SLider section

ตำกระท้อน

ภาค เหนือ

  • recipe image cover

ตำกระท้อน

 

 

ความเป็นมา

ตำกระท้อน หรือตำบ่าตืน คือการนำกระท้อนมาหั่นเป็นเส้นแล้วผสมรวมกับเครื่องปรุงต่างๆ ปกติแล้วกระท้อนเป็นผลไม้ที่ทานสดได้เลย แต่ชาวล้านนานำมาดัดแปลงให้อร่อยถูกปากมากยิ่งขึ้น

 

คุณค่าทางโภชนาการ

กระท้อนอุดมไปด้วยวิตามินซี อีกทั้งยังมีวิตามินเอ มีเพกติน ช่วยให้ระบบขับถ่ายมีประสิทธิภาพ และเป็นยาระบายอ่อนๆ นอกจากนี้ยังมีฟอสฟอรัส ช่วยเผาผลาญไม่ให้คาร์โบไฮเดรต ไขมัน และโปรตีน ที่ไม่ได้ใช้งานตกค้างและสะสมในร่างกาย

 

ส่วนผสม

เนื้อกระท้อน           300    กรัม

พริกขี้หนู                  5        กรัม

กระเทียม                 5        กรัม

น้ำตาลปี๊บ                1        ช้อนโต๊ะ

ปลาร้าต้มสุก             2        ช้อนโต๊ะ

น้ำปู                          ½       ช้อนชา

กุ้งแห้ง                       1        ช้อนโต๊ะ

 

วิธีทำ

ทุบกระท้อนให้นุ่ม ปอกเปลือก สับเป็นชิ้นโขลกพริกขี้หนู กระเทียม พอแตก ใส่น้ำตาลปี๊บ ปลาร้า น้ำปู และกุ้งแห้ง โขลกให้เข้ากันใส่กระท้อนลงโขลกและคลุกเคล้าให้เข้ากัน

 

 

 

ภาค กลาง

ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา

    ความเป็นมา ลูกชิ้นปลาเป็นเทคนิคการทำอาหารที่มีชื่อเสียงของจีนโดยเฉพาะ เป็นการนำเนื้อปลามาปรุงรส นวดจนเนื้อเหนียว และปั้นเป็นก้อนนำไปลวกให้สุก ลูกชิ้นปลาที่อร่อยเนื้อจะต้องเหนียว ไม่มีกลิ่นคาว นำไปทำอาหารได้หลากหลาย แต่ที่นิยมทั่วไปคือใส่ในก๋วยเตี๋ยวน้ำ น้ำซุปต้องใสรสหวานอร่อย   คุณค่าทางโภชนาการ ลูกชิ้นปลามีโปรตีนใกล้เคียงกับเนื้อปลา เพียงแต่นำมาแปรรูปให้เนื้อแน่นอร่อย ก๋วยเตี๋ยวชามนี้จึงได้โปรตีนจากเนื้อปลา คาร์โบไฮเดรทจากเส้นก๋วยเตี๋ยว และน้ำซุปที่ต้มจากกระดูกไขสันหลังหมูซึ่งคนจีนเชื่อว่าจะทำให้ร่างกายอบอุ่น เส้นหมี่ลูกชิ้นน้ำใส 1 ชาม ให้พลังงาน 225 กิโลแคลอรี   ส่วนผสม เส้นก๋วยเตี๋ยว                                  120    กรัม ลูกชิ้นปลาอย่างกลม                       30      กรัม ลูกชิ้นกุ้ง                                          20      กรัม ลูกชิ้นปลาเส้นหั่นบาง                      20      กรัม ถั่วงอก                                              30      กรัม ต้นหอม ผักชี สำหรับโรยหน้ วิธีทำ ลวกเส้นและถั่วงอกใส่ชาม จัดลูกชิ้นตามลงไป และตักน้ำซุปใส่ โรยต้นหอมผักชี ปรุงรสด้วยพริกน้ำส้ม น้ำตาล น้ำปลา ตามชอบ    


