SLider section

ทอดมันปลากราย

ภาค กลาง

  • recipe image cover

ทอดมันปลากราย

 

ความเป็นมา

ทอดมันปลาเป็นอาหารไทยที่ใส่เครื่องแกงผสมลงในเนื้อปลาน้ำจืดอย่างปลากราย ซึ่งมีเนื้อละเอียด โดยการตำเนื้อปลาให้เหนียวคล้ายกับลูกชิ้น ใส่น้ำพริกแกงให้มีรสเผ็ด และหอมกลิ่นสมุนไพร ใส่ถั่วฝักยาวหรือถั่วพูหั่นบางให้มีเนื้อสัมผัสกรุบกรอบ ปั้นเป็นชิ้นกลมบางทอดจนสุกเหลือง กินกับน้ำจิ้มรสเผ็ดและเปรี้ยวหวาน

 

คุณค่าทางโภชนาการ

เนื้อปลากรายให้โปรตีนที่มีไขมันต่ำ มีวิตามินและเกลือแร่จากถั่วฝักยาวและถั่วพูพอประมาณ น้ำพริกแกงที่มีส่วนผสมของพริก ข่า ตะไคร้ หอม กระเทียม ช่วยทำให้ท้องไม่อืด และใบมะกรูดจะให้ความสดชื่น ไขมันได้จากน้ำมันที่ใช้ทอด ทอดมัน 3 ชิ้นให้พลังงาน 111 กิโลแคลอรี

 

ส่วนผสม

เนื้อปลากรายขูด                           300    กรัม

ถั่วพูหรือถั่วฝักยาวหั่นบางๆ          100    กรัม

ใบมะกรูดหั่นฝอย                          5        กรัม

น้ำพริกแกง                                   50      กรัม

น้ำปลา                                          1        ช้อนโต๊ะ

ไข่เป็ด                                        ½       ฟอง

ส่วนผสมน้ำจิ้ม พริกชี้ฟ้าแดง 3 เม็ด (กรีดเม็ดออก) กระเทียมหั่นหยาบ 3 ช้อนโต๊ะ น้ำส้มสายชู ½ ถ้วย น้ำตาลทราย ½ ถ้วย เกลือป่น 1 ช้อนชา แตงกวา 6 ลูก (ผ่าสี่หั่นหนา) ผักชี ถั่วลิสงป่น

 

วิธีทำ

ตำพริกกับกระเทียมให้ละเอียด ผสมกับน้ำส้มสายชู น้ำตาลทราย เกลือป่น นำไปตั้งไฟจนเดือดและงวดลง พักไว้ให้เย็น ใส่แตงกวา โรยถั่วลิสงป่น และผักชี

 

วิธีทำทอดมัน

ตำหรือนวดเนื้อปลากรายให้เหนียว ใส่น้ำพริกแกง ไข่ ใบมะกรูด น้ำปลา นวดจนเข้ากันดี ปั้นเป็นชิ้นกลม ทอดในน้ำมันร้อนท่วมจนสุก

 

 

ภาค เหนือ

แกงฮังเล

ความเป็นมา แกงฮังเล หรือ แกงฮินเล เป็นอาหารไทยที่มีต้นกำเนิดจากประเทศพม่า โดยคำว่า “ฮิน” ในภาษาพม่า หมายถึง แกง และ “เล” ในภาษาพม่า หมายถึง เนื้อสัตว์ แกงฮังเลหาทานได้ง่ายเพราะได้รับความนิยมแพร่หลายไปทั่วภาคเหนือ   คุณค่าทางโภชนาการ ขิงมีสรรพคุณหลากหลาย จัดว่าเป็นยาอายุวัฒนะ มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระอยู่เป็นจำนวนมาก ช่วยชะลอความแก่และชะลอการเกิดริ้วรอย ขิงมีฤทธิ์อุ่น ช่วยให้ร่างกายอบอุ่น และช่วยในการขับเหงื่อ   ส่วนผสม หมูสามชั้นหั่นเป็นชิ้น            1        กิโลกรัม ซีอิ๊วดำ                                  1        ช้อนโต๊ะ กระเทียมปอก                     1/2     ถ้วยตวง ขิงสดหั่นฝอย                      1/2     ถ้วยตวง น้ำมะขามเปียก                   1/2     ถ้วยตวง ผงกะหรี่                                1        ช้อนโต๊ะ น้ำปลา                                1/2     ถ้วยตวง น้ำมัน                                  1/2     ถ้วยตวง น้ำตาลปี๊บ                           1/2     ถ้วยตวง น้ำสะอาด                            3        ถ้วยตวง ส่วนผสมพริกแกง พริกแห้งหั่นแว่น                  6        เม็ด กระเทียมซอย                     2        ช้อนโต๊ะ หอมแดงซอย                      2        ช้อนโต๊ะ ตะไคร้ซอย                          1        ช้อนโต๊ะ ข่าซอย                                1        ช้อนชา เกลือป่น                               1        ช้อนชา กะปิ                                     2        ช้อนชา วิธีทำ ตำหรือปั่นส่วนผสมพริกแกงให้ละเอียด นำลงไปผัดกับน้ำมันให้หอม ใส่หมูสามชั้นหั่นชิ้นลงไปผัดให้เริ่มสุก ใส่กระเทียม เติมน้ำสะอาด ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ น้ำปลา ซีอิ๊วดำ ผงกะหรี่ คนให้เข้ากันตั้งไฟอ่อนจนเดือด ใส่ขิงสดหั่นฝอยคนให้เข้ากัน ตั้งต่อจนเดือดอีกครั้ง ตักเสิร์ฟ    


