SLider section

เนื้อแกงเขียวหวาน

ภาค เหนือ

  • recipe image cover

เนื้อแกงเขียวหวาน

ภาค กลาง

ข้าวมันไก่

ความเป็นมา ข้าวมันไก่เป็นอาหารจานเดียวที่ไทยได้รับอิทธิพลมาจากจีนไหหลำ และแพร่หลายไปในประเทศเพื่อนบ้านอย่างเช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย โดยทั่วไปคนจีนจะใช้ไก่พันธุ์เฉพาะที่ตอนมาแล้ว เนื้อไก่จึงเหนียว นุ่ม ความอร่อยยังอยู่ที่ข้าวต้องหอมมันอร่อยจากน้ำต้มไก่ และเม็ดข้าวต้องไม่แฉะเกินไป   คุณค่าทางโภชนาการ ไก่เป็นเนื้อสัตว์ที่ให้โปรตีนสูงแต่ให้ไขมันต่ำ ไก่ 100 กรัม มีไขมันเพียง 8.2 %  ส่วนที่มีโปรตีนสูงสุดคือส่วนเนื้อหน้าอกที่ไม่ติดหนัง ซึ่งเป็นอาหารสำหรับคนที่ต้องการสร้างกล้ามเนื้อโดยเฉพาะ ส่วนที่มีไขมันมากที่สุดคือ เนื้อสะโพกและปีก   ส่วนผสม ข้าวสาร                                    200 กรัม น้ำจากการต้มไก่                        2 ½ ถ้วย ขิงฝานบาง                                30   กรัม กระเทียมบุบ                              20   กรัม ไก่ทั้งตัว                                    1     ตัว เกลือเล็กน้อย วิธีทำ นำไก่ทั้งตัวไปต้มในน้ำผสมเกลือจนสุก นำขึ้นมาทาน้ำมันพักไว้ให้เย็น จากนั้นซาวข้าวให้สะอาด หุงข้าวด้วยน้ำต้มไก่ ใส่ขิง และกระเทียมจนข้าวสุกดี รับประทานกับน้ำจิ้ม โดยผสมเต้าเจี้ยวบดละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ น้ำส้มสายชู 2 ช้อนชา น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา น้ำสะอาด 1 ช้อนโต๊ะ ขิงสับ 1 ช้อนโต๊ะ และพริกขี้หนูซอย ให้เข้ากัน หรือจะรับประทานกับซีอิ๊วดำหวานก็ได้


เพิ่มเติม

ภาค เหนือ

ข้าวแคบ

    ความเป็นมา ข้าวแคบ เป็นอาหารว่างชนิดหนึ่งของทางภาคเหนือ สมัยก่อนนิยมทานกันในช่วงงานบุญ งานเทศกาลต่างๆ   คุณค่าทางโภชนาการ งามีสรรพคุณหลากหลายเช่นช่วยเพิ่มพลังงานและความแข็งแรงของร่างกาย ช่วยในการเผาผลาญและสลายไขมัน ลดความอ้วน ช่วยลดการดูดซึมและการสังเคราะห์คอเลสเตอรอล อีกทั้งยังช่วยป้องกันหลอดเลือดแข็งตัว   ส่วนผสม ข้าวสารเหนียว          1        กิโลกรัม งาดำ                         3        ช้อนโต๊ะ เกลือป่น                    1        ช้อนโต๊ะ   วิธีทำ ทำแป้งด้วยการโม่ข้าวสารเหนียว ผสมงาดำและเกลือลงในน้ำแป้งคลุมหม้อด้วยผ้าขาวบาง ตั้งน้ำให้เดือด ละเลงแป้งลงบนผ้าเป็นแผ่นวงกลม พอแป้งสุก ใช้ไม้พายช้อนขึ้น วางแป้งตากแดดให้แห้ง ประมาณ 2 วัน จาดนั้นนำมาย่างเตาถ่านจนเหลืองพร้อมรับประทาน    


เพิ่มเติม

ภาค กลาง

หมูสะเต๊ะ

ความเป็นมา หมูสะเต๊ะ เป็นอาหารปิ้งย่างที่คาดว่าได้รับอิทธิพลมาจากประเทศอินโดนีเซียซึ่งเป็นต้นกำเนิดของเนื้อสะเต๊ะ แต่ในประเทศไทยที่มีคนจีนมากและไม่นิยมกินเนื้อวัวจึงเปลี่ยนเป็นเนื้อหมู ส่วนผสมที่ใช้หมักเนื้อก็ยังมีลูกผักชี ยี่หร่า ขมิ้นหรือผงกะหรี่  และร้านขายหมูสะเต๊ะอร่อยๆ มักเป็นคนจีน หมูสะเต๊ะเป็นของว่างที่กินได้ตลอดวัน และนิยมสั่งกินก่อนอาหารมื้อหนัก   คุณค่าทางโภชนาการ เนื้อหมูมีวิตามินบี 12 และอุดมไปด้วยวิตามินแร่ธาตุต่างๆ มีโปรตีนที่ช่วยให้เด็กเจริญเติบโตได้เต็มที่ และช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย เนื้อสะเต๊ะจะอร่อยเมื่อมีมันหมูติดไปด้วยเล็กน้อย เพราะจะทำให้เนื้อนุ่มและไม่กระด้าง แต่ควรระวังไม่กินมันหมูมากเกินไปเพราะร่างกายอาจจะรับไขมันเกินความจำเป็น   ส่วนผสม เนื้อหมูสันนอกหั่นเป็นชิ้นยาวกว้าง      1        กก. กะทิ                                          1        ถ้วย   เครื่องสำหรับหมักหมู ลูกผักชีป่น 1 ช้อนโต๊ะ ยี่หร่าป่น 1 ช้อนชา น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ ผงกะหรี่ 1 ช้อนโต๊ะ เกลือ 1 ช้อนชา  น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ   วิธีทำ หมักหมูและเสียบไม้พักไว้ในตู้เย็นอย่างน้อย 3 ชั่วโมง นำหมูสะเต๊ะย่างไฟ ขณะย่างพรมกะทิไปด้วยเพื่อไม่ให้แห้ง พอสุกใส่จาน เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มและอาจาด   ส่วนผสมน้ำจิ้มและวิธีทำ กะทิ 3 ถ้วย น้ำพริกแกง ½ ถ้วย ถั่วลิงสงโขลกละเอียด 1/3 ถ้วย น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลปึก 2 ช้อนโต๊ะ น้ำส้มมะขาม 2 ช้อนโต๊ะ เคี่ยวกะทิให้พอแตกมัน ใส่น้ำพริกลงไปผัดจนหอม ใส่ถั่วลิสง น้ำปลา น้ำตาล น้ำส้มมะขาม เคี่ยวต่อจนข้น ชิมรส ส่วนผสมอาจาดและวิธีทำ น้ำส้มสายชู 1/3 ถ้วย น้ำตาลทราย ½ ถ้วย เกลือป่น 2 ช้อนชา แตงกวาผ่าสี่หั่น 2 ลูก หอมแดงซอย 3 ช้อนโต๊ะ พริกชี้ฟ้าหั่นขวาง ½ เม็ด ผสมน้ำส้มสายชู น้ำตาล เกลือ ตั้งไฟ พอทุกอย่างละลายยกลง พักไว้ให้เย็น จัดแตงกวา หอมแดง พริกชี้ฟ้าใส่ชาม ราดน้ำอาจาด


เพิ่มเติม

close[x]
Questionnaire