SLider section

ปลาส้ม

ภาค อีสาน

  • recipe image cover

ปลาส้ม

 

 

ความเป็นมา

ปลาส้มคือการถนอมอาหารอย่างหนึ่งของชาวอีสาน เพื่อเก็บรักษาเนื้อปลาที่เน่าเสียง่าย เอาไว้รับประทานได้นานๆ

 

คุณค่าทางโภชนาการ

ปลาเป็นเนื้อสัตว์ที่ให้โปรตีนที่ย่อยง่าย กระเทียมไทยช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อในร่างกาย และช่วยลดคอเลสเตอรอล

 

ส่วนผสม

ปลาตะเพียน             2        ตัว

เกลือป่น                     2        ช้อนโต๊ะ

กระเทียมบดหรือตำ    ½       ถ้วย

ข้าวสุก                         1        ถ้วย

 

วิธีทำ

ขอดเกล็ดปลาและควักไส้ออกจนหมด บั้งปลาข้างละสี่ถึงห้าบั้งนำข้าวสุกกระเทียมกับเกลือไปคลุกกับปลา นวดให้เข้ากันนำปลาที่ได้ใส่ภาชนะ กดตัวปลาให้แน่นและปิดฝา ทิ้งไว้ 1-5  วัน หรือจนกระทั่งปลามีรสเปรี้ยวจึงนำมาทอด

ภาค กลาง

ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา

    ความเป็นมา ลูกชิ้นปลาเป็นเทคนิคการทำอาหารที่มีชื่อเสียงของจีนโดยเฉพาะ เป็นการนำเนื้อปลามาปรุงรส นวดจนเนื้อเหนียว และปั้นเป็นก้อนนำไปลวกให้สุก ลูกชิ้นปลาที่อร่อยเนื้อจะต้องเหนียว ไม่มีกลิ่นคาว นำไปทำอาหารได้หลากหลาย แต่ที่นิยมทั่วไปคือใส่ในก๋วยเตี๋ยวน้ำ น้ำซุปต้องใสรสหวานอร่อย   คุณค่าทางโภชนาการ ลูกชิ้นปลามีโปรตีนใกล้เคียงกับเนื้อปลา เพียงแต่นำมาแปรรูปให้เนื้อแน่นอร่อย ก๋วยเตี๋ยวชามนี้จึงได้โปรตีนจากเนื้อปลา คาร์โบไฮเดรทจากเส้นก๋วยเตี๋ยว และน้ำซุปที่ต้มจากกระดูกไขสันหลังหมูซึ่งคนจีนเชื่อว่าจะทำให้ร่างกายอบอุ่น เส้นหมี่ลูกชิ้นน้ำใส 1 ชาม ให้พลังงาน 225 กิโลแคลอรี   ส่วนผสม เส้นก๋วยเตี๋ยว                                  120    กรัม ลูกชิ้นปลาอย่างกลม                       30      กรัม ลูกชิ้นกุ้ง                                          20      กรัม ลูกชิ้นปลาเส้นหั่นบาง                      20      กรัม ถั่วงอก                                              30      กรัม ต้นหอม ผักชี สำหรับโรยหน้ วิธีทำ ลวกเส้นและถั่วงอกใส่ชาม จัดลูกชิ้นตามลงไป และตักน้ำซุปใส่ โรยต้นหอมผักชี ปรุงรสด้วยพริกน้ำส้ม น้ำตาล น้ำปลา ตามชอบ    


