SLider section

หมูผัดกะปิ

ภาค ใต้

  • recipe image cover

หมูผัดกะปิ

ความเป็นมา

จานนี้เป็นอาหารธรรมดาหาทานง่ายที่ใช้เนื้อสัตว์อย่างหมูมาผัดกับกะปิ เครื่องปรุงติดครัวที่มีกันทุกบ้านมาผัดรวมกัน เพิ่มรสชาติให้อร่อยด้วยรสหวานนิดๆ จากน้ำตาลปี๊บ แต่ยังต้องมีรสเค็มและกลิ่นที่หอมกะปิ อีกทั้งยังต้องใส่สะตอซึ่งถือเป็นผักประจำถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของทางใต้

 

คุณค่าทางโภชนาการ

หมูเป็นเนื้อสัตว์ที่ให้โปรตีนและไขมันสูง อีกทั้งกะปิต้องใช้มากและผัดจนเคลือบชิ้นหมู สะตอเนื้อนุ่มกรอบ รสมัน กลิ่นรุนแรง ต่างก็ให้โปรตีนสูง และจะยิ่งได้สารอาหารสมบูรณ์ยิ่งขึ้นเมื่อกินร่วมกับเนื้อสัตว์ ถือได้ว่าเป็นกับข้าวที่อุดมไปด้วยโปรตีนอีกจานหนึ่ง

 

ส่วนผสม

สันคอหมูหั่นบาง            500 กรัม

กะปิ                               ½    ถ้วย

กระเทียม                      1/4  ถ้วย

น้ำตาลปี๊บ                    3     ช้อนโต๊ะ

พริกขี้หนูสวน               1     ช้อนโต๊ะ

สะตอ                           1     ถ้วย

 

วิธีทำ

ผัดกะปิ และกระเทียมกับน้ำมันพืชเล็กน้อยให้พอมีกลิ่นหอม ใส่หมูผัดให้พอสุก ใส่สะตอ ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ ใส่พริกขี้หนู ผัดเร็วๆ ให้สุกทั่ว ตักเสิร์ฟ

ภาค อีสาน

แกงเปรอะ

    ความเป็นมา แกงเปรอะ หรือแกงลาว เป็นแกงยอดนิยมทางภาคอีสาน มีรสชาติอร่อยสไตล์อีสาน เป็นเมนูรวมวัตถุดิบที่ให้คุณค่าทางสารอาหารมากมาย เช่น ใบย่านาง หน่อไม้และผักต่างๆ   คุณค่าทางโภชนาการ แกงเปรอะมีสรรพคุณหลากหลาย เช่น น้ำใบย่านางช่วยเสริมสร้างภูมิต้านโรคในร่างกายให้แข็งแรงหน่อไม้มีเส้นใยอาหารจำนวนมากจึงทำให้ช่วยระบบขับถ่ายได้เป็นอย่างดีนอกจากนั้นเห็ดฟางและพริกขี้หนูมีวิตามินซีสูง ใบแมงลักมีฤทธิ์ช่วยขับลมในลำไส้ได้อย่างดี   ส่วนผสม หน่อไม้ต้ม                          500    กรัม น้ำใบย่านาง                       4        ถ้วย พริกขี้หนูแดง                      10      กรัม ใบแมงลักเด็ด                      1/2     ถ้วย ต้นหอมหั่น                         1/2     ถ้วย ชะอมเด็ด                           1/2     ถ้วย ข้าวเบือ                              3        ช้อนโต๊ะ เห็ดฟางหั่น                        1/2     ถ้วย ยอดฟักทองเด็ด                 1/2     ถ้วย น้ำปลา                                 3        ช้อนโต๊ะ น้ำปลาร้า                              3        ช้อนโต๊ะ   วิธีทำ โขลกพริกขี้หนูสดหยาบๆ พักไว้ต้มน้ำใบย่านางให้เดือด ใส่พริกโขลก หน่อไม้ ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำปลาร้า ใส่ใบแมงลัก ชะอม เห็ดฟาง ยอดฟักทอง ต้นหอม ข้าวเบือ ต้มพอเดือดยกลงตักใส่ภาชนะ พร้อมเสิร์ฟ    