เพิ่มเติม

ภาค กลาง

ต้มข่าไก่

ความเป็นมา ไก่ต้มข่าหรือต้มข่าไก่นั้นคล้ายกับต้มยำแต่มีกะทิเป็นส่วนผสม น้ำแกงจึงมีสีขาวนวล ได้ความหอม หวาน มัน จากกะทิ และกลิ่นของสมุนไพรต่างๆ รวมทั้งรสเผ็ดจากพริกขี้หนู ปรุงให้ได้รสเผ็ด เปรี้ยว เค็ม และต้องมีกลิ่นหอมเด่นของข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด และน้ำมะนาวสด คุณค่าทางโภชนาการ แม้ไก่ต้มข่าจะใช้กะทิซึ่งมีไขมันอิ่มตัว แต่สมุนไพรที่ใส่ล้วนมีสรรพคุณที่มีประโยชน์ทั้งสิ้น เช่น ข่า มีวิตามินซีสูง ช่วยขับลมในกระเพาะอาหารและลำไส้ แก้ปวดมวนท้อง ตะไคร้ มีแคลเซียม ฟอสฟอรัส และเหล็ก ช่วยขับลม ใบมะกรูดให้กลิ่นสดชื่น บรรเทาอาการวิงเวียน หน้ามืดเป็นลม และยังมีรสเปรี้ยวจากน้ำมะนาวซึ่งให้วิตามินซีเป็นอย่างดี ส่วนผสม กะทิสด               2 ถ้วย เนื้อไก่หั่นชิ้น      150 กรัม เห็ดฟาง              ½ ถ้วย ข่าหั่นบาง            ¼ ถ้วย ตะไคร้บุบ             50 กรัม ใบมะกรูด              5 กรัม พริกขี้หนูบุบ ตามชอบ น้ำปลา น้ำมะนาว ผักชีสำหรับโรยหน้า วิธีทำ ตั้งน้ำกะทิ 1 ถ้วย ผสมน้ำสะอาดจะได้เป็นหางกะทิ นำขึ้นตั้งไฟ ใส่ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูดลงไปจนเดือดและมีกลิ่นหอม ใส่เนื้อไก่ ตามด้วยเห็ดฟาง ต้มจนไก่สุกดี ใส่น้ำกะทิที่เหลือ ปรุงรสด้วยน้ำปลา ใส่พริกขี้หนู จากนั้นดับไฟและใส่น้ำมะนาว คนให้เข้ากัน ชิมรสให้ได้เปรี้ยว เค็ม เผ็ด หวานตาม ตักเสิร์ฟ


เพิ่มเติม

ภาค เหนือ

ยำจิ้นไก่

ความเป็นมา ยำจิ้นไก่ มีที่มาจากพิธีเลี้ยงผีไก่ต้มของชาวล้านนา เมื่อทำพิธีเสร็จแล้วก็นำไก่ต้มมาทำยำจิ้นไก่รับประทานกัน แม้ชื่อจะคล้ายกับอาหารประเภทยำ แต่จริงๆ แล้วกลับเป็นอาหารประเภทต้ม   คุณค่าทางโภชนาการ เนื้อไก่มีโปรตีน อีกทั้งส่วนผสมยังมีคุณค่าทางโภชนาการ เช่น เห็ดฟาง มีวิตามินซี จำนวนมากลดการติดเชื้อ ช่วยสมานแผล ป้องกันโรคลักปิดลักเปิด โรคเหงือก ลดอาการผื่นคัน  หัวปลีช่วยในการขับน้ำนมของคุณแม่ที่กำลังให้นมบุตร   ส่วนผสม ไก่ต้ม ฉีกเป็นชิ้น                  150       กรัม เห็ดฟาง ผ่าครึ่ง ต้มสุก           80      กรัม หัวปลีต้ม ฉีกเป็นชิ้น              100      กรัม ผักชีซอย                                 2        ช้อนโต๊ะ ต้นหอมซอย                            2        ช้อนโต๊ะ ผักชีฝรั่งซอย                           2        ช้อนโต๊ะ ส่วนผสมพริกแกง พริกแห้ง                                 5        เม็ด ข่าเผาซอย                             1        ช้อนชา ตะไคร้เผาซอย                       15      กรัม หอมแดงซอย                         30     กรัม กระเทียม                                40     กรัม วิธีทำ ตำหรือปั่นส่วนผสมพริกแกงให้ละเอียด นำเครื่องแกงลงไปผัดให้หอม จากนั้นเติมน้ำสะอาดหรือน้ำซุปลงไป ใส่ไก่ต้ม เห็ดฟาง และหัวปลี ต้มจนเดือด ใส่ผักชีฝรั่งซอย ตักขึ้น โรยหน้าด้วยต้นหอม และผักชี


เพิ่มเติม

close[x]
Questionnaire