SLider section

ปากเป็ดทอด

ภาค อีสาน

  • recipe image cover

ปากเป็ดทอด

 

 

ความเป็นมา

ปากเป็ดทอดเป็นอาหารที่ชาวอีสานนิยมรับประทานเป็นกับแกล้มหรือกินกับเหล้า ด้วยรสชาติที่เข้มข้นแม้จะไม่มีเนื้อมากนักแต่ก็เป็นที่ถูกใจของคนทานได้อย่างดี

 

คุณค่าทางโภชนาการ

เนื้อเป็ดมีโปรตีนที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย และยังมี ไขมัน และสารอาหารต่างๆ ช่วยในการรักษาปอดและไตให้ทำงานเป็นปกติ บำรุงโลหิต แก้ร้อนใน แก้อาการท้องเสีย รักษา อาการไอ เจ็บคอ ปวดฟัน และที่สำคัญ ยังช่วยเพิ่มสมรรถนะทางเพศอีกด้วย

 

ส่วนผสม

ปากเป็ดสด               500    กรัม

ซอสปรุงรส               1        ช้อนโต๊ะ

ซีอิ้วขาว                    1        ช้อนโต๊ะ

พริกไทยป่น               1/2     ช้อนชา

ผงปรุงรส                    1        ช้อนชา

กระเทียมสับ               100    กรัม

น้ำมันพืชสำหรับทอด

เกลือ                             1/2     ช้อนโต๊ะ

น้ำส้มสายชู                    1        ช้อนโต๊ะ

 

วิธีทำ

นำปากเป็ดคลุกเคล้ากับเกลือ ใช้มือถูให้ทั่ว จากนั้นเติมน้ำส้มสายชูล้างอีกครั้งเพื่อให้หมดกลิ่นสาบ นำไปล้างน้ำสะอาดพักให้สะเด็ดน้ำสับปากเป็ดตามยาวเป็นสองชิ้นใส่ชามผสมใส่ซอสปรุงรส  ซีอิ้วขาว  พริกไทยป่นและผงปรุงรส คลุกเคล้าให้เข้ากัน  ตั้งกระทะใส่น้ำมัน นำกระเทียมลงไปเจียวให้เหลืองแล้วช้อนขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมันนำปากเป็ดลงไปทอด จนปากเป็ดกรอบและสีเหลืองสวย  ตักใส่จานและโรยกระเทียมเจียวที่เตรียมไว้

 

 

ภาค เหนือ

น้ำพริกหนุ่ม

ความเป็นมา พริกหนุ่ม คือพริกที่ยังไม่แก่จัด มีสีเขียวและมีรสเผ็ด น้ำพริกหนุ่ม เป็นน้ำพริกที่มีลักษณะข้น เป็นอาหารของชาวล้านนาที่รู้จักและนิยมกันอย่างแพร่หลาย นิยมซื้อเป็นของฝากเมื่อมาเที่ยวทางภาคเหนือ รับประทานกับแคบหมูและผักสด   คุณค่าทางโภชนาการ พริกหนุ่มมีสารแคปไซซินเป็นตัวช่วยทำให้น้ำตาลในเลือดลดลง จึงช่วยในการบำบัดโรคเบาหวานได้ ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์   ส่วนผสม พริกหนุ่ม                   80      กรัม กระเทียมซอย            2        ช้อนโต๊ะ หอมแดงซอย             2        ช้อนโต๊ะ เกลือป่น                     1        ช้อนชา ผักชีซอย                    1        ช้อนโต๊ะ   วิธีทำ เผา หรือคั่วพริกหนุ่มจนนุ่ม ลอกเปลือกที่ไหม้ออก หั่นเป็นท่อนพักไว้ จากนั้นนำหอมแดงกับกระเทียมตำให้ละเอียด ใส่พริกหนุ่มตำให้แหลกและเข้ากัน ปรุงรสด้วยเกลือ ตักขึ้นเสิร์ฟ โรยหน้าด้วยผักชีซอย    


