SLider section

ต้มแซ่บซี่โครงหมู

ภาค อีสาน

  • recipe image cover

ต้มแซ่บซี่โครงหมู

 

 

ความเป็นมา

ต้มแซ่บเป็นอาหารที่ได้รับความนิยมในภาคอีสานอีกหนึ่งเมนู มีความคล้ายคลึงกับต้มยำในภาคกลางแต่จะใส่พริกป่นแทนพริกสด และเลือกใช้เนื้อสัตว์เช่นหมูและเนื้อวัวมากกว่าเนื้อสัตว์ชนิดอื่น รสชาติของต้มแซ่บจะไม่เปรี้ยวมาก เน้นความกลมกล่อมจากส่วนผสมต่างๆที่ใส่ลงไป

 

คุณค่าทางโภชนาการ

ต้มแซ่บมีสรรพคุณมากมายจากสมุนไพรและผัก เช่นข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด ช่วยให้เจริญอาหาร ขับลม บำรุงร่างกาย และช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดี เห็ดฟาง พริกขี้หนูและมะเขือเทศมีวิตามินซีสูง ผักชีฝรั่งช่วยแก้ท้องอืด ดับกลิ่นปาก

 

ส่วนผสม

กระดูกหมูอ่อน ต้มแล้วหั่นเป็นชิ้น       350    กรัม

เห็ดฟางผ่าครึ่ง                                    1/2     ถ้วย

ตะไคร้หั่นท่อน                                     30      กรัม

ข่าหั่นแว่น                                             10      กรัม

มะเขือเทศสีดา                                     80      กรัม

หอมแดง                                                40      กรัม

น้ำปลา                                                    3        ช้อนโต๊ะ

น้ำมะนาว                                                 3        ช้อนโต๊ะ

ใบมะกรูดฉีก                                             3        กรัม

ผักชีฝรั่งหั่นหยาบ                                     15      กรัม

พริกขี้หนูแห้ง คั่ว                                       8        เม็ด

พริกป่น                                                        1        ช้อนชา

ผักชีเด็ดใบ                                                 10      กรัม

วิธีทำ

ตั้งหม้อใส่น้ำบนไฟกลาง ใส่หอมแดง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด ต้มจนเดือด ใส่กระดูกหมู ต้มสักพักจนสุกนุ่ม ใส่เห็ดฟาง มะเขือเทศ ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว พริกป่น ตักใส่ชามโรยหน้าด้วยผักชี ผักชีฝรั่ง พริกแห้งคั่ว

 

 

ภาค เหนือ

น้ำพริกจิ๊นหมู

    ความเป็นมา น้ำพริกจิ๊นหมูคือการใช้หมูสับโขลกรวมกับพริก หอมแดงและกระเทียม จะได้น้ำพริกผสมเนื้อสัตว์ที่ทานได้ง่ายและถูกปาก สามารถทำรับประทานเองได้ไม่ยาก   คุณค่าทางโภชนาการ เนื้อหมูมีโปรตีนมีส่วนช่วยในการเจริญเติบโตของร่างกาย หอมแดง ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ บำรุงหัวใจกระเทียมช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อในร่างกายช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง และช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกาย   ส่วนผสม เนื้อหมูบด                  100    กรัม พริกชี้ฟ้าย่างไฟ         20      กรัม หอมแดงย่างไฟ          30      กรัม กระเทียมย่างไฟ         10      กรัม เกลือ                           ½       ช้อนชา   วิธีทำ นำหมูสับไปต้มพอสุก ตักขึ้นพักไว้ โขลกพริก หอมแดง กระเทียม รวมกันให้ละเอียด ใส่หมูสับ โขลกให้เข้ากัน จัดใส่ภาชนะทานคู่กับผักสด      


