SLider section

ข้าวผัดน้ำพริกลงเรือ

ภาค กลาง

  • recipe image cover
  • recipe image cover

ข้าวผัดน้ำพริกลงเรือ

ความเป็นมา

น้ำพริกลงเรือเป็นน้ำพริกที่เจ้าจอมหม่อมราชวงศ์สดับ ลดาวัลย์เป็นผู้คิดค้นขึ้นเมื่อครั้งอยู่วังสวนสุนันทา ซึ่งท่านต้องจัดเตรียมสำรับให้เจ้านายผู้ใหญ่เมื่อยังไม่ถึงเวลาเสวย จึงเข้าไปในห้องเครื่องของเรือเห็นมีน้ำพริกกะปิและเครื่องเคียงเหลืออยู่อย่างละนิดละหน่อย เช่น หมูหวาน ปลาดุกทอดฟู ไข่เค็มแดง จึงนำมารวมกันและนำไปถวายกลายเป็นอาหารจานโปรดและตั้งชื่อว่า น้ำพริกลงเรือ เมื่อเวลาผ่านไปน้ำพริกนี้ก็แพร่หลายในคนทั่วไป พอถึงยุคที่คนไม่มีเวลาจึงนำน้ำพริกมาผัดข้าวกลายเป็นอาหารจานเดียวที่กินได้ง่ายและเร็ว

 

คุณค่าทางโภชนาการ

น้ำพริกลงเรือเป็นทั้งอาหารครบหมู่และครบรสเพราะน้ำพริกกะปิมีรสเค็ม เผ็ด เปรี้ยว หมูหวานมีรสหวาน และปลาดุกฟูมีเนื้อสัมผัสกรุบกรอบและมีโปรตีน เช่นเดียวกับกะปิและหมู เมื่อกินกับผักสดจะเสริมวิตามินต่างๆ ได้

 

ส่วนผสม

ข้าวสวย                            2        ถ้วย

น้ำพริกกะปิ                        3        ช้อนโต๊ะ

หมูหวาน                             3        ช้อนโต๊ะ

ไข่เค็มแดง                           1        ฟอง

ปลาดุกฟูขยี้แหลก                 2        ช้อนโต๊ะ

กระเทียมดองซอยบาง           1        ช้อนโต๊ะ

ผักดิบต่างๆ เช่น ขมิ้นขาว ถั่วพู แตงกวา

 

วิธีทำ

ตั้งกระทะใส่น้ำมันพอร้อน ใส่ข้าวลงไปผัดพร้อมน้ำพริกกะปิ ใส่หมูหวาน ผัดให้เข้ากัน ตักใส่จาน วางไข่แดงหั่นเป็นชิ้นเล็กบนหน้าข้าว โรยปลาดุกฟู และกระเทียมดองซอยบาง

ภาค ใต้

ยำใบบัวบก

ความเป็นมา ยำเป็นอาหารรสจัดนิยมกินกันในภาคกลางและภาคใต้ แต่จะมีส่วนผสมแตกต่างกันไปตามท้องถิ่นและความชอบ ยำใบบัวบกเป็นการนำผักที่นิยมกินสดในถาดผักเหนาะมายำใส่มะพร้าวคั่วให้เคี้ยวมันๆ  ใส่กุ้งแห้งป่น กุ้งสด และมีรสเผ็ดหอมจากหอมแดงซอย   คุณค่าทางโภชนาการ ใบบัวบกใบสีเขียวกลมหยัก รสมันน้อยๆ มีสรรพคุณช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย ช่วยทำให้ความจำและสมองทำงานได้ดี ซึ่งตรงกับคัมภีร์อายุรเวทของพราหมณ์ที่บอกว่าใบบัวบกทำให้สมองสีเทาและสีขาวแข็งแรง ใบบัวบก 100 กรัมมีวิตามินบี 1 หรือไทอามีน 0.24 มิลลิกรัมซึ่งมากกว่าผักอื่นๆ มีเบต้าแคโรทีน 238 ไมโครกรัม ซึ่งเป็นสารที่ทำให้ไม่เป็นโรคหัวใจขาดเลือดและมะเร็ง ซึ่งเป็นโรคที่คนปัจจุบันเป็นกันมาก ยำใบบัวบกจานนี้จึงช่วยได้เป็นอย่างดี   ส่วนผสม ใบบัวบกซอยละเอียด            2     ถ้วย หอมเล็กซอย                          1     ถ้วย กุ้งแห้งป่น                               ¼    ถ้วย มะพร้าวคั่ว                              ¼    ถ้วย กุ้งลวกหรือย่าง หั่นชิ้นเล็ก     100 กรัม ส่วนผสมน้ำยำ น้ำตาลปี๊บ                    1 ½ ช้อนโต๊ะ น้ำปลา                        2     ช้อนชา น้ำมะนาว                    2     ช้อนโต๊ะ กะปิย่าง                       2     ช้อนชา พริกขี้หนูซอย               5     กรัม   วิธีทำ ผสมส่วนผสมน้ำยำเข้าด้วยกัน จากนั้นนำมาคลุกเค้ากับเครื่องยำให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ    


