SLider section

ข้าวคลุกกะปิ

ภาค กลาง

  • recipe image cover
  • recipe image cover

ข้าวคลุกกะปิ

ความเป็นมา

กะปิเป็นเครื่องปรุงก้นครัวของไทยมาแต่โบราณ ใช้ทำอาหารได้หลายหลายทั้งแกง ผัด และปรุงเป็นน้ำพริก ให้รสเค็มและมีกลิ่นหอม ข้าวคลุกกะปิเป็นอาหารจานเดียวของคนโบราณที่นำกะปิมาคลุกกับข้าว กินกับเครื่องเคียงต่างๆ ที่มีรสอร่อยหลายรสในจานเดียว เช่น รสหวานจากหมูหวาน เปรี้ยวจากมะม่วง เผ็ดจากพริกขี้หนู และมีเนื้อสัมผัสทั้งกรอบจากกุ้งแห้งทอด และนุ่มจากไข่เจียว

 

คุณค่าทางโภชนาการ

กะปิทำมาจากเคยที่นำมาหมัก มีแคลเซียมสูงมากช่วยบำรุงกระดูก ซึ่งเป็นสารตัวเดียวกับที่มีอยู่ในนม กะปิมีวิตามินบี 12 สูงมาก ซึ่งร่างกายสร้างเองไม่ได้ จึงต้องมาจากอาหารที่รับประทาน วิตามินบี 12 นั้นจะช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง  และยังมีไขมันโอเมก้า 3 ชนิดเดียวกับปลาทะเลน้ำลึก จึงช่วยเรื่องโลหิตอุดตันและโรคหัวใจได้อย่างดี

ส่วนผสม

ข้าวหุงสุกร้อน                            4       ถ้วย

กะปิ                                            2     ช้อนโต๊ะ (เผาไฟให้หอม)

กระเทียมสับ                               2     ช้อนโต๊ะ

น้ำมัน                                         4     ช้อนโต๊ะ

หมูหวานทั้งน้ำและเนื้อ               150 กรัม

กุ้งแห้งทอด                                20   กรัม

น้ำมะนาว                                     2     ช้อนโต๊ะ

หอมแดงซอย                              40   กรัม

มะม่วงเปรี้ยวซอย                        40   กรัม

ไข่เจียวทอดบางและหั่นฝอย         80   กรัม

พริกขี้หนูซอย

ผักชีสำหรับโรยหน้า

วิธีทำ

ผัดกะปิ น้ำมัน กระเทียมให้เข้ากัน และมีกลิ่นหอม จากนั้นนำข้าวลงไปผัด โดยผัดให้กะปิเคลือบข้าวให้ทั่ว เป็นสีเทาแดงเท่าๆกัน จากนั้นตักขึ้น เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียง และมะนาวหั่นเสี้ยว

ภาค เหนือ

ยำยอดมะขาม

ความเป็นมา ยำยอดมะขามของชาวล้านนา มีหลากหลายสูตรตามแต่ละท้องถิ่นในภาคเหนือ ยอดมะขามมีรสเปรี้ยว จึงมักจะถูกนำมาใส่ในอาหารเพื่อเพิ่มรสชาติให้อร่อยมากยิ่งขึ้น   คุณค่าทางโภชนาการ ยอดมะขามหรือใบมะใบสดมะขาม ใช้เป็นยาถ่าย ยาระบาย ขับลมในลำไส้ ช่วยรักษาหวัด อาการไอ หอมใหญ่ มีวิตามินซีสูง และต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกายและช่วยป้องกันโรคต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี   ส่วนผสม ยอดมะขามอ่อน                   2        ถ้วย หอมใหญ่ซอย                      1        ถ้วย หอมแดงเจียว                     1/2     ถ้วย น้ำปลา                                 1        ช้อนโต๊ะ มะเขือเทศลูกใหญ่ ผ่าซีก  80      กรัม แคบหมูหั่นละเอียด             1        ถ้วย พริกแห้งทอด                      3        เม็ด วิธีทำ นำยอดมะขามอ่อน หอมใหญ่ และมะเขือเทศใส่ลงในอ่างผสม เติมน้ำปลาคลุกเคล้าให้เข้ากัน พยายามกดให้มะเขือเทศช้ำและคายน้ำออกมาเล็กน้อย จากนั้นใส่แคปหมูหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ  และพริกแห้งทอดหักท่อน คลุกเคล้าให้เข้ากันอีกครั้ง ตักเสิร์ฟ


