SLider section

ห่อนึ่งไก่

ภาค เหนือ

  • recipe image cover

ห่อนึ่งไก่

 

ความเป็นมา

ห่อนึ่งไก่ คืออาหารที่นำไก่ผัดกับพริกแกงเพื่อเพิ่มรสชาติ จากนั้นนำไปห่อกับใบตองแล้วนำไปนึ่งอีกครั้ง จะได้ไก่ที่มีรสชาติเข้มข้น

 

คุณค่าทางโภชนาการ

เนื้อไก่สามารถหาทานได้ทั่วไป มีโปรตีนที่มีประโยชน์ช่วยในการเจริญเติบโตของร่างกาย อีกทั้งส่วนผสมพริกแกงยังมีคุณค่าทางโภชนาการ เช่นตะไคร้แก้และบรรเทาอาการหวัด อาการไอ ข่าช่วยบำรุงร่างกาย กระเทียมช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อในร่างกายช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง และช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกาย

 

ส่วนผสม

เนื้อไก่บ้าน               500    กรัม

ข้าวคั่ว                        ½       ถ้วย

ใบมะกรูด                 5        กรัม

ผักชีซอย                  1        ช้อนโต๊ะ

ต้นหอมซอย              1        ช้อนโต๊ะ

ส่วนผสมพริกแกง

พริกขี้หนูแห้ง            20      เม็ด

หอมแดง                30      กรัม

กระเทียม               15      กรัม

ข่าหั่น                     1        ช้อนโต๊ะ

ตะไคร้ซอย            1        ช้อนโต๊ะ

ขมิ้น                       5        กรัม

กะปิ                       1        ช้อนโต๊ะ

เกลือ                      1        ช้อนชา

วิธีทำ  

โขลกเครื่องแกงให้ละเอียด ผัดเครื่องแกงกับน้ำมันพืชให้หอม ใส่ไก่ลงผัดจนสุกเติมน้ำ ต้มจนเดือด ตักไก่ใส่ชาม ใส่ข้าวคั่ว คลุกเคล้าให้เข้ากัน ใส่ใบมะกรูดและผักชีต้นหอม คลุกเคล้าให้เข้ากันตักส่วนผสมใส่บนใบตอง กลัดใบตองนำลงนึ่ง

 

 

 

ภาค เหนือ

แอบปลา

    ความเป็นมา แอบปลา คืออาหารที่นำปลาสดมาคลุกเคล้ากับเครื่องปรุง แล้วห่อด้วยใบตอง นำไปปิ้งหรือย่าง ด้วยไฟอ่อนๆ จนข้างในสุก   คุณค่าทางโภชนาการ เนื้อปลา มีโปรตีนที่ย่อยง่าย ผิวมะกรูดช่วยขับลมในลำไส้ แก้อาการจุกเสียด ท้องอืด แน่นท้องได้ ขมิ้นช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกาย ตะไคร้แก้และบรรเทาอาการหวัด อาการไอ กระเทียมช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อในร่างกายช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง และช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกาย   ส่วนผสม เนื้อปลาหั่นชิ้น                    ½       กิโลกรัม ผิวมะกรูด หั่นละเอียด           1        ช้อนชา หอมแดง                          80      กรัม กระเทียม                          40      กรัม ตะไคร้                              80      กรัม กะปิ                                   1        ช้อนชา ขมิ้น หั่นละเอียด               1        ช้อนโต๊ะ พริกขี้หนู                           15      กรัม น้ำปลา                              1        ช้อนชา เกลือ                                 1        ช้อนชา ใบตอง ไม้กลัด   วิธีทำ โขลกรากผักชี ผิวมะกรูด ขมิ้นให้ละเอียด ใส่ตะไคร้ พริกขี้หนู หอมแดง กระเทียม กะปิ และเกลือ โขลกต่อพอแหลก นำไปคลุกกับเนื้อปลาที่หั่นไว้ซอยต้นหอมและผักชี ใส่น้ำปลาคลุกเคล้าให้เข้ากันห่อใบตองให้แน่น ใช้ไม้กลัดเสียบไว้ นำไปปิ้งบนไฟอ่อนจนสุก      


