SLider section

กุ้งแม่น้ำต้มมะม่วง

ภาค ใต้

  • recipe image cover

กุ้งแม่น้ำต้มมะม่วง

ความเป็นมา

กุ้งแม่น้ำเป็นกุ้งที่มีมันกุ้งมากเมื่อนำมาต้มจึงมีความหอมมัน และสีแดงชวนกิน เมื่อใส่มะม่วงเปรี้ยวที่หาได้ง่ายมีรสเปรี้ยวหอมตามธรรมชาติลงไปต้มด้วยกัน แกงนี้จึงเป็นแกงน้ำใสที่ใช้รสเปรี้ยวของมะม่วงใช้แทนน้ำมะนาว รสชาติเหมือนต้มยำของภาคกลาง

 

คุณค่าทางโภชนาการ

กุ้งแม่น้ำเป็นกุ้งน้ำจืดที่มีโปรตีนเหมือนกุ้งทั่วไป แต่มีมันมากซึ่งจะให้ไขมันมากกว่า มะม่วงเป็นแหล่งของวิตามินซี เมื่อนำมาต้มรวมกันใส่สมุนไพรสด เช่น หอม กระเทียม พริก จึงมีกลิ่นหอมอโรมาที่ช่วยให้สดชื่น สมองปลอดโปร่งโดยเฉพาะถ้ากินในฤดูร้อนจะช่วยขับเหงื่อได้อย่างดี

 

ส่วนผสม

กุ้งแม่น้ำ                                 1        กิโลกรัม

มะม่วงเปรี้ยวสับเป็นเส้น        100    กรัม

หอมแดงซอย                        30      กรัม

กระเทียมบุบ                          10      กรัม

พริกขี้หนูซอย                         5        กรัม

เกลือ น้ำตาล น้ำปลาอย่างละเล็กน้อย

น้ำสะอาด                                2        ถ้วย

วิธีทำ

นำหม้อใส่น้ำตั้งไฟ ใส่กระเทียมบุบ พอเดือดใส่กุ้งแม่น้ำ รอให้เดือดอีกครั้งปรุงรสด้วยเกลือ น้ำตาล และน้ำปลา ปิดไฟยกลงจากเตา ใส่มะม่วงสับ หอมแดง พริกขี้หนู ปรุงและชิมรสอีกครั้งให้ได้ 3 รส แต่มีรสเปรี้ยวนำ

 

 

ภาค อีสาน

ข้าวจี่

    ความเป็นมา ข้าวจี่เป็นอาหารพื้นบ้านที่นิยมรับประทานกันทั้งในภาคอีสานและภาคเหนือ เพราะทั้งสองภาคนี้นิยมทานข้าวเหนียวเป็นหลัก คนอีสานจึงนำข้าวเหนียวมาปิ้ง กลายเป็นข้าวจี่อาหารว่างที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย   คุณค่าทางโภชนาการ ข้าวเหนียวมีคาร์โบไฮเดรตช่วยให้ร่างกายอบอุ่น อีกทั้งยังมีวิตามินและแร่ธาตุต่างๆที่ร่างกายต้องการ เช่นธาตุเหล็ก และกรดโฟลิค มีสรรพคุณในการสร้างเม็ดเลือด ทำให้เม็ดเลือดสมบูรณ์   ส่วนผสม ข้าวเหนียวนึ่ง            500    กรัม กะทิ                           1/2     ถ้วย ไข่ไก่                          2        ฟอง เกลือ                           1/2     ช้อนชา   วิธีทำ ผสมกะทิและเกลือ ใส่ลงในชามข้าวเหนียว นวดให้เข้ากันปั้นข้าวเหนียว แล้วเสียบไม้นำไปย่างไฟอ่อนๆ ให้เกรียมเล็กน้อยพักไว้จากนั้นตีไข่ไก่ให้เข้ากัน นำข้าวจี่ชุบไข่นำไปย่างไฟอ่อนๆ อีกครั้ง ให้เป็นสีเหลืองสวย    