เพิ่มเติม

ภาค เหนือ

แกงกล้วยดิบ

ความเป็นมา แกงกล้วยดิบ เป็นแกงชนิดหนึ่ง ใช้กล้วยน้ำว้าดิบเป็นส่วนผสมเพราะหาได้ทั่วไปกล้วยจึงเป็นที่นิยมที่จะนำมาประกอบอาหารหลากหลายประเภท   คุณค่าทางโภชนาการ กล้วยน้ำว้าช่วยแก้โรคกระเพาะได้ดีเนื่องจากมีสารแทนนิน ซึ่งมีฤทธิ์ในการเคลือบรักษากระเพาะและลำไส้ป้องกันการติดเชื้อ และยังมีฤทธิ์ในการช่วยลดกรดในกระเพาะอาหารได้เป็นอย่างดี   ส่วนผสม กล้วยน้ำว้าดิบ                     400    กรัม เนื้อหมูสามชั้น                    100    กรัม ชะอมเด็ด                             50      กรัม ชะพลูหั่นหยาบ                   50      กรัม หอมแดงซอย                        1     ช้อนโต๊ะ ส่วนผสมพริกแกง พริกขี้หนูแห้ง                      15      เม็ด กระเทียม                            10      กรัม หอมแดง                            30      กรัม ข่าหั่น                                 1        ช้อนโต๊ะ ตะไคร้ซอย                         1        ช้อนโต๊ะ กะปิ                                     1        ช้อนโต๊ะ ปลาร้าต้มสุก                      1        ช้อนโต๊ะ เกลือ                                 1/2     ช้อนชา วิธีทำ ตำหรือปั่นส่วนผสมพริกแกงให้ละเอียด จากนั้นนำไปผัดกับหมูสามชั้นจนมีกลิ่นหอม และหมูเริ่มสุก เติมน้ำให้พอท่วม ตั้งไฟจนเดือด ใส่กล้วยน้ำว้าดิบหั่นเป็นแผ่นบางๆ ตั้งไฟจนเดือดอีกครั้ง ใส่หอมแดงซอย ชะอมเด็ด และใบชะพลู คนให้เข้ากันและผักสุก ตักขึ้นเสิร์ฟ


เพิ่มเติม

ภาค ใต้

ยำลูกมุดใบชะพลู

ความเป็นมา มะมุด ลูกมุด ม่วงมุด ส้มมุด มะม่วงป่า เป็นผลไม้ชนิดเดียวกัน แต่เรียกแตกต่างกันไปตามแต่ละท้องถิ่น มะมุดเป็นผลไม้พันธุ์เดียวกับมะม่วง รสเปรี้ยวกว่า เนื้อแน่นเหนียวกว่า กลิ่นหอมฉุน และลูกโตกว่า คนใต้จึงนิยมนำมาทำอาหารที่ให้รสเปรี้ยว เช่น แกงส้ม ยำ จานนี้นำมะมุดมาซอยแล้วยำใส่มะพร้าวคั่ว บางท้องที่จึงเรียกว่ายำลูกมุดมะพร้าวคั่ว และกินกับใบชะพลู   คุณค่าทางโภชนาการ มะมุดเป็นผลไม้รสเปรี้ยวจึงให้วิตามินซีสูง สามารถช่วยป้องกันไข้หวัดได้อย่างดี และเมื่อนำมายำรวมกับหอมแดง พริก จะให้รสเผ็ดซึ่งช่วยทำให้สมองปลอดโปร่ง ใส่มะพร้าวคั่ว ถั่วลิสง ซึ่งมีโปรตีน เคี้ยวมันๆ อร่อยๆ และกินคู่กับใบชะพลูผักสีเขียวที่มีทั้งเบต้าแคโรทีน และมีแคลเซียมมากถึง 298 มิลลิกรัมใน 100 กรัม   ส่วนผสม ลูกมุดซอย                    1     ถ้วย มะพร้าวคั่ว                   ¾    ถ้วย ถั่วลิสงคั่วบุบหยาบ         1/3  ถ้วย กุ้งแห้งตำ                        1/3  ถ้วย หอมแดงซอย                  ½    ถ้วย พริกขี้หนูซอย                  5     กรัม เกลือ                                 1     ช้อนชา น้ำตาลทราย                    1 1/2      ช้อนโต๊ะ ใบชะพลู   วิธีทำ นำส่วนผสมทั้งหมดใส่ลงในภาชนะสำหรับคลุก หรือจะใส่ลงไปครกเพื่อตำเบาๆให้พอช้ำ ปรุงรสด้วยเกลือ และน้ำตาลทราย กินกับใบชะพลูสด    


เพิ่มเติม

close[x]
Questionnaire