้อมผักสด

ภาค อีสาน

ปลาดุกย่าง

    ความเป็นมา ปลาดุกเป็นปลาที่นิยมรับประทานกันมาก เนื่องจากราคาถูกและรสชาติอร่อย ปลาดุกย่างชาวอีสานนิยมรับประทานคู่กับข้าวเหนียวส้มตำเพราะเข้ากันดี และนอกจากนั้นยังถูกนำไปดัดแปลงเป็นเมนูอื่นๆอีกมากมาย   คุณค่าทางโภชนาการ ปลาดุกมีโปรตีนที่ย่อยได้ง่าย  สรรพคุณช่วยเสริมสร้างเนื้อเยื่อและซ่อมแซมร่างกายส่วนที่สึกหรอไขมันที่มีอยู่ในเนื้อปลาเป็นส่วนประกอบของเซลล์ต่างๆ โดยเฉพาะสมอง มีวิตามิน และแร่ธาตุที่ช่วยควบคุมการทำงานของร่างกายให้ทำหน้าที่ได้ตามปกติ   ส่วนผสม ปลาดุก ผ่าท้อง ควักไส้ออก               2        ตัว ตะไคร้ซอย                                  1/2     ถ้วยตวง ขมิ้น                                          5        กรัม กระเทียม                                    10      กรัม ซีอิ้วขาว                                      2        ช้อนโต๊ะ พริกไทยดำ                                  1/2     ช้อนชา   วิธีทำ นำตะไคร้ ขมิ้น กระเทียม และพริกไทยมาโขลกรวมกันให้พอแหลก ใส่ซีอิ้วขาว นำปลาดุกที่เตรียมไว้ลงไปคลุกเคล้าให้ทั่ว หมักทิ้งไว้ 1 ชั่วโมง นำไม้มาเสียบปลาดุกตั้งแต่ปากถึงหาง นำขึ้นย่างบนเตาไฟจนสุกดีทั้ง 2 ด้าน ยกลงจากเตา เสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้มแจ่ว      


เพิ่มเติม

ภาค เหนือ

น้ำพริกตาแดง

    ความเป็นมา น้ำพริกตาแดงของภาคเหนือสมัยก่อนนิยมใส่ถั่วเน่าแข็งลงไปด้วย แต่ปัจจุบันหาถั่วเน่าได้ยากจึงไม่ได้ใส่ น้ำพริกตาแดงจะมีลักษณะข้นเหนียว เหมาะกับใช้ข้าวเหนียวจิ้มทานคู่กับผักสด   คุณค่าทางโภชนาการ น้ำพริกตาแดงมีสรรพคุณจากกระเทียมช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อในร่างกายช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง และช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกาย หอมแดง ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ บำรุงหัวใจ พริกแห้งช่วยทำให้เจริญอาหาร ลดเสมหะ ขับปัสสาวะ และยังช่วยบรรเทาอาการอาหารไม่ย่อย   ส่วนผสม พริกแห้งเม็ดใหญ่                       ½       ถ้วย กระเทียม                                    60      กรัม หอมแดง                                     60      กรัม กะปิ                                            1        ช้อนโต๊ะ ปลาแห้ง                                     2        ถ้วย น้ำตาลปี๊บ                                   4        ช้อนโต๊ะ น้ำปลา                                        ¼       ถ้วย มะขามเปียกแกะเม็ดออกสับละเอียด   ¼       ถ้วย   วิธีทำ โขลกพริกแห้งให้ละเอียด ใส่กระเทียม หัวหอม กะปิ โขลกต่อไปพอแหลกแล้วจึงใส่ปลาแห้ง มะขามเปียกสับละเอียด โขลกให้เข้ากันดีพร้อมปรุงรสด้วยน้ำตาล น้ำปลา ตั้งกระทะใส่น้ำมันเมื่อน้ำมันร้อนจัดตักน้ำพริกลงผัดให้หอมใช้ไฟอ่อน ผัดจนทั่วกันดี ตักขึ้นเสิร์ฟพร้อมผักสด      


เพิ่มเติม

ภาค เหนือ

แกงฮังเล

ความเป็นมา แกงฮังเล หรือ แกงฮินเล เป็นอาหารไทยที่มีต้นกำเนิดจากประเทศพม่า โดยคำว่า “ฮิน” ในภาษาพม่า หมายถึง แกง และ “เล” ในภาษาพม่า หมายถึง เนื้อสัตว์ แกงฮังเลหาทานได้ง่ายเพราะได้รับความนิยมแพร่หลายไปทั่วภาคเหนือ   คุณค่าทางโภชนาการ ขิงมีสรรพคุณหลากหลาย จัดว่าเป็นยาอายุวัฒนะ มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระอยู่เป็นจำนวนมาก ช่วยชะลอความแก่และชะลอการเกิดริ้วรอย ขิงมีฤทธิ์อุ่น ช่วยให้ร่างกายอบอุ่น และช่วยในการขับเหงื่อ   ส่วนผสม หมูสามชั้นหั่นเป็นชิ้น            1        กิโลกรัม ซีอิ๊วดำ                                  1        ช้อนโต๊ะ กระเทียมปอก                     1/2     ถ้วยตวง ขิงสดหั่นฝอย                      1/2     ถ้วยตวง น้ำมะขามเปียก                   1/2     ถ้วยตวง ผงกะหรี่                                1        ช้อนโต๊ะ น้ำปลา                                1/2     ถ้วยตวง น้ำมัน                                  1/2     ถ้วยตวง น้ำตาลปี๊บ                           1/2     ถ้วยตวง น้ำสะอาด                            3        ถ้วยตวง ส่วนผสมพริกแกง พริกแห้งหั่นแว่น                  6        เม็ด กระเทียมซอย                     2        ช้อนโต๊ะ หอมแดงซอย                      2        ช้อนโต๊ะ ตะไคร้ซอย                          1        ช้อนโต๊ะ ข่าซอย                                1        ช้อนชา เกลือป่น                               1        ช้อนชา กะปิ                                     2        ช้อนชา วิธีทำ ตำหรือปั่นส่วนผสมพริกแกงให้ละเอียด นำลงไปผัดกับน้ำมันให้หอม ใส่หมูสามชั้นหั่นชิ้นลงไปผัดให้เริ่มสุก ใส่กระเทียม เติมน้ำสะอาด ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ น้ำปลา ซีอิ๊วดำ ผงกะหรี่ คนให้เข้ากันตั้งไฟอ่อนจนเดือด ใส่ขิงสดหั่นฝอยคนให้เข้ากัน ตั้งต่อจนเดือดอีกครั้ง ตักเสิร์ฟ    


เพิ่มเติม

close[x]
Questionnaire