SLider section

น้ำพริกอี่เก๋

ภาค เหนือ

  • recipe image cover

น้ำพริกอี่เก๋

 

 

ความเป็นมา

น้ำพริกอี่เก๋ เป็นอีกหนึ่งน้ำพริกซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในภาคเหนือ เนื่องจากใช้ส่วนผสมที่หาได้ง่ายและมีรสชาติที่ถูกปาก

 

คุณค่าทางโภชนาการ

พริกขี้หนู น้ำมะนาว มีวิตามินซีสูงช่วยป้องกันเลือดออกตามไรฟัน กระเทียมช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อในร่างกาย ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง และช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกาย

 

ส่วนผสม

มะเขือขื่นซอย          120    กรัม

แคบหมู                    50      กรัม

พริกขี้หนูสุก              5        กรัม

กระเทียม                  20      กรัม

กะปิ                           1        ช้อนโต๊ะ

น้ำมะนาว                  2        ช้อนโต๊ะ

น้ำตาลทราย             1        ช้อนโต๊ะ

 

วิธีทำ

โขลกพริกขี้หนู กระเทียม และกะปิ รวมกันให้ละเอียดใส่แคบหมู โขลกรวมกันปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย น้ำมะนาว คนให้เข้ากัน เติมน้ำเล็กน้อยใส่มะเขือขื่น คนให้เข้ากัน ตักเสิร์ฟ

 

 

 

 

ภาค กลาง

แกงมัสมั่นไก่

ความเป็นมา พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 ได้ทรงพระราชนิพนธ์ไว้ในกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานความว่า “มัสมั่นแกงแก้วตา หอมยี่หร่ารสร้อนแรง” จึงทราบได้ว่า แกงมัสมั่นได้รับอิทธิพลมาจากอินเดีย เพราะมีส่วนผสมเครื่องเทศที่ขาดไม่ได้อย่าง ลูกผักชี ยี่หร่า ลูกจัน ดอกจันทน์ เม็ดกระวาน กานพลู ซึ่งให้กลิ่นรสที่ร้อนแรง ในตำรับอินเดียจะใช้เฉพาะเครื่องเทศแห้งและไม่ใส่กะทิ แต่ตำรับของไทยมีการใช้สมุนไพรสดในพริกแกง และมีการปรุงรสให้ออกเค็ม หวาน มัน และถูกจัดให้เป็นอาหารอร่อยอันดับ 1 ของโลก โดยเว็บไซต์ ซีเอ็น เอ็น โก เมื่อไม่นานมานี้ คุณค่าทางโภชนาการ แกงมัสมั่นแม้จะเป็นแกงกะทิและมีเนื้อสัตว์มาก แต่เมื่อรับประทานแล้วก็ไม่ได้ทำให้แน่นหรืออิ่มท้องเกินไป เพราะมีเครื่องเทศที่นอกจากช่วยดับกลิ่นคาวของเนื้อสัตว์และทำให้มีกลิ่นหอมชวนกินแล้ว ยังมีสรรพคุณช่วยลดอาการท้องอืดและช่วยย่อย เช่น อบเชย แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ คลื่นไส้ ยี่หร่าช่วยขับลม ขับเสมหะ กานพลูแก้อาการปวดท้อง จุกเสียด  พริกไทยช่วยย่อยอาหาร สบายท้อง ลูกจันทน์ช่วยแก้ไข้ บำรุงตับ ปอด ลดไขมันในเลือด ลูกกระวานแก้อาการท้องอืด อาหารไม่ย่อย และด้วยรสชาติที่กลมกล่อมยังทำให้ทานง่าย สบายท้องอีกด้วย ส่วนผสม กะทิ                                         5     ถ้วย ไก่สับชิ้นใหญ่                            500 กรัม มันฝรั่งหัวเล็ก                             400 กรัม หอมหัวใหญ่หัวเล็ก                     500 กรัม ลูกกระวาน                                10   เม็ด อบเชยยาว 2 นิ้ว                         1     แท่ง ถั่วลิสงคั่ว                                  ¾    ถ้วย น้ำปลา                                     4     ช้อนโต๊ะ น้ำตาลปี๊บ                                 3     ช้อนโต๊ะ น้ำมะขามเปียก                           4     ช้อนโต๊ะ ส่วนผสมเครื่องน้ำพริก พริกแห้งกรีดเม็ดออกแช่น้ำจนนุ่ม 11 เม็ด หอมแดง ½ ถ้วย กระเทียม ½ ถ้วย รากผักชีหั่นฝอย 1 ช้อนโต๊ะ ตะไคร้ซอยบาง ¼ ถ้วย กะปิ 1 ช้อนชา พริกไทยเม็ด 1 ช้อนโต๊ะ ลูกจันทน์ ดอกจัน กานพลู เม็ดกระวานอย่างละ ½ ช้อนชา ลูกผักชี 2 ช้อนโต๊ะ ยี่หร่า 1 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ นำเครื่องแกงมัสมั่นไปผัดกับกะทิให้หอม ใส่เนื้อไก่ลงไปผัดให้พอสุก จากนั้นเติมกะทิ ใส่อบเชย ลูกกระวาน ต้มเคี่ยวจนเดือดและกะทิเริ่มแตกมัน ใส่มันฝรั่ง หอมใหญ่ ถั่วลิสง ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ และน้ำมะขามเปียก ตั้งเคี่ยวต่อให้งวดลงเล็กน้อย และมันฝรั่งสุกดี ตักเสิร์ฟ


