SLider section

คั่วกลิ้งหมู

ภาค ใต้

  • recipe image cover

คั่วกลิ้งหมู

ความเป็นมา

คั่วกลิ้งเป็นอาหารใต้อีกจานที่แสดงถึงเอกลักษณ์ของท้องถิ่นได้อย่างชัดเจน เพราะมีรสเผ็ดร้อนของพริกแกงที่มีทั้งพริกสด พริกแห้ง และสมุนไพรเด่นชัด เมื่อนำไปผัดยังต้องใส่สมุนไพรซอย เช่น ตะไคร้ ข่า ใบมะกรูด เพิ่มลงไป สีเหลืองจัดเพราะใส่ขมิ้น รสชาติทั้งเผ็ดทั้งร้อน จัดจ้าน และเมื่อเห็นร้านอาหารไหนขายคั่วกลิ้งจะรู้ทันทีว่าเป็นอาหารภาคใดไม่ได้นอกจากอาหารใต้เท่านั้น

 

คุณค่าทางโภชนาการ

สีเหลืองเด่นของคั่วกลิ้งที่เคลือบหมูสับหรือไก่สับและสมุนไพรต่างๆ เป็นสีของขมิ้น สารสีเหลืองในขมิ้นนี้คือ “เคอร์คูมิน” ที่มีฤทธิ์เป็นกรดซึ่งมีสรรพคุณเป็นยา ช่วยรักษาแก้ท้องอืดท้องเสีย ปัจจุบันยังค้นพบว่าช่วยป้องกันไม่ให้ตับถูกทำลายจากสารพิษ มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เมื่อกินขมิ้นพร้อมกับอาหารจะช่วยป้องกันมะเร็งในลำไส้ และยังช่วยทำลายไวรัสที่ปนเปื้อนมากับอาหารได้  คั่วกลิ้งจึงจัดเป็น “อาหารเป็นยา” อย่างแท้จริง

 

ส่วนผสมพริกแกง พริกขี้หนูแห้ง 20 เม็ด ข่าหั่นแว่น 20 กรัม พริกไทยดำเม็ด 1 ช้อนโต๊ะ

ขมิ้นยาว 2 นิ้ว  ตะไคร้ซอย  50 กรัม หอมแดง 40 กรัม กระเทียม 10 กรัม ผิวมะกรูด ½ ลูก

กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ เกลือ 1 ช้อนชา  ตำส่วนผสมพริกแกงทุกกอย่างรวมกันจนละเอียด

 

ส่วนผสม

เนื้อหมูสับหยาบ            500 กรัม

พริกแกง                      1/2  ถ้วย

ตะไคร้ซอย                   30   กรัม

ข่าสับหยาบ                  3     ช้อนโต๊ะ

ใบมะกรูดซอย               ¼    ถ้วย

น้ำมัน                           2     ช้อนโต๊ะ

น้ำสะอาด                     1     ถ้วย

น้ำตาลทราย                 1     ช้อนโต๊ะ

 

วิธีทำ ผัดเครื่องแกงกับน้ำมันจนหอม ใส่หมูลงผัดให้เข้ากัน ค่อยๆ เติมน้ำเปล่าทีละน้อย ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล ใส่ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด ใช้ไฟอ่อนคั่วไปเรื่อยๆ จนเนื้อหมูสุกแห้ง

 

 

ภาค ใต้

ปลาโอต้มหวาน

    ความเป็นมา อาหารรสหวานในสำรับอาหารใต้ มักเป็นการช่วยแก้รสเผ็ดซึ่งเป็นรสชาติประจำของอาหารใต้ จึงนำปลาโอที่มีอยู่ชุกชุมมาต้มใส่น้ำตาลและซีอิ๊วให้มีรสหวานนำ เค็มตาม ใช้รับประทานคู่กับอาหารใต้รสจัดได้หลายเมนู   คุณค่าทางโภชนาการ ปลาโอจัดเป็นปลาทูน่าสายพันธุ์หนึ่ง เนื้อสีชมพูแดงเข้ม นิยมนำมาทำปลาทูน่ากระป๋อง เนื้อค่อนข้างแข็ง เมื่อนำมาต้มหวานยิ่งต้มเนื้อจะยิ่งแข็งขึ้น ปลาโอเป็นปลาทะเลที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 สูงในระดับต้นๆ ของปลาทะเล และมีไขมันไม่อิ่มตัวสูง จึงช่วยเรื่องหลอดเลือดทั้งหลอดเลือดสมองและหัวใจไม่ให้อุดตัน   ส่วนผสม ปลาโอหั่นชิ้น                      300    กรัม กระเทียมบุบ                      10      กรัม หอมแดง                            20      กรัม ตะไคร้บุบ                           30      กรัม น้ำสะอาด                           2        ถ้วย น้ำตาลมะพร้าว                   3        ช้อนโต๊ะ ซีอิ๊วดำ                               2        ช้อนชา เกลือ                                   1        ช้อนชา   วิธีทำ ตั้งหม้อใส่น้ำพอเดือดใส่หอมแดง กระเทียม ตะไคร้ ต้มจนเดือดใส่เนื้อปลา รอจนเดือดอีกครั้งปรุงรสด้วยน้ำตาลมะพร้าว ซีอิ๊วดำ เกลือ ลดไฟอ่อน ต้มไปเรื่อยๆ จนเนื้อปลาแข็ง ตักขึ้นเสิร์ฟ    