เพิ่มเติม

ภาค อีสาน

ส้มตำไทย

ความเป็นมา ส้มตำไทย เป็นอาหารไทยยอดนิยมอีกหนึ่งเมนูที่มีชื่อเสียงแพร่หลายไปยังต่างประเทศ มีรสชาติที่ถูกปาก และจากวัตถุดิบที่หาได้ง่ายในท้องถิ่น จึงเป็นอาหารที่ทำได้สะดวก  อร่อย อีกทั้งยังให้คุณค่าทางโภชนาการสูง   คุณค่าทางโภชนาการ ส้มตำไทย เป็นอาหารสุขภาพ ที่เปี่ยมไปด้วยวิตามินเกลือแร่จากผัก และเครื่องปรุงต่างๆ เช่น มะละกอมีเอนไซน์ปาปีน ที่ช่วยย่อยโปรตีน ทำให้ร่างกายย่อยอาหารได้ดี น้ำมะนาว มะเขือเทศ พริกขี้หนูมีวิตามินซีสูง ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความแก่และลดการเกิดริ้วรอยแห่งวัย   ส่วนผสม มะละกอดิบสับเป็นเส้น          80      กรัม แครอทขูดเส้น                     20      กรัม กระเทียม                             5        กรัม พริกขี้หนู                             3        เม็ด มะเขือเทศสีดาผ่าครึ่ง            30      กรัม ถั่วฝักยาวหั่นเป็นท่อน            25      กรัม กุ้งแห้ง                              2        ช้อนโต๊ะ ถั่วลิสงคั่ว                           1        ช้อนโต๊ะ น้ำปลา                               1        ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว                          ¼       ถ้วย น้ำตาลปี๊บ                          1        ช้อนโต๊ะ   วิธีทำ ใส่กระเทียมและพริกขี้หนู ลงในครก โขลกให้พอแหลก ตามด้วยถั่วฝักยาวโขลกพอแหลกจากนั้นใส่มะเขือเทศหั่นเป็นชิ้น น้ำมะนาว น้ำตาลปี๊บ น้ำปลา  แล้วคลุกให้เข้ากันใส่มะละกอ ตามด้วยถั่วลิสงคั่ว กุ้งแห้งแล้วโขลกเบาๆ คลุกเคล้าให้เข้ากันชิมแล้วปรุงจนชอบ ตักใส่จาน รับประทานพร้อมผักสด


เพิ่มเติม

ภาค ใต้

แกงปูใบชะพลู

ความเป็นมา แกงปูใบชะพลู หรือน้ำยาปู คล้ายกับน้ำยาของภาคกลางที่กินกับขนมจีน ทางใต้มีอาหารทะเลมากจึงใช้เนื้อปูมาทำ ถ้าเป็นจังหวัดภูเก็ตจะใช้ปูสับเป็นชิ้น แต่ในบางจังหวัดใส่เฉพาะเนื้อปู ส่วนพริกแกงมีรสเข้มข้นตามความนิยมของคนใต้และใส่ขมิ้น น้ำแกงจึงมีสีเหลืองสวย รสชาติเข้มข้น โดยทั่วไปจะกินกับขนมจีน แต่ที่ภูเก็ตจะกินกับเส้นหมี่ หรือเรียกว่า “หมี่หุ้น” ซึ่งน่าจะเป็นอิทธิพลของชาวจีนที่อาศัยอยู่มากในภูเก็ต   คุณค่าทางโภชนาการ เนื้อปูเป็นอาหารทะเลที่มีโพแทสเซียมและสังกะสีอยู่สูง โพแทสเซียมช่วยควบคุมความดันโลหิต และทำให้หัวใจเต้นปกติ ส่วนสังกะสีมีความจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย ในเนื้อปูต้ม 100 กรัมมีโปรตีน 19.5 กรัม ส่วนใบชะพลูมีวิตามิน แคลเซียม และเบต้าแคโรทีนค่อนข้างสูง ซึ่งสามารถเปลี่ยนเป็นวิตามิน เอ ได้ดีเพราะมีไขมันจากกะทิมาช่วยดูดซึม   ส่วนผสม ปูทะเลนึ่งหรือเนื้อปูนึ่งสุก       1     ถ้วย น้ำพริกแกง                   2     ช้อนโต๊ะ กะทิ                      1 1/2      ถ้วย น้ำตาลปี๊บ                    1     ช้อนโต๊ะ น้ำปลา                        2     ช้อนโต๊ะ ใบมะกรูด                     2     ใบ ใบชะพลูซอย                80   กรัม ขนมจีนหรือเส้นหมี่        100 กรัม ส่วนผสมน้ำพริกแกง  พริกชี้ฟ้าแห้ง 7 เม็ด พริกขี้หนูแห้ง 5 เม็ด (ตามชอบ) พริกขี้หนูสด 5-10 เม็ด พริกไทยขาว 1 ช้อนโต๊ะ ข่าหั่นแว่น 1 ช้อนโต๊ะ ตะไคร้หั่นแว่น 2 ช้อนโต๊ะ ผิวมะกรูด 1 ช้อนชา ขมิ้นหั่นแว่น 1 ช้อนโต๊ะ หอมแดง 2 ช้อนโต๊ะ กระเทียม 1 ช้อนโต๊ะ กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ เกลือทะเล 1 ช้อนชา ตำทุกอย่างให้เข้ากันและละเอียด


เพิ่มเติม

close[x]
Questionnaire