เพิ่มเติม

ภาค อีสาน

ปลาดุกย่าง

    ความเป็นมา ปลาดุกเป็นปลาที่นิยมรับประทานกันมาก เนื่องจากราคาถูกและรสชาติอร่อย ปลาดุกย่างชาวอีสานนิยมรับประทานคู่กับข้าวเหนียวส้มตำเพราะเข้ากันดี และนอกจากนั้นยังถูกนำไปดัดแปลงเป็นเมนูอื่นๆอีกมากมาย   คุณค่าทางโภชนาการ ปลาดุกมีโปรตีนที่ย่อยได้ง่าย  สรรพคุณช่วยเสริมสร้างเนื้อเยื่อและซ่อมแซมร่างกายส่วนที่สึกหรอไขมันที่มีอยู่ในเนื้อปลาเป็นส่วนประกอบของเซลล์ต่างๆ โดยเฉพาะสมอง มีวิตามิน และแร่ธาตุที่ช่วยควบคุมการทำงานของร่างกายให้ทำหน้าที่ได้ตามปกติ   ส่วนผสม ปลาดุก ผ่าท้อง ควักไส้ออก               2        ตัว ตะไคร้ซอย                                  1/2     ถ้วยตวง ขมิ้น                                          5        กรัม กระเทียม                                    10      กรัม ซีอิ้วขาว                                      2        ช้อนโต๊ะ พริกไทยดำ                                  1/2     ช้อนชา   วิธีทำ นำตะไคร้ ขมิ้น กระเทียม และพริกไทยมาโขลกรวมกันให้พอแหลก ใส่ซีอิ้วขาว นำปลาดุกที่เตรียมไว้ลงไปคลุกเคล้าให้ทั่ว หมักทิ้งไว้ 1 ชั่วโมง นำไม้มาเสียบปลาดุกตั้งแต่ปากถึงหาง นำขึ้นย่างบนเตาไฟจนสุกดีทั้ง 2 ด้าน ยกลงจากเตา เสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้มแจ่ว      


เพิ่มเติม

ภาค อีสาน

แกงเปรอะ

    ความเป็นมา แกงเปรอะ หรือแกงลาว เป็นแกงยอดนิยมทางภาคอีสาน มีรสชาติอร่อยสไตล์อีสาน เป็นเมนูรวมวัตถุดิบที่ให้คุณค่าทางสารอาหารมากมาย เช่น ใบย่านาง หน่อไม้และผักต่างๆ   คุณค่าทางโภชนาการ แกงเปรอะมีสรรพคุณหลากหลาย เช่น น้ำใบย่านางช่วยเสริมสร้างภูมิต้านโรคในร่างกายให้แข็งแรงหน่อไม้มีเส้นใยอาหารจำนวนมากจึงทำให้ช่วยระบบขับถ่ายได้เป็นอย่างดีนอกจากนั้นเห็ดฟางและพริกขี้หนูมีวิตามินซีสูง ใบแมงลักมีฤทธิ์ช่วยขับลมในลำไส้ได้อย่างดี   ส่วนผสม หน่อไม้ต้ม                          500    กรัม น้ำใบย่านาง                       4        ถ้วย พริกขี้หนูแดง                      10      กรัม ใบแมงลักเด็ด                      1/2     ถ้วย ต้นหอมหั่น                         1/2     ถ้วย ชะอมเด็ด                           1/2     ถ้วย ข้าวเบือ                              3        ช้อนโต๊ะ เห็ดฟางหั่น                        1/2     ถ้วย ยอดฟักทองเด็ด                 1/2     ถ้วย น้ำปลา                                 3        ช้อนโต๊ะ น้ำปลาร้า                              3        ช้อนโต๊ะ   วิธีทำ โขลกพริกขี้หนูสดหยาบๆ พักไว้ต้มน้ำใบย่านางให้เดือด ใส่พริกโขลก หน่อไม้ ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำปลาร้า ใส่ใบแมงลัก ชะอม เห็ดฟาง ยอดฟักทอง ต้นหอม ข้าวเบือ ต้มพอเดือดยกลงตักใส่ภาชนะ พร้อมเสิร์ฟ    


เพิ่มเติม

close[x]
Questionnaire