SLider section

น้ำพริกอ่อง

ภาค เหนือ

  • recipe image cover
  • recipe image cover

น้ำพริกอ่อง

ความเป็นมา

น้ำพริกอ่องมีมะเขือเทศเป็นส่วนผสมหลัก เป็นอีกหนึ่งน้ำพริกของชาวล้านนาที่นิยมรับประทานกันอย่างแพร่หลาย  ลักษณะเด่นของน้ำพริกอ่อง คือ มีรสชาติที่ครบ ทั้งเปรี้ยว หวาน เค็ม เผ็ด นิยมรับประทานกับผักสดหรือผักต้มก็ได้

 

คุณค่าทางโภชนาการ

มะเขือเทศช่วยบำรุงผิวพรรณให้ชุ่มชื่นสดใส ไม่แห้งกร้าน มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดและชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัย ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรง และมีวิตามินเอมีส่วนช่วยในการบำรุงสายตา

 

ส่วนผสม

มะเขือเทศผลเล็ก                 200    กรัม

เนื้อหมูสับละเอียด                300    กรัม

น้ำมันพืช                                2        ช้อนโต๊ะ

น้ำปลา                                    2        ช้อนโต๊ะ

ต้นหอม ผักชีหั่นหยาบ           3        ช้อนโต๊ะ

ส่วนผสมพริกแกง

พริกชี้ฟ้าแห้ง                      8        เม็ด

กระเทียม                            10      กรัม

เกลือป่น                              1        ช้อนชา

หอมแดงซอย                      30      กรัม

ถั่วเน่าชนิดแผ่นย่างไฟ        20      กรัม

รากผักชี                               1        ช้อนโต๊ะ

กะปิ                                      1        ช้อนชา

 

วิธีทำ

ปั่นหรือตำส่วนผสมพริกแกงจนละเอียด นำลงไปผัดให้มีกลิ่นหอมใส่หมูสับผัดจนสุก ใส่มะเขือเทศลงไปผัดจนสุกนุ่มและเริ่มแห้งลงเล็กน้อย ปรุงรสด้วยน้ำปลา ชิมรส เมื่อได้ที่ดีแล้วตักขึ้นโรยต้นหอมและผักชี เสิร์ฟ

 

 

ภาค กลาง

ทอดมันกุ้ง

    ความเป็นมา ทอดมันกุ้งเป็นอาหารจีนที่ทั้งคนจีนและคนไทยนิยม เนื้อกุ้งหรือซีฟู้ดเป็นอาหารที่มีรสหวานอร่อยและให้โปรตีนสูง การนำกุ้งมาสับและทำให้เหนียวโดยใส่มันหมูเพื่อไม่ให้เนื้อกุ้งแข็งเกินไปเป็นเคล็ดลับการทำอาหารของจีน เช่นเดียวกับการชุบเกล็ดขนมปังก่อนทอดจะทำให้ผิวนอกกรอบและเนื้อในนุ่ม   คุณค่าทางโภชนาการ กุ้งเป็นอาหารทะเลที่มีวิตามินบี 12 สูงมาก ซึ่งเป็นวิตามินที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของเซลล์ทุกเซลล์ ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดงและเยื่อหุ้มใยประสาทด้วย และมีไอโอดีนที่ช่วยป้องกันโรคคอพอก   ส่วนผสม กุ้งชีแฮ้แกะเปลือก                      ½       กก. มันหมูสับ                                     50      กรัม ไข่ขาว                                         1        ฟอง แป้งข้าวโพด                                 1        ช้อนโต๊ะ น้ำมันงา                                       ½       ช้อนชา เหล้าเฉาชิง                                  1        ช้อนชา พริกไทยป่น เล็กน้อย เกล็ดขนมปังป่นสำหรับชุบทอด 1        ถ้วย น้ำมันสำหรับทอด วิธีทำ สับเนื้อกุ้งผสมกับมันหมูและส่วนผสมอื่น (ยกเว้นเกล็ดขนมปัง) นวดให้เข้ากัน แช่ตู้เย็นไว้ประมาณ 1 ชม. นำมานวดอีกครั้ง ปั้นเป็นชิ้นกลม คลุกเกล็ดขนมปัง ทอดในน้ำมันร้อนท่วม กินกับน้ำจิ้มบ๊วยรสเปรี้ยวหวาน    