เพิ่มเติม

ภาค ใต้

ผักเหลียงต้มกะทิกุ้งสด

ความเป็นมา แกงกะทิที่มีทั้งแบบเผ็ดและไม่เผ็ดเป็นอาหารยอดนิยมของคนใต้ ซึ่งมีพื้นที่ติดทะเลและปลูกมะพร้าวมาก อาหารจานนี้นำกะทิมาต้มกับผักพื้นบ้านอย่างผักเหลียง ใส่กุ้ง และใส่หอมแดงให้มีกลิ่นหอม ทีรสหวาน เพิ่มรสเค็มด้วยกะปิ เป็นแกงรสอร่อยที่กินได้คล่องคอ   คุณค่าทางโภชนาการ ใบเหลียงผักพื้นบ้านใบเขียวเนื้อกรอบ รสหวานมัน มีเบต้าแคโรทีนจากสีเขียวอย่าง ซึ่งช่วยต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย ทำให้ไม่ป่วยจากโรคที่คนนิยมเป็นกัน เช่น โรคจากหลอดเลือด โรคหัวใจ ยิ่งเมื่อแกงกับกะทิที่มีไขมันจะช่วยดูดซึมวิตามินได้อย่างดี และยังได้โปรตีนจากเนื้อกุ้งอีกด้วย   ส่วนผสม ผักเหลียง                    500 กรัม กุ้งสด                           200 กรัม กะทิ                             4     ถ้วย หอมแดงบุบ                  40   กรัม กะปิ                              1     ช้อนโต๊ะ น้ำตาล                          2     ช้อนโต๊ะ เกลือ                            1     ช้อนชา วิธีทำ ละลายกะปิกับกะทิเล็กน้อยเพื่อไม่ให้เป็นก้อน จากนั้นเติมกะทิที่เหลือลงไปในหม้อยกขึ้นตั้งไฟ ใส่หอมแดงบุบ รอจนเริ่มเดือด จากนั้นใส่กุ้งสด ปรุงรสด้วยน้ำตาล และเกลือ พอเดือดอีกครั้งใส่ผักเหลียง ต้มต่อให้ผักเหลียงสุกนุ่ม ตักเสิร์ฟ


เพิ่มเติม

ภาค เหนือ

ขนมแตงไทย

    ความเป็นมา ขนมแตงไทย หรือเข้าหนมบ่าแตง จะมีวิธีทำคล้ายกับขนมกล้วย เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ชาวล้านนานิยมรับประทานกัน   คุณค่าทางโภชนาการ แตงไทยมีวิตามินเอสูงมากอีกทั้งยังมีสรรพคุณมากมาย เช่นรับประทานแก้กระหาย ใช้ขับปัสสาวะ บำรุงหัวใจ บำรุงสมอง สามารถบรรเทาอาการไอจากโรคปอด ป้องกันโรควัณโรค แก้โรคทางเดินปัสสาวะอักเสบ   ส่วนผสม แตงไทย                   500    กรัม น้ำตาลทราย             500    กรัม แป้งข้าวเจ้า              400    กรัม แป้งมัน                    100    กรัม มะพร้าว                   1        ถ้วย กะทิ                         3        ถ้วย เกลือป่น                   1        ช้อนชา วิธีทำ ผสมแตงไทย แป้งข้าวเจ้า แป้งมัน กะทิ เข้าด้วยกัน นวดส่วนผสม และขยำแตงไทยให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่น้ำตาลทราย นวดให้เข้ากันจนน้ำตาลละลาย ฉีกใบตองกว้าง 6 นิ้ว ทำเป็นกรวย แล้วใช้ไม้กลัด กลัดใบตอง ตักส่วนผสมใส่ลงในกรวยให้เต็มวางกรวยขนมในรูของชั้นลังถึง โรยมะพร้าวขูด แล้วนำไปนึ่ง ใช้เวลาประมาณ 20 นาที    


เพิ่มเติม

close[x]
Questionnaire