เพิ่มเติม

ภาค เหนือ

จิ้นฮุ่ม

    ความเป็นมา จิ๊นฮุ่ม คืออาหารที่ใช้เนื้อสัตว์ในส่วนที่ค่อนข้างเหนียวมาปรุงอาหาร สมัยก่อนนิยมใช้เนื้อวัวตากแห้ง แต่ปัจจุบันนิยมใช้เนื้อหมูแทน   คุณค่าทางโภชนาการ เครื่องแกงจิ๊นฮุ่ม มีคุณค่าทางโภชนาการ เช่นตะไคร้แก้และบรรเทาอาการหวัด อาการไอ ข่าช่วยบำรุงร่างกาย กระเทียมช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อในร่างกายช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง และช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกาย   ส่วนผสม ขาหมู            400    กรัม ตะไคร้           40      กรัม ผักชีลาว         ½       ถ้วย รากผักชี         20      กรัม ผักชีซอย        1        ช้อนโต๊ะ ต้นหอมซอย    1        ช้อนโต๊ะ ส่วนผสมพริกแกง พริกแห้ง        5        เม็ด กระเทียม       5        กรัม หอมแดง        30      กรัม ข่าหั่น             ½       ช้อนโต๊ะ ตะไคร้ซอย      1        ช้อนโต๊ะ ขมิ้นหั่น          5        กรัม กะปิ                1        ช้อนชา เกลือ             ½       ช้อนชา วิธีทำ โขลกส่วนผสมพริกแกงรวมกันให้ละเอียด ตั้งน้ำสะอาดจนเดือด ละลายเครื่องแกงในน้ำ ใส่ขาหมูสับลงในหม้อ ต้มจนเปื่อยใส่ผักชีลาว ตะไคร้หั่นเป็นท่อน รากผักชี ก่อนตักขึ้น โรยผักชีซอย และต้นหอมซอย จัดเสิร์ฟ      


เพิ่มเติม

ภาค ใต้

ผัดสะตอหมูกุ้ง

ความเป็นมา อาหารที่นำผักท้องถิ่นของภาคใต้มาผัดกับเนื้อหมู กุ้ง ใส่กะปิให้มีรสเค็ม และมีกลิ่นหอมจากหอมแดง กระเทียม ใช้เทคนิคการผัดกับน้ำมันโดยใช้ไฟร้อนเหมือนกับการผัดทั่วไป นับเป็นอาหารที่แพร่หลายในหลายภูมิภาค ไม่ใช่เฉพาะในภาคใต้เท่านั้น   คุณค่าทางโภชาการ เม็ดสะตอเนื้อนุ่มกรอบ รสมัน มีกลิ่นรุนแรง จะกินสดหรือผัดให้สุกก็ได้ สะตอเป็นผักที่ให้พลังงานค่อนข้างสูง สะตอ 20 เม็ดให้พลังงานพอๆ กับขนมปัง 2 แผ่น และยังอุดมไปด้วยโปรตีน สะตอ 100 กรัมให้พลังงาน  130  กิโลแคลอรี  โปรตีน 8 กรัม คาร์โบไฮเดรท 15.5 กรัม แคลเซียม 76 มิลลิกรัม และฟอสฟอรัส 83 มิลลิกรัม   ส่วนผสม เนื้อหมูหั่นบาง               300 กรัม กุ้งแชบ๊วย                     300 กรัม สะตอ                           ½    ถ้วย น้ำมันสำหรับผัด            2     ช้อนโต๊ะ กะปิ                                1     ช้อนโต๊ะ กระเทียม                       10   กรัม หอมแดง                        40   กรัม น้ำปลา                            2     ช้อนชา เกลือ                               ½    ช้อนชา พริกชี้ฟ้าแดงหั่นแฉลบ          1     เม็ด    


เพิ่มเติม

close[x]
Questionnaire