เพิ่มเติม

ภาค กลาง

ต้มยำกุ้ง

ความเป็นมา แกงน้ำใสที่ได้กลิ่นหอมจากน้ำมันหอมระเหยของสมุนไพรไทย เป็นเมนูง่ายๆ ที่สะท้อนความเป็นไทยได้อย่างเด่นชัด ส่วนผสมมีเพียงกุ้ง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด พริก และน้ำมะนาว ก็สามารถปรุงได้รสเปรี้ยว เค็ม เผ็ด ได้อย่างกลมกล่อม ผู้ใหญ่บางท่านบอกว่าในอดีต สีแดงในต้มยำกุ้งเป็นมันกุ้งของกุ้งแม่น้ำที่ใช้มาทำต้มยำ ต่อมาเมื่อกุ้งหายาก พ่อครัวคนจีนจึงใส่น้ำพริกเผาให้มีมันลอยหน้าคล้ายมันกุ้ง อย่างไรก็ตามต้มยำกุ้งได้กลายเป็นอาหารไทยที่รู้จักกันไปทั่วโลก   คุณค่าทางโภชนาการ ต้มยำกุ้งเป็นอาหารจานชุมนุมสมุนไพรที่ทำให้รู้สึกสดชื่น กระชุ่มกระชวย  สมองปลอดโปร่ง เพราะข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด ล้วนมีน้ำมันหอมระเหยที่อบอวลอยู่ในจานอาหาร และมีสรรพคุณช่วยขับลม ให้ความสดชื่น  ผสานไปกับรสหวานของเนื้อกุ้งและเห็ด  กุ้งเป็นอาหารทะเลที่มีโปรตีนสูงแต่ไขมันต่ำ มีวิตามินบี 12 ที่ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง และป้องกันโรคโลหิตจาง   ส่วนผสม กุ้งแม่น้ำหรือกุ้งสดแกะเปลือก ผ่าหลัง   200  กรัม เห็ดฟาง                                    1     ถ้วย ข่าบุบหรือหั่นแว่น                      20   กรัม ตะไคร้บุบ                                  80   กรัม ใบมะกรูด                                  5     กรัม พริกขี้หนู                                  5     กรัม น้ำปลา น้ำมะนาว ผักชีสำหรับโรยหน้า วิธีทำ ตั้งน้ำสะอาด หรือน้ำซุป ใส่ข่า ตะไคร้ ลงไปต้มให้เดือด และมีกลิ่นหอม จากนั้นใส่เห็ดฟาง และกุ้ง ปรุงรสด้วยน้ำปลา ใส่พริกขี้หนู จากนั้นยกลงจากเตาเติมน้ำมะนาว ชิมรสตักเสิร์ฟ


เพิ่มเติม

ภาค ใต้

ข้าวยำสงขลา

ความเป็นมา ข้าวยำเป็นอาหารจานเดียวของคนใต้ที่นำข้าวมากินกับผักสดพื้นบ้านนานาชนิด ซึ่งมีรสต่างๆ กัน  เช่น ผักรสจืด แตงกวา ถั่วฝักยาว ผักรสเผ็ด เช่น ใบชะพลู สมุนไพร เช่น ตะไคร้ ใบมะกรูด ผักทุกอย่างต้องซอยให้บางเพื่อเคี้ยวได้อร่อย  และโรยด้วยมะพร้าวคั่ว กุ้งแห้งตำ ราดด้วยน้ำบูดู ข้าวยำของแต่ละจังหวัดจะแตกต่างกันไปตามความนิยมและพืชผักพื้นบ้านที่หาได้ ถ้าเปรียบไปข้าวยำก็คล้ายกับสลัดของฝรั่ง   คุณค่าทางโภชนาการ ข้าวยำจัดเป็นอาหารครบ 5 หมู่ตามหลักโภชนาการ ไขมันต่ำ มีคาร์โบไฮเดรทจากข้าว ไขมันจากมะพร้าวคั่ว โปรตีนจากกุ้งแห้งและน้ำบูดูซึ่งทำจากปลาหมักที่นำมาปรุงรส ผักสดใบเขียวต่างๆ เป็นแหล่งของเบต้าแคโรทีน วิตามิน และกากใยต่างๆ ที่ช่วยระบายท้อง และยังสามารถจัดเป็นอาหารลดน้ำหนักที่มีคุณค่าทางอาหาร และวิตามินครบถ้วนอีกด้วย   ส่วนผสม ข้าวสวย                        1 ½ ถ้วย ข้าวตังทอด                   1     ถ้วย มะพร้าวคั่วเหลือง          4     ช้อนโต๊ะ กุ้งแห้งป่น                     4     ช้อนโต๊ะ น้ำบูดู                            ½    ถ้วย พริกแห้งป่น เหมือดหรือผักต่างๆ เช่น ถั่วฝักยาวหั่นบางๆ ใบพาโหมหรือใบชะพลูหั่นฝอย ถั่วงอก (เด็ดหาง) แตงกวาหั่น ตะไคร้ซอยบาง เมล็ดกระถิน มะม่วงซอย หรือมะนาว เป็นต้น วิธีทำ ซอยผักทั้งหมดเป็นเส้นๆ หรือซอยหยาบแยกกันไว้ ตักข้าวหุงสุกใส่จาน เรียงผักรอบๆ ให้สวยงาม ตักน้ำบูดูที่ปรุงรสแล้วแยกใส่ถ้วยไว้ เมื่อจะรับประทานนำน้ำบูดูราดลงไปในข้า และคลุกส่วนผสมทั้งหมดรวมกันก่อนรับประทาน    


เพิ่มเติม

close[x]
Questionnaire