เพิ่มเติม

ภาค อีสาน

ตำถาด

    ความเป็นมา ตำถาด คือส้มตำที่มีเครื่องเคียงต่างๆวางไว้ด้วยกัน โดยจัดไว้อยู่ในถาด หรือในภาชนะเดียวกัน เพื่อสะดวกในการรับประทานและเพิ่มรสชาติ เป็นส้มตำที่ดัดแปลงมาเพื่อให้ถูกใจคนที่ชื่นชอบการทานส้มตำ   คุณค่าทางโภชนาการ ส้มตำไทย เป็นอาหารสุขภาพ ที่เปี่ยมไปด้วยวิตามินเกลือแร่จากผัก และเครื่องปรุงต่างๆ เช่น มะละกอมีเอนไซน์ปาปีน ที่ช่วยย่อยโปรตีน ทำให้ร่างกายย่อยอาหารได้ดี น้ำมะนาว มะเขือเทศ พริกขี้หนูมีวิตามินซีสูง ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความแก่และลดการเกิดริ้วรอยแห่งวัย นอกจากนี้ยังได้รับประโยชน์ต่างๆจากเครื่องเคียงที่ใส่ลงไป   ส่วนผสม มะละกอดิบสับเป็นเส้น      100    กรัม มะเขือเทศ                         20      กรัม มะกอก                                10      กรัม ปูดอง                                   1        ตัว น้ำปลา                                  1        ช้อนโต๊ะ น้ำปลาร้า                               2        ช้อนโต๊ะ มะนาว                                      1        ลูก กระเทียม                                  5        กรัม พริกขี้หนู                                   5        กรัม มะเขือเปราะ                             10      กรัม เครื่องเคียงตำถาด กุ้งต้มสุก                               100    กรัม ไข่ต้ม                                     1        ฟอง ไส้กรอกอีสานทอด                120    กรัม หมูยอ                                      1/2     ถ้วย แคบหมู                                    1/2     ถ้วย มะเขือเปราะ                             40      กรัม ผักสลัด ขนมจีน วิธีทำ โขลกกระเทียม พริกขี้หนูในครกให้พอแหลก ใส่ถั่วฝักยาวโขลกพอแหลกปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำปลาร้า น้ำมะนาว โขลกเบาๆ ใส่มะละกอ มะเขือเทศหั่นเป็นชิ้น ฝานมะกอกเป็นชิ้นบางใส่ลงโขลกเข้าด้วยกันจัดใส่ถาดไว้ตรงกลางแล้วนำเครื่องเคียงวางโดยรอบ    


เพิ่มเติม

ภาค ใต้

ผักเหลียงต้มกะทิกุ้งสด

ความเป็นมา แกงกะทิที่มีทั้งแบบเผ็ดและไม่เผ็ดเป็นอาหารยอดนิยมของคนใต้ ซึ่งมีพื้นที่ติดทะเลและปลูกมะพร้าวมาก อาหารจานนี้นำกะทิมาต้มกับผักพื้นบ้านอย่างผักเหลียง ใส่กุ้ง และใส่หอมแดงให้มีกลิ่นหอม ทีรสหวาน เพิ่มรสเค็มด้วยกะปิ เป็นแกงรสอร่อยที่กินได้คล่องคอ   คุณค่าทางโภชนาการ ใบเหลียงผักพื้นบ้านใบเขียวเนื้อกรอบ รสหวานมัน มีเบต้าแคโรทีนจากสีเขียวอย่าง ซึ่งช่วยต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย ทำให้ไม่ป่วยจากโรคที่คนนิยมเป็นกัน เช่น โรคจากหลอดเลือด โรคหัวใจ ยิ่งเมื่อแกงกับกะทิที่มีไขมันจะช่วยดูดซึมวิตามินได้อย่างดี และยังได้โปรตีนจากเนื้อกุ้งอีกด้วย   ส่วนผสม ผักเหลียง                    500 กรัม กุ้งสด                           200 กรัม กะทิ                             4     ถ้วย หอมแดงบุบ                  40   กรัม กะปิ                              1     ช้อนโต๊ะ น้ำตาล                          2     ช้อนโต๊ะ เกลือ                            1     ช้อนชา วิธีทำ ละลายกะปิกับกะทิเล็กน้อยเพื่อไม่ให้เป็นก้อน จากนั้นเติมกะทิที่เหลือลงไปในหม้อยกขึ้นตั้งไฟ ใส่หอมแดงบุบ รอจนเริ่มเดือด จากนั้นใส่กุ้งสด ปรุงรสด้วยน้ำตาล และเกลือ พอเดือดอีกครั้งใส่ผักเหลียง ต้มต่อให้ผักเหลียงสุกนุ่ม ตักเสิร์ฟ


เพิ่มเติม

close[x]
Questionnaire