เพิ่มเติม

ภาค กลาง

แกงเขียวหวานเนื้อ

ความเป็นมา แกงกะทิที่ใช้พริกชี้ฟ้าเขียวแทนพริกแดงในส่วนผสมพริกแกงจึงทำให้มีสีเขียว และยังมีลูกผักชี ยี่หร่า ซึ่งเป็นเครื่องเทศของชาวอาหรับหรืออินเดีย รวมไปถึงการใช้เนื้อวัวที่คล้ายกับอาหารของชาวมุสลิม แสดงให้เห็นว่าแกงเขียวหวานเป็นแกงที่ได้รับอิทธิพลมาจากต่างชาติ และคนไทยก็นำมาปรุงแต่งให้มีเอกลักษณ์จนเป็นที่ยอมรับของชาวต่างชาติ คุณค่าทางโภชนาการ แกงกะทิจานนี้ได้โปรตีนสูงจากเนื้อวัวที่อุดมไปด้วยสารอาหารต่างๆ และแร่ธาตุที่มีประโยชน์โดยเฉพาะธาตุเหล็กและสังกะสีที่จำเป็นต่อร่างกาย ส่วนกะทิที่เป็นไขมันอิ่มตัวก็สมดุลด้วยสมุนไพรที่มีอยู่ในเครื่องพริกแกง มะเขือพวงมีแคลเซียมและฟอสฟอรัสสูง ช่วยให้เหงือกและฟันแข็งแรง  มะเขือพวง 100 กรัม มีแคลเซียม 158 มิลลิกรัม และฟอสฟอรัส 110 มิลลิกรัม ส่วนผสม กะทิ                                         4     ถ้วย น้ำพริกแกงเขียวหวาน            ½    ถ้วย เนื้อหั่นบาง                              300 กรัม มะเขือเปราะ                            100 กรัม มะเขือพวง                               20   กรัม น้ำปลา                                     3     ช้อนโต๊ะ น้ำตาลปี๊บ                                 1     ช้อนโต๊ะ ใบโหระพา                                50   กรัม พริกชี้ฟ้าเขียวหั่นแฉลบสำหรับโรยหน้า ส่วนผสมเครื่องพริกแกงเขียวหวาน พริกชี้ฟ้าเขียวกรีดเม็ดออก 11 เม็ด ตะไคร้ซอยบาง  ¼ ถ้วย หอมแดงซอย ¼ ถ้วย กระเทียม 2 ช้อนโต๊ะ ผิวมะกรูดหั่นฝอย 1 ช้อนชา รากผักชีหั่นฝอย 1 ช้อนชา พริกไทยเม็ด 1 ช้อนชา กะปิ 1 ช้อนชา ลูกผักชีคั่ว 4 ช้อนชา ยี่หร่าคั่ว 2 ช้อนชา ตำหรือปั่นทุกอย่างรวมกันจนละเอียด ถ้าต้องการให้มีสีเขียวเข้มสวยใส่ใบพริกลงไปตำด้วย วิธีทำ ผัดพริกแกงกับกะทิให้มีกลิ่นหอม อาจจะต้องผัดนานเล็กน้อยเพื่อทำให้เครื่องแกงสุก และไม่มีกลิ่นเหม็นเขียว จากนั้นนำเนื้อลงไปผัดให้พอสุก ใส่กะทิและน้ำซุปเล็กน้อย ตั้งจนเดือดและมีกลิ่นหอม ใส่มะเขือเปราะ และมะเขือพวง ปรุงรสด้วยน้ำปลา และน้ำตาลปี๊บ เมื่อเดือดอีกครั้งให้ใส่ใบโหระพา ตักขึ้นเสิร์ฟร้อนๆ


เพิ่มเติม

ภาค อีสาน

ปลาร้าสับทรงเครื่อง

ความเป็นมา ปลาร้าเป็นการถนอมอาหารที่นิยมของทางภาคเหนือและภาคอีสาน ชาวอีสานใช้ปลาร้าเป็นเครื่องปรุงหลักในส่วนผสมของอาหารเกือบทุกชนิด ปลาร้าสับทรงเครื่องเป็นอีกเมนูหนึ่งซึ่งเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายซึ่งเป็นเมนูที่มีวิธีการทำง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก   คุณค่าทางโภชนาการ โปรตีนจากปลาร้า ช่วยป้องกันการสะสมตัวของไขมันอิ่มตัวหรือคลอเลสเตอรอล น้ำมะนาวมีวิตามินซีสูงข่า ตะไคร้ ใบมะกรูดช่วยให้เจริญอาหาร ขับลม บำรุงร่างกาย และช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดี   ส่วนผสม ปลาร้า(ใช้เฉพาะเนื้อ)                1        ถ้วย พริกขี้หนู                                  8        กรัม ตะไคร้หั่นฝอย                          6        ช้อนโต๊ะ ข่าอ่อนสับ                                2        ช้อนโต๊ะ ใบมะกรูดหั่นฝอย                      2        ช้อนโต๊ะ กระชายสับ                               2        ช้อนโต๊ะ หอมแดงสับ                              7        ช้อนโต๊ะ กระเทียมสับ                             7        ช้อนโต๊ะ น้ำมะขาม น้ำตาล   วิธีทำ ตำพริก ตะไคร้ ข่า ใบมะกรูด กระชาย หอมแดง กระเทียม ให้ละเอียด จากนั้นใส่เนื้อปลาร้าสับแล้ว ปรุงรสด้วยน้ำตาล และน้ำมะขามเปียก คลุกให้เข้ากัน เสิร์ฟคู่ผักสด    


เพิ่มเติม

close[x]
Questionnaire