เพิ่มเติม

ภาค เหนือ

แกงหอยขม

ความเป็นมา หอยขมเป็นหอยน้ำจืดขนาดเล็ก มีเปลือกเป็นเกลียวกลมยอดแหลม เปลือกหนาและแข็ง ผิวชั้นนอกเป็นสีเขียวแก่ นิยมนำมาแกง เพื่อให้ได้รสชาติจากน้ำแกงข้นๆที่เข้าไปถึงตัวเนื้อหอย   คุณค่าทางโภชนาการ หอยขมมีโปรตีนที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย และมีคุณค่าทางโภชนาการจากส่วนผสมต่างๆ เช่น ตะไคร้ช่วยแก้อาการเบื่ออาหาร  กระเทียมช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อในร่างกาย ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง และช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกาย   ส่วนผสม หอยขม                    500          กรัม น้ำปลา                          2        ช้อนโต๊ะ ข้าวคั่วโขลก                 4        ช้อนโต๊ะ พริกขี้หนูบุบ                  5        กรัม ผักชีฝรั่งหั่นเป็นท่อน    30      กรัม ส่วนผสมพริกแกง พริกแห้ง                  5        เม็ด เกลือป่น                  1        ช้อนชา ตะไคร้ซอย             1        ช้อนโต๊ะ กระเทียมซอย         2       ช้อนโต๊ะ หอมแดงซอย          3       ช้อนโต๊ะ กะปิ                          1       ช้อนชา ปลาร้าสับ                 1       ช้อนโต๊ะ วิธีทำ ล้างหอยขมให้สะอาดพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ จากนั้นปั่นหรือตำพริกแกงให้ละเอียด นำลงไปผัดกับน้ำมันเล็กน้อยให้หอม ใส่หอยขมลงไปผัดให้พริกแกงเคลือบหอย เติมน้ำสะอาดพอท่วม ต้มต่อจนเดือด ปรุงรสด้วยน้ำปลา ใส่พริกขี้หนู และข้าวคั่วโขลก และผักชีฝรั่ง คนให้ทั่วพอเดือดอีกครั้งตักขึ้น จะได้แกงที่มีลักษณะน้ำขลุกขลิก เสิร์ฟร้อนๆ


เพิ่มเติม

ภาค เหนือ

แกงแคปลา

ความเป็นมา แกงแค เป็นแกงที่มีผักหลายชนิด คล้ายต้มจับฉ่ายของชาวจีน ผักที่เป็นส่วนผสมหลัก ส่วนใหญ่ประกอบด้วย ตำลึง ชะอม ใบชะพลู ผักชีฝรั่ง มะเขือพวง และดอกแค   คุณค่าทางโภชนาการ แกงแคจะมีเกลือแร่และวิตามินจากผักต่างๆที่ใส่ลงไป เช่นแคลเซียมที่ได้จากใบชะพลูช่วยบำรุงกระดูกและฟัน และช่วยป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุน  ผักกวางตุ้งช่วยในการขับถ่าย ถ่ายสะดวก ป้องกันโรคท้องผูก ชะอมช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ เนื่องจากมีวิตามินเอสูง ยอดชะอมช่วยลดความร้อนในร่างกายได้   ส่วนผสม ปลาช่อนหั่นท่อน                  400    กรัม ถั่วฝักยาว                          200    กรัม ชะอม                               80      กรัม ผักชีฝรั่งหั่นหยาบ                 20      กรัม ใบชะพลู                            10      กรัม มะเขือเปราะ                      50      กรัม ผักกวางตุ้ง                         100    กรัม ยอดตำลึง                          80      กรัม น้ำปลา                             2        ช้อนโต๊ะ น้ำเปล่า                            3        ถ้วยตวง น้ำมันพืช สำหรับผัด ส่วนผสมน้ำแกง พริกแห้ง                            10      เม็ด เกลือป่น                            1        ช้อนชา ข่าซอย                              1        ช้อนชา ตะไคร้ซอย                         2        ช้อนโต๊ะ กระเทียม                           1        ช้อนโต๊ะ หอมแดง                            2        ช้อนโต๊ะ กะปิ                                   2        ช้อนชา ปลาร้าสับ                          1        ช้อนโต๊ะ วิธีทำ ปั่นหรือตำส่วนผสมพริกแกงให้ละเอียด นำลงไปผัดกับน้ำมันจนมีกลิ่นหอม ใส่น้ำตั้งไฟต่อจนเดือด ใส่ปลาช่อนลงไปต้มในน้ำแกงจนสุกดี จากนั้นปรุงรส ใส่ผักต่างๆ ต้มจนผักสุกนุ่ม ตตักขึ้นเสิร์ฟร้อนๆ


เพิ่มเติม

close[x]
Questionnaire