เพิ่มเติม

ภาค ใต้

แกงเหลืองหน่อไม้ดองกับปลาอินทรี

ความเป็นมา แกงเหลืองก็คือแกงส้มของภาคกลาง แต่ใส่ขมิ้นจึงมีสีเหลืองและเรียกว่าแกงเหลือง เป็นแกงพื้นบ้านที่ทำง่ายๆ กินกันทั่วไป รสเปรี้ยว เผ็ด เค็ม หวาน แกงเหลืองไม่นิยมรสหวาน และมีรสเผ็ดร้อนเข้มข้นกว่าแกงส้ม แกงนี้สามารถเปลี่ยนส่วนผสมไปตามพืชพรรณของแต่ละท้องที่และเรียกชื่อไปตามพืชผักและเนื้อสัตว์ที่นำมาปรุง เมนูนี้ใช้หน่อไม้ดองที่มีรสเปรี้ยวตามธรรมชาติ รสหวานจากสับปะรด และไม่ทำให้เผ็ดเกินไป ใส่ปลาอินทรีที่ทางใต้มีอย่างอุดมสมบูรณ์   คุณค่าทางโภชนาการ แกงน้ำใสรสสุขภาพที่มีรสหวาน เปรี้ยว จากพืชผักธรรมชาติโดยแท้จริง รสชาติจึงสดชื่นทั้งส้มมะขามและสับปะรดล้วนมีวิตาซีที่ช้วยป้องกันหวัดมีกากใยที่ช่วยป้องกันท้องผูก จานนี้ยังรสเผ็ดของพริกที่ช่วยแก้หวัดคัดจมูกได้อย่างดี และพริกยังมีสารไบโอเฟลโวนอยด์ที่มีคุณสมบัติเป็นสารต้านออกซิเดชั่น ซึ่งอาจจะช่วยป้องกันโรคมะเร็งได้   ส่วนผสม พริกแกง                               ½    ถ้วย หน่อไม้ดอง                           1     ถ้วย ปลาอินทรีหั่นชิ้นใหญ่           300 กรัม สับปะรดหั่นชิ้นบาง                100 กรัม น้ำปลา                                   2     ช้อนโต๊ะ น้ำมะขามเปียก                       2     ช้อนโต๊ะ   ส่วนผสมพริกแกง พริกสด 20 เม็ด ขมิ้นยาว  1 นิ้ว กระเทียม 7 กลีบ  กะปิ  1 ช้อนโต๊ะ เกลือ 1 ช้อนชา ตำทุกอย่างรวมกันให้ละเอียด    


เพิ่มเติม

ภาค อีสาน

แจ่วบอง

    ความเป็นมา แจ่วบองคือน้ำพริกซึ่งเป็นที่นิยมในภาคอีสาน เพราะสามารถทำได้ง่าย และเก็บรักษาไว้ได้นาน สามารถนำไปกินระหว่างการเดินทาง หรือเวลาพักจากการทำนาทำไร่   คุณค่าทางโภชนาการ แจ่วบองมีปลาร้าเป็นส่วนผสมหลัก มีโปรตีนที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย อีกทั้งสมุนไพรต่างๆยังมีสรรพคุณหลากหลาย เช่น พริกขี้หนูมีวิตามินซี หอมแดง ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ บำรุงหัวใจข่ายังช่วยในระบบย่อยอาหารกระเทียมช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อในร่างกาย   ส่วนผสม ปลาร้าสับละเอียด      1        ถ้วย พริกแห้งเม็ดใหญ่        20      เม็ด พริกขี้หนูแห้ง            30      เม็ด กระเทียมจีน             40      กรัม หอมแดง                  80      กรัม ตะไคร้ซอย               60      กรัม ข่าอ่อนหั่นแว่น          10      กรัม น้ำมะขามเปียก น้ำมะนาว วิธีทำ นำพริกแห้ง กระเทียม หอมแดง ข่าอ่อน คั่วจนสุกหอม นำลงโขลกพร้อมตะไคร้ซอยจนละเอียดนำปลาร้าสับละเอียดมาตำคลุกเคล้าให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียกและน้ำมะนาว จัดใส่จานทานคู่กับผักสด      


เพิ่มเติม

close[x]
Questionnaire