เพิ่มเติม

ภาค ใต้

แกงปูใบชะพลู

ความเป็นมา แกงปูใบชะพลู หรือน้ำยาปู คล้ายกับน้ำยาของภาคกลางที่กินกับขนมจีน ทางใต้มีอาหารทะเลมากจึงใช้เนื้อปูมาทำ ถ้าเป็นจังหวัดภูเก็ตจะใช้ปูสับเป็นชิ้น แต่ในบางจังหวัดใส่เฉพาะเนื้อปู ส่วนพริกแกงมีรสเข้มข้นตามความนิยมของคนใต้และใส่ขมิ้น น้ำแกงจึงมีสีเหลืองสวย รสชาติเข้มข้น โดยทั่วไปจะกินกับขนมจีน แต่ที่ภูเก็ตจะกินกับเส้นหมี่ หรือเรียกว่า “หมี่หุ้น” ซึ่งน่าจะเป็นอิทธิพลของชาวจีนที่อาศัยอยู่มากในภูเก็ต   คุณค่าทางโภชนาการ เนื้อปูเป็นอาหารทะเลที่มีโพแทสเซียมและสังกะสีอยู่สูง โพแทสเซียมช่วยควบคุมความดันโลหิต และทำให้หัวใจเต้นปกติ ส่วนสังกะสีมีความจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย ในเนื้อปูต้ม 100 กรัมมีโปรตีน 19.5 กรัม ส่วนใบชะพลูมีวิตามิน แคลเซียม และเบต้าแคโรทีนค่อนข้างสูง ซึ่งสามารถเปลี่ยนเป็นวิตามิน เอ ได้ดีเพราะมีไขมันจากกะทิมาช่วยดูดซึม   ส่วนผสม ปูทะเลนึ่งหรือเนื้อปูนึ่งสุก       1     ถ้วย น้ำพริกแกง                   2     ช้อนโต๊ะ กะทิ                      1 1/2      ถ้วย น้ำตาลปี๊บ                    1     ช้อนโต๊ะ น้ำปลา                        2     ช้อนโต๊ะ ใบมะกรูด                     2     ใบ ใบชะพลูซอย                80   กรัม ขนมจีนหรือเส้นหมี่        100 กรัม ส่วนผสมน้ำพริกแกง  พริกชี้ฟ้าแห้ง 7 เม็ด พริกขี้หนูแห้ง 5 เม็ด (ตามชอบ) พริกขี้หนูสด 5-10 เม็ด พริกไทยขาว 1 ช้อนโต๊ะ ข่าหั่นแว่น 1 ช้อนโต๊ะ ตะไคร้หั่นแว่น 2 ช้อนโต๊ะ ผิวมะกรูด 1 ช้อนชา ขมิ้นหั่นแว่น 1 ช้อนโต๊ะ หอมแดง 2 ช้อนโต๊ะ กระเทียม 1 ช้อนโต๊ะ กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ เกลือทะเล 1 ช้อนชา ตำทุกอย่างให้เข้ากันและละเอียด


เพิ่มเติม

ภาค กลาง

แกงเลียง

ความเป็นมา แกงเลียงเป็นแกงน้ำใสที่มีรสเผ็ดร้อนจากพริกไทย จึงน่าจะเป็นแกงโบราณของไทยก่อนที่ไทยจะได้รับอิทธิพลของพริกมาจากชาวโปรตุเกสที่เข้าในสมัยอยุธยา ผักที่ใช้เป็นผักพื้นบ้านที่ปลูกริมรั้วทั้งหมด เช่น ฟักทอง บวบ ตำลึง ใบแมงลัก และใส่กุ้งแห้งเพื่อให้มีรสหวานอร่อย คุณค่าทางโภชนาการ แกงเลียงจัดเป็นอาหารสุขภาพที่มีรสเผ็ดร้อนจากพริกไทย ที่ช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหาร และช่วยให้ระบบไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ฟักทองมีวิตามินเอช่วยบำรุงสายตา ตำลึงมีเบต้าแคโรทีนสูงช่วยกำจัดอนุมูลอิสระ บวบมีใยอาหารสูงและช่วยบำรุงน้ำนม ใบแมงลักมีธาตุเหล็กสูง ช่วยบรรเทาอาการหวัด และแก้วิงเวียนศีรษะ โปรตีนได้จากกุ้งแห้งและเนื้อกุ้งสด ส่วนผสมน้ำพริกแกงเลียง กุ้งแห้งตำละเอียด                       ½    ถ้วย หอมแดงซอย                             ¼    ถ้วย พริกไทยเม็ด                              1     ช้อนโต๊ะ กะปิ                                          1     ช้อนชา ส่วนผสม กุ้งสดแกะเปลือก                         200 กรัม ฟักทองหั่นชิ้นใหญ่                     300 กรัม บวบหั่นชิ้นใหญ่                         300 กรัม ใบตำลึง                                    1     ถ้วย ข้าวโพดอ่อนหั่น                         100 กรัม ใบแมงลัก                                  1     ถ้วย น้ำปลา วิธีทำ ปั่นหรือตำส่วนผสมน้ำพริกแกงเลียงให้เข้ากัน นำไปละลายในน้ำทีละน้อยให้เป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นเติมน้ำซุป หรือน้ำสะอาด ขึ้นตั้งไฟจนเดือด ใส่ฟักทอง ข้าวโพดอ่อน และบวบต้มให้สุกนุ่ม ใส่กุ้งสด


เพิ่มเติม

close[x]
Questionnaire