เพิ่มเติม

ภาค เหนือ

จิ้นฮุ่ม

    ความเป็นมา จิ๊นฮุ่ม คืออาหารที่ใช้เนื้อสัตว์ในส่วนที่ค่อนข้างเหนียวมาปรุงอาหาร สมัยก่อนนิยมใช้เนื้อวัวตากแห้ง แต่ปัจจุบันนิยมใช้เนื้อหมูแทน   คุณค่าทางโภชนาการ เครื่องแกงจิ๊นฮุ่ม มีคุณค่าทางโภชนาการ เช่นตะไคร้แก้และบรรเทาอาการหวัด อาการไอ ข่าช่วยบำรุงร่างกาย กระเทียมช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อในร่างกายช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง และช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกาย   ส่วนผสม ขาหมู            400    กรัม ตะไคร้           40      กรัม ผักชีลาว         ½       ถ้วย รากผักชี         20      กรัม ผักชีซอย        1        ช้อนโต๊ะ ต้นหอมซอย    1        ช้อนโต๊ะ ส่วนผสมพริกแกง พริกแห้ง        5        เม็ด กระเทียม       5        กรัม หอมแดง        30      กรัม ข่าหั่น             ½       ช้อนโต๊ะ ตะไคร้ซอย      1        ช้อนโต๊ะ ขมิ้นหั่น          5        กรัม กะปิ                1        ช้อนชา เกลือ             ½       ช้อนชา วิธีทำ โขลกส่วนผสมพริกแกงรวมกันให้ละเอียด ตั้งน้ำสะอาดจนเดือด ละลายเครื่องแกงในน้ำ ใส่ขาหมูสับลงในหม้อ ต้มจนเปื่อยใส่ผักชีลาว ตะไคร้หั่นเป็นท่อน รากผักชี ก่อนตักขึ้น โรยผักชีซอย และต้นหอมซอย จัดเสิร์ฟ      


เพิ่มเติม

ภาค ใต้

หมูผัดกะปิ

ความเป็นมา จานนี้เป็นอาหารธรรมดาหาทานง่ายที่ใช้เนื้อสัตว์อย่างหมูมาผัดกับกะปิ เครื่องปรุงติดครัวที่มีกันทุกบ้านมาผัดรวมกัน เพิ่มรสชาติให้อร่อยด้วยรสหวานนิดๆ จากน้ำตาลปี๊บ แต่ยังต้องมีรสเค็มและกลิ่นที่หอมกะปิ อีกทั้งยังต้องใส่สะตอซึ่งถือเป็นผักประจำถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของทางใต้   คุณค่าทางโภชนาการ หมูเป็นเนื้อสัตว์ที่ให้โปรตีนและไขมันสูง อีกทั้งกะปิต้องใช้มากและผัดจนเคลือบชิ้นหมู สะตอเนื้อนุ่มกรอบ รสมัน กลิ่นรุนแรง ต่างก็ให้โปรตีนสูง และจะยิ่งได้สารอาหารสมบูรณ์ยิ่งขึ้นเมื่อกินร่วมกับเนื้อสัตว์ ถือได้ว่าเป็นกับข้าวที่อุดมไปด้วยโปรตีนอีกจานหนึ่ง   ส่วนผสม สันคอหมูหั่นบาง            500 กรัม กะปิ                               ½    ถ้วย กระเทียม                      1/4  ถ้วย น้ำตาลปี๊บ                    3     ช้อนโต๊ะ พริกขี้หนูสวน               1     ช้อนโต๊ะ สะตอ                           1     ถ้วย   วิธีทำ ผัดกะปิ และกระเทียมกับน้ำมันพืชเล็กน้อยให้พอมีกลิ่นหอม ใส่หมูผัดให้พอสุก ใส่สะตอ ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ ใส่พริกขี้หนู ผัดเร็วๆ ให้สุกทั่ว ตักเสิร์ฟ


เพิ่มเติม

close[